ข้ามไปเนื้อหา

การภาคยานุวัติเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนของติมอร์-เลสเต

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ติมอร์-เลสเต (สีแดง) และรัฐสมาชิกของอาเซียนที่เหลือ (สีน้ำเงิน)

กระบวนการภาคยานุวัติเข้าเป็นรัฐสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ของประเทศติมอร์-เลสเต เริ่มต้นขึ้นหลังจากการได้รับเอกราชเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2545 เมื่อผู้นำประเทศในขณะนั้นระบุว่าได้ "ตัดสินใจเชิงกลยุทธ์" ที่จะเข้าร่วมเป็นรัฐสมาชิกของอาเซียนในอนาคต[1] พรรคการเมืองทั้งหมดในประเทศติมอร์-เลสเต สนับสนุนความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นกับอาเซียน[2] ประเทศติมอร์-เลสเต ได้ยื่นขอเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2554 รัฐสมาชิกอาเซียนตกลงในหลักการที่จะรับประเทศนี้ในปี พ.ศ. 2565 และผู้นำรัฐสมาชิกทุกคนได้ร่วมกันลงนามในปฏิญญาว่าด้วยการภาคยานุวัติเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนของติมอร์-เลสเต เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2568 ในพิธีเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47[3][4][5]

ติมอร์-เลสเตมีอัตราผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) น้อยที่สุดในอาเซียน โดยคิดเป็นเพียง 15% ของจีดีพีในประเทศลาวที่มีอัตราจีดีพีน้อยที่สุดในกลุ่มรัฐสมาชิกอาเซียนก่อนหน้านี้[6]

ข้อกำหนดการเข้าร่วม

[แก้]
อาดัลจีซา มักโน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือของติมอร์-เลสเต เยี่ยมชมสำนักเลขาธิการอาเซียน โดยมี เกา กึมฮวน เป็นเจ้าภาพ

กฎบัตรอาเซียนกำหนดเกณฑ์การเป็นสมาชิกดังต่อไปนี้[7]

  • รัฐจะต้องตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  • รัฐจะต้องได้รับการยอมรับจากรัฐสมาชิกอาเซียนทุกแห่ง
  • รัฐจะต้องยินยอมผูกพันตามกฎบัตรอาเซียน
  • รัฐจะต้องสามารถและเต็มใจที่จะปฏิบัติตามพันธกรณีของสมาชิก เช่น
    • การคงไว้ซึ่งสถานทูตในรัฐสมาชิกปัจจุบันทั้งหมดของกลุ่ม
    • การเข้าร่วมการประชุมสุดยอดและการประชุมระดับรัฐมนตรีทุกครั้ง
    • การเข้าร่วมสนธิสัญญา คำประกาศ และข้อตกลงทั้งหมดในกลุ่ม

ปัญหาในการเป็นสมาชิกของติมอร์-เลสเต

[แก้]

เพื่อการเข้าเป็นสมาชิกอาเซียน ประเทศติมอร์-เลสเต จำเป็นต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขและพันธกรณีขององค์กรอย่างครบถ้วน ซึ่งรวมถึงความสามารถในการปฏิบัติตามข้อกำหนดสำหรับการเข้าร่วมในสามเสาหลัก ได้แก่ การเมืองและความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคมวัฒนธรรม แม้ว่าจะไม่มีข้อกำหนดในการเป็นสมาชิกที่เกี่ยวข้องกับระดับการพัฒนาของประเทศ แต่บางประเทศเคยคัดค้านการเข้าร่วมเป็นสมาชิกอาเซียนของติมอร์-เลสเต เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศยังพัฒนาไม่เต็มที่[8][9][10] อินโดนีเซีย มาเลเซีย บรูไน ไทย กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และเมียนมาร์ สนับสนุนติมอร์-เลสเตในการต้องการเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบ แต่มีการแสดงความกังวลอย่างลับ ๆ ว่าอาเซียนมีปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชนและความขัดแย้งภายในกับเมียนมาร์มามากพอแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิงคโปร์ ที่สงสัยว่าติมอร์-เลสเต จะสามารถรับมือกับปัญหาหลังการภาคยานุวัติได้หรือไม่ ซึ่งข้อคัดค้านเหล่านี้ได้รับการแก้ไขในที่สุดในปี พ.ศ. 2568[11][12][13]

ติมอร์-เลสเต เป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในเอเชีย เผชิญกับความท้าทายมากมาย รวมถึงการรักษาความมั่นคง การพัฒนาเศรษฐกิจ ความพยายามในการปราบปรามการทุจริตในงบประมาณแผ่นดิน และการพึ่งพาการส่งออกน้ำมันเป็นอย่างมาก เนื่องจากคิดเป็น 80–90% ของรายได้ทั้งหมด[14] นอกจากนี้ การปรับปรุงระบบสุขภาพและการศึกษาก็เป็นสิ่งสำคัญ โครงสร้างพื้นฐานของประเทศยังค่อนข้างด้อยพัฒนา[15] และอัตราการรู้หนังสืออยู่ที่ประมาณ 72% ในปี 2022[16] ข้อมูลจากธนาคารโลกในปี พ.ศ. 2555 ติมอร์-เลสเตมีประชากร 1,200,000 คน และมีอัตราผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) 1.29 พันล้านเหรียญสหรัฐ[17] ซึ่งคิดเป็นเพียง 15% ของรัฐสมาชิกอาเซียนที่มีขนาดเศรษฐกิจเล็กที่สุดก่อนหน้านี้คือ ประเทศลาว ที่มีจีดีพี 9.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ[6][18] ดังนั้น การเร่งรัดการเข้าร่วมอาเซียนของติมอร์-เลสเตในขณะนั้น จึงถูกมองว่าเป็นการรีบร้อนเกินไป

ภายในปี พ.ศ. 2558 ติมอร์-เลสเต ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดหลักสามประการ ได้แก่ ประเทศตั้งอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รับการยอมรับจากรัฐสมาชิกอาเซียนทั้งหมด และเปิดสถานทูตในรัฐสมาชิกอาเซียนทุกแห่ง[19]

แผนงานการเป็นสมาชิกในปี พ.ศ. 2566 ครอบคลุมขั้นตอนต่าง ๆ มากมายที่ติมอร์-เลสเต ต้องปฏิบัติ เช่น ความสามารถในการจัดการประชุมขนาดใหญ่ และเจ้าหน้าที่รัฐบาลที่พูดภาษาอังกฤษได้เพียงพอ[20]

ลำดับเหตุการณ์ความสัมพันธ์กับอาเซียน

[แก้]
เส้นเวลา
วันที่ เหตุการณ์
20 พฤษภาคม พ.ศ. 2545 ติมอร์-เลสเต แยกตัวออกจากอินโดนีเซีย และได้รับการยอมรับให้เป็นผู้สังเกตการณ์อาเซียน[9]
26 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 ติมอร์-เลสเต เข้าร่วมการประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เออาร์เอฟ) ในระหว่างการประชุมครั้งที่ 12 ที่เวียงจันทน์ ประเทศลาว[21][22][1] หลังจากการพิจารณาเป็นรายกรณี และความล่าช้าในการให้ประเทศปากีสถานเข้าร่วมการประชุมเออาร์เอฟ เนื่องจากประเทศอินเดียคัดค้าน[23]
13 มกราคม พ.ศ. 2550 ติมอร์-เลสเต ลงนามในสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้[24][25]
4 มีนาคม พ.ศ. 2554 ติมอร์-เลสเต สมัครเข้าเป็นรัฐสมาชิกอาเซียนอย่างเป็นทางการ[4]
6 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 อาเซียนจัดตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับติมอร์-เลสเตขึ้น[26] คณะทำงานชุดนี้จะตรวจสอบคุณสมบัติและความพร้อมของติมอร์-เลสเต ในการเข้าร่วมประชาคมอาเซียน ซึ่งประกอบด้วย 3 เสาหลัก ได้แก่ ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน[27]
22 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 ติมอร์-เลสเต ส่งคณะผู้แทนจำนวน 20 คน เข้าร่วมการประชุมวิชาการของสำนักเลขาธิการอาเซียน ถือเป็นคณะผู้แทนจากรัฐบาลติมอร์-เลสเต ชุดใหญ่ที่สุดที่เดินทางมาเยือนสำนักเลขาธิการอาเซียน ก่อนที่ติมอร์-เลสเตจะเข้าร่วม ซึ่งนำและประสานงานโดยอธิบดีกรมอาเซียน ในกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือ คณะผู้แทนประกอบด้วยอธิบดีและผู้ประสานงานหลักจากกระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินงานเพื่อมุ่งสู่การเข้าร่วมอาเซียนในทั้ง 3 เสาหลัก ครอบคลุมประเด็นสำคัญต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการเรียนรู้เกี่ยวกับกรอบสถาบันและโครงสร้างองค์กรของอาเซียน หน่วยงานและกระบวนการตัดสินใจ เครื่องมือและข้อตกลงทางกฎหมาย และความร่วมมือทางวิชาการ[28]
3 กันยายน พ.ศ. 2562 ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน (เอพีเอสซี) เริ่มพิจารณากลั่นกรองคุณสมบัติของติมอร์-เลสเต[29]
6 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (เอเอสซีซี) เริ่มพิจารณากลั่นกรองคุณสมบัติของติมอร์-เลสเต[30]
19 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) เริ่มพิจารณากลั่นกรองคุณสมบัติของติมอร์-เลสเต ในระหว่างภารกิจค้นหาข้อเท็จจริงของเออีซีเป็นเวลา 3 วัน ผู้แทนได้พบปะกับกระทรวง/หน่วยงานรัฐบาลสำคัญของติมอร์-เลสเตที่เกี่ยวข้องกับการเข้าร่วมความตกลงว่าด้วยเศรษฐกิจอาเซียนของประเทศ นอกจากนี้ ยังมีการประชุมกับหอการค้าและอุตสาหกรรมของติมอร์-เลสเต รวมถึงภาคธุรกิจ[30]
11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 อาเซียนตกลง "ในหลักการ" ที่จะยอมรับติมอร์-เลสเต เข้าเป็นสมาชิกอาเซียน และมอบสถานะผู้สังเกตการณ์ในการประชุมระดับสูงของอาเซียนทั้งหมดให้[31]
25 ตุลาคม พ.ศ. 2568 ติมอร์-เลสเต ยื่นภาคิยานุวัติสารเข้าร่วมเป็นสมาชิกอาเซียน[32][33] และลงนามในสนธิสัญญาเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้[34]
26 ตุลาคม พ.ศ. 2568 ผู้นำรัฐสมาชิกอาเซียนทั้งหมดลงนามในปฏิญญาว่าด้วยการภาคยานุวัติเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนของติมอร์-เลสเต ทำให้ติมอร์-เลสเต ได้รับการยกระดับขึ้นเป็นรัฐสมาชิกอาเซียนลำดับที่ 11 อย่างเป็นทางการ[3]

ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับประเทศสมาชิกอาเซียน

[แก้]
  • ประเทศไทย ไทย (20 พฤษภาคม พ.ศ. 2545)[35]
  • ประเทศบรูไน บรูไน (20 พฤษภาคม พ.ศ. 2545)[36]
  • ประเทศมาเลเซีย มาเลเซีย (20 พฤษภาคม พ.ศ. 2545)[37]
  • ประเทศฟิลิปปินส์ ฟิลิปปินส์ (20 พฤษภาคม พ.ศ. 2545)[38][39]
  • ประเทศสิงคโปร์ สิงคโปร์ (20 พฤษภาคม พ.ศ. 2545)[40]
  • ประเทศอินโดนีเซีย อินโดนีเซีย (2 กรกฎาคม พ.ศ. 2545)[41]
  • ประเทศเวียดนาม เวียดนาม (28 พฤษภาคม พ.ศ. 2545)[42]
  • ประเทศกัมพูชา กัมพูชา (29 พฤษภาคม พ.ศ. 2545)[43]
  • ประเทศลาว ลาว (29 พฤษภาคม พ.ศ. 2545)[44]
  • ประเทศพม่า เมียนมาร์ (26 กันยายน พ.ศ. 2549)[45]

รัฐผู้สังเกตการณ์อื่น ๆ

[แก้]
  • ประเทศปาปัวนิวกินี ปาปัวนิวกินี (22 กรกฎาคม พ.ศ. 2545)[46]

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1 2 "East Timor Needs Five Years to Join ASEAN: PM". Secretary-General of ASEAN. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 June 2007. สืบค้นเมื่อ 26 August 2019.{{cite web}}: CS1 maint: unfit URL (ลิงก์)
  2. "Political Parties and Groupings of Timor-Leste" (PDF). Australian Labor Party's International Projects Unit. May 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 21 December 2008. สืบค้นเมื่อ 26 August 2019.
  3. 1 2 "Forging a New Era: Timor-Leste Admitted into ASEAN". ASEAN. 2025-10-26. สืบค้นเมื่อ 2025-10-26.
  4. 1 2 McGeown, Kate (4 March 2011). "East Timor applies to join Asean". BBC News. สืบค้นเมื่อ 26 August 2019.
  5. Yusry, Muhammad (2025-10-25). "'Welcome to the Asean Family': Timor-Leste takes final step toward full membership with document handover". Malay Mail (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2025-10-25.
  6. 1 2 Aung, Nyan Lynn; Mclaughlin, Tim (7 November 2013). "Timor Leste on the ASEAN waiting list". Myanmar Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 March 2021. สืบค้นเมื่อ 26 August 2019.
  7. Thuzar, Moe (June 2, 2017). "What does it take to join ASEAN?" (PDF). ISEAS Yusof Ishak Institute (2017). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 22 May 2023. สืบค้นเมื่อ 27 February 2023.
  8. Hou Qiang (29 April 2013). "Timor Leste faces uphill to join ASEAN". Xinhua News Agency. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 May 2013. สืบค้นเมื่อ 7 July 2013.
  9. 1 2 Gnanasagaran, Angaindrankumar (5 January 2018). "Admitting ASEAN's 11th member". The ASEAN Post. สืบค้นเมื่อ 26 August 2019.
  10. "ASEAN to pass on letting East Timor join grouping this year: Kyodo sources". Kyodo News. ABS-CBN News. 5 November 2017. สืบค้นเมื่อ 26 August 2019.
  11. Palatino, Mong (2011-06-09). "ASEAN Needs Timor-Leste". ASEAN Beat. The Diplomat. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-06-09. สืบค้นเมื่อ 2023-11-11.
  12. "Länderinformationen des Auswärtigen Amtes – Timor-Leste – Außenpolitik: Abschnitt "Beziehungen zu ASEAN"" [Country information of the Federal Foreign Office - Timor-Leste - Foreign policy: Section "Relations with ASEAN"]. Auswärtiges Amt (ภาษาเยอรมัน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 November 2011. สืบค้นเมื่อ 2023-11-11.
  13. "Singapore boosts support for Timor-Leste as it prepares to join Asean". The Straits Times (ภาษาอังกฤษ). 2025-07-14. ISSN 0585-3923. สืบค้นเมื่อ 2025-10-25.
  14. "Timor-Leste Country Report 2022". Bertelsmann Stiftung. 2022. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 May 2022. สืบค้นเมื่อ 2 May 2022.
  15. Novak, Parker (19 May 2022). "Timor-Leste: Building towards the next 20 years". Lowy Institute (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-11-06.
  16. "World Bank Open Data". World Bank Open Data. สืบค้นเมื่อ 2025-10-25.
  17. "The World Bank In Timor-Leste - Overview". World Bank (ภาษาอังกฤษ). 1 December 2022. สืบค้นเมื่อ 2023-11-06.
  18. Binh, An (2016-06-03). Liem, Nguyen Thanh (บ.ก.). "Báo điện tử của Bộ Văn Hóa Thể Thao & Du Lịch". Tu Quoc Electronic Newspaper. Ministry of Information and Communications. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-06-03. สืบค้นเมื่อ 2023-11-05.
  19. "Timor Leste is ready to join Asean grouping". Bernama. Daily Express. 11 April 2015. สืบค้นเมื่อ 26 August 2019.
  20. Parker Novak (17 May 2023). "Timor-Leste update: Parliamentary elections and a roadmap to ASEAN membership". The Interpreter. สืบค้นเมื่อ 1 June 2023.
  21. "Joint Communique of the 38th ASEAN Ministerial Meeting Vientiane, 26 July 2005". asean.org. October 12, 2012. สืบค้นเมื่อ 2023-11-08.
  22. "Asian foreign ministers on Friday welcomed tiny Timor-Leste as the 25th member of the region's main security forum". etan.org. 2005-07-30.
  23. "E. Timor unhappy to wait one more year to join regional security forum". etan.org. Jakarta. 1 July 2004.
  24. "Instrument of Accession to the Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia". asean.org. Cebu, Philippines. 13 January 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-06-23. สืบค้นเมื่อ 2023-11-08.
  25. Brago, Pia Lee (14 January 2007). "France, East Timor sign non-aggression treaties with Asean". The Philippine Star. Associated Press. สืบค้นเมื่อ 26 August 2019.
  26. Bandial, Ain (6 July 2019). "Timor Leste says Brunei will support its bid to join ASEAN". The Scoop. สืบค้นเมื่อ 26 August 2019.
  27. "Three Pillars of ASEAN Community". asean2023.id (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-11-08.
  28. "Timor-Leste Sends Delegation to ASEAN Secretariat Technical Meeting". timor-leste.gov. 2019. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 November 2019. สืบค้นเมื่อ 2023-11-08.
  29. "Timor-Leste Looks Forward to Welcoming the ASEAN Fact-Finding Mission « Government of Timor-Leste". timor-leste.gov.tl (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-11-05.
  30. 1 2 "ASEAN Economic Community fact-finding mission to Timor-Leste shows progress towards ASEAN Accession". asean.org. 25 July 2022. สืบค้นเมื่อ 2023-11-05.
  31. "ASEAN agrees in principle to admit East Timor as 11th member". Reuters (ภาษาอังกฤษ). 11 November 2022. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 January 2023. สืบค้นเมื่อ 11 November 2022.
  32. "Towards Full ASEAN Membership: Timor-Leste Deposits Instrument of Accession to the ASEAN Charter". ASEAN. 2025-10-25. สืบค้นเมื่อ 2025-10-26.
  33. "Timor-Leste joins ASEAN, boosting regional unity and peace". Antara. สืบค้นเมื่อ 25 October 2025.
  34. "Timor-Leste Accedes to the SEANWFZ Treaty". ASEAN. 2025-10-25. สืบค้นเมื่อ 2025-10-25.
  35. "Day of the Establishment of Diplomatic Relations between Thailand and Timor-Leste 20 May 2002 (the third country after China and Norway) (in Thai)". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 December 2021. สืบค้นเมื่อ 26 December 2021.
  36. "Timor Leste and Brunei Darussalam sign Air Services Agreement". Agencia Noticiosa de Timor-Leste. 9 July 2022. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 March 2023. สืบค้นเมื่อ 21 March 2023.
  37. "The History of the Embassy of Malaysia in Dili, Timor-Leste". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 December 2021. สืบค้นเมื่อ 25 December 2021.
  38. "The Republic of the Philippines formally established diplomatic relations with the Democratic Republic of Timor-Leste on 20 May 2002. Embassy of Philippines Dili". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 December 2021. สืบค้นเมื่อ 25 December 2021.
  39. "The Republic of the Philippines and the Democratic Republic of Timor Leste celebrate 19 years of formal diplomatic relations today, May 20". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 December 2021. สืบค้นเมื่อ 25 December 2021.
  40. "Diplomatic & consular list" (PDF). Ministry of Foreign Affairs of Singapore. p. 215. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2020-08-05. สืบค้นเมื่อ 23 December 2021.
  41. "Presidential decree to upgrade the status of the Indonesian office in Dili to the embassy (in Indonesian)". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 December 2021. สืบค้นเมื่อ 26 December 2021.
  42. "Tăng cường hợp tác nhiều mặt Việt Nam-Timor Leste (in Vietnamese)". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 December 2021. สืบค้นเมื่อ 25 December 2021.
  43. "Press Release". Facebook. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-02-26.
  44. "LIST OF STATES WHICH THE LAO PDR HAS ESTABLISHED DIPLOMATIC RELATIONS SINCE 1950" (PDF). เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 29 December 2021. สืบค้นเมื่อ 25 December 2021.
  45. "Diplomatic relations between Timor-Leste and ..." United Nations Digital Library. สืบค้นเมื่อ 14 June 2023.
  46. "PNG and East Timor establish full diplomatic relations". RNZ (ภาษาNew Zealand English). 2002-07-22. สืบค้นเมื่อ 2023-12-20.