ข้ามไปเนื้อหา

พรรคสังคมนิยม (ฝรั่งเศส)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พรรคสังคมนิยม
Parti socialiste
ชื่อย่อPS
ผู้ก่อตั้งฟร็องซัว มีแตร็อง
อะแล็ง ซาวารี
เลขาธิการเอกโอลิเวียร์ ฟอร์
รองเลขาธิการเอกโจฮันนา โรล็องด์
นีกอลา เมเยอร์-โรซินญอลล์
ก่อตั้ง4 พฤษภาคม ค.ศ. 1969 (1969-05-04)
รวมตัวกับ
ดูรายชื่อ
    • แผนกฝรั่งเศสของแรงงานระหว่างประเทศ (SFIO)
    • สหพันธ์สโมสรเพื่อการต่ออายุด้านซ้าย (UCRG)
    • สหพันธ์กลุ่มสังคมนิยมและสโมสร (UGCS)
    • อนุสัญญาของสถาบันสาธารณรัฐ (CIR, ค.ศ. 1971)
    เป้าหมายสังคมนิยม (ค.ศ. 1975)
ที่ทำการ99, rue Molière
94200 Ivry-sur-Seine
ฝ่ายเยาวชนเยาว์สังคมนิยม
สมาชิกภาพ  (ปี ค.ศ. 2023)45,000
อุดมการณ์เสรีนิยมทางสังคม
ประชาธิปไตยสังคมนิยม
สังคมนิเวศวิทยา
ลัทธนิยมยุโรป
สังคมนิยม
จุดยืนฝ่ายซ้ายกลางถึงฝ่ายซ้าย
กลุ่มระดับชาติ
กลุ่มระดับสากลพันธมิตรก้าวหน้า
สังคมนิยมนานาชาติ
กลุ่มในรัฐสภายุโรปพันธมิตรก้าวหน้าของสังคมนิยมและเดโมแครตในรัฐสภายุโรป (S&D)
สี    สีชมพู, สีเขียว
สมัชชาแห่งชาติ
65 / 577
วุฒิสภา
64 / 348
รัฐสภายุโรป
10 / 81
สภาแผนก (ประธาน)
23 / 98
สภาภูมิภาค (ประธาน)
4 / 18
นายกเทศมนตรี[a]
45 / 279
เว็บไซต์
www.parti-socialiste.fr

พรรคสังคมนิยม (ฝรั่งเศส: Parti socialiste, PS) เป็นพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายในฝรั่งเศส ก่อตั้งเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ปีค.ศ. 1969 ซึ่งมีฟร็องซัว มีแตร็อง เป็นเลขาธิการเอก (ฝรั่งเศส: Premier secrétaire) คนแรกของพรรค ตำแหน่งนี้เทียบได้กับหัวหน้าพรรคในการเมือง

เลขาธิการเอกของพรรคในปัจจุบันเป็น โอลิเวียร์ ฟอร์ ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคต่อจากฌ็อง-กริสตอฟ กัมบาเดลิส

ประวัติการเลือกตั้งประธานาธิบดี

[แก้]

ฟร็องซัว มีแตร็อง ซึ่งเป็นเลขาธิการเอกหรือหัวหน้าพรรคในขณะนั้น ได้ลงเป็นผู้สมัครในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในปีค.ศ. 1974 และได้ผ่านรอบที่ 2 ชิงตำแหน่งกับวาเลรี ฌิสการ์ แด็สแต็ง ผู้สมัครพรรคสหพันธ์สาธารณรัฐอิสระแห่งชาติ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายขวา แต่ในที่สุดก็ไม่ได้รับเลือกตั้ง ต่อมา มีแตร็องก็เป็นผู้สมัครของพรรคอีกครั้งในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของปีค.ศ. 1981 และหลังผ่านรอบที่ 2 เขาได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี ทำให้มีแตร็องเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่มาจากพรรคสังคมนิยมและฝ่ายซ้าย

มีแตร็อง ขณะที่ได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีมาตั้งแต่ 7 ปีแล้ว ลงเป็นผู้สมัครของพรรคอีกครั้งในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของปีค.ศ. 1988 ซึ่งได้รับเลือกตั้งอีกครั้ง

หลังจากนั้น ในการเลือกตั้งของปีค.ศ. 1995 ลียอแนล ฌ็อสแป็ง ซึ่งได้ดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการเอกของพรรคตั้งแต่มีแตร็องดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ได้ลงเป็นผู้สมัครของพรรค แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง เนื่องจากฌัก ชีรัก อดีตนายกรัฐมนตรีในการนำของฌิสการ์ แด็สแต็ง (ค.ศ. 1974 - 1976) และมีแตร็อง (ค.ศ. 1986 - 1988) ได้รับการเลือกตั้งแทน ต่อมา ฌ็อสแป็งก็ลงเป็นผู้สมัครอีกครั้งในการเลือกตั้งของปีค.ศ. 2002 แต่ไม่ได้ผ่านรอบที่ 2 เนื่องจากมีฌ็อง-มารี เลอ แปน ผู้สมัครพรรคแนวร่วมแห่งชาติ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายขวาจัด ได้ผ่านรอบที่ 2 ชิงตำแหน่งกับฌัก ชีรัก ประธานาธิบดีในขณะนั้น ที่ได้รับการเลือกตั้งในรอบที่ 2

ในการเลือกตั้งของปีค.ศ. 2007 เซกอแลน รัวยาลเป็นผู้สมัครของพรรค ซึ่งเป็นผู้หญิงคนแรกของพรรคสังคมนิยมที่ลงเป็นผู้สมัครในการเลือกตั้งประธานาธิบดี เธอได้ผ่านรอบที่ 2 และชิงตำแหน่งกับนีกอลา ซาร์กอซี ผู้สมัครพรรคสหภาพเพื่อขบวนการประชาชน ซึ่งได้รับการเลือกตั้งในรอบที่ 2

ในปีค.ศ. 2011 พรรคสังคมนิยมได้จัดการเลือกตั้งผู้สมัครรอบแรกเพื่อเสนอชื่อผู้สมัครในการเลือกตั้งประธานาธิบดี ในปีถัดไป (ค.ศ. 2012) ซึ่งมีฟร็องซัว ออล็องด์ เลขาธิการเอกของพรรคตั้งแต่ลียอแนล ฌ็อสแป็ง ไปดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีในปีค.ศ. 1997 และ มาร์ทีน โอบรี นายกเทศมนตรีเมืองลีล เป็นผู้สมัครที่ได้ผ่านรอบที่ 2 และในที่สุดก็เป็นออล็องด์ที่ได้รับการเลือกตั้งและแต่งตั้งเป็นผู้สมัครของพรรคสังคมนิยม ต่อมา ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีค.ศ. 2012 ออล็องด์ก็ผ่านรอบที่ 2 และชิงตำแหน่งกับนีกอลา ซาร์กอซี ซึ่งเป็นประธานาธิบดีในขณะนั้น จากนั้นในรอบที่ 2 ออล็องด์ได้รับการเลือกตั้ง ทำให้เขาเป็นประธานาธิบดีแรกที่มาจากพรรคสังคมนิยมในระหว่าง 24 ปี (ปีค.ศ. 1988)

ต่อมา ในวันที่ 1 ธันวาคม ค.ศ. 2016 ฟร็องซัว ออล็องด์ ประธานาธิบดีในขณะนั้น ได้ประกาศระหว่างการแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ ว่าจะไม่ลงเป็นผู้สมัครในการเลือกตั้งของปีถัดไป[1] ซี่งเป็นคนแรกในประวัติศาสัตร์ของสาธารณรัฐที่ 5 ของฝรั่งเศส ที่ไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งใหม่ จากนั้น ในเดือนถัดไป (มกราคม ค.ศ. 2017) พรรคก็ได้จัดการเลือกตั้งผู้สมัครรอบแรกอีกครั้งเพื่อเสนอชื่อผู้สมัครของพรรคในการเลือกตั้งของปีเดียวกัน (เมษายน ค.ศ. 2017) ซึ่งมีเบอนัว อามง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การอดุมศึกษาและการวิจัยภายใต้รัฐบาลชุดแรกของมานุเอล วาลส์ และมานุเอล วาลส์ อดีตนายกรัฐมนตรีภายใต้การนำของฟร็องซัว ออล็องด์ ซึ่งลาออกในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2016 สองบุคคลนี้เป็นผู้สมัครที่ผ่านรอบที่ 2 ของการเลือกตั้งผู้สมัครรอบแรก และในที่สุดก็เป็นเบอนัว อามง ที่ได้รับการเลือกตั้ง ต่อมาในการเลือกตั้งในเดือนเมษายน อามงไม่ได้รับการเลือกตั้งด้วยไม่ได้ผ่านรอบที่ 2 และเป็นครั้งแรกที่สุดที่ผู้สมัครของพรรคสังคมนิยมได้รับสัดส่วนคะแนนต่ำที่สุด (6.3%) ตั้งแต่กาสตง เดิฟแฟร์ ในการเลือกตั้งของปีค.ศ. 1969 (ซึ่งได้รับ 5.01%)[2]

เพื่อการเลือกตั้งประธาธิบดีของปีค.ศ. 2022 พรรคสังคมนิยมได้จัดการเลือกตั้งผู้สมัครรอบแรกภายในพรรคในวันที่ 14 ตุลาคม ค.ศ. 2021 ซึ่งมีอาน อีดาลโก นายกเทศมนตรีปารีส ได้รับการเลือกตั้งและเป็นผู้สมัครของพรรคในการเลือกตั้ง[3] แต่สุดท้ายก็ไม่ได้รับเลือกตั้ง อีดาลโกได้รับ 1.74% ซึ่งเป็นสัดส่วนคะแนนต่ำกว่าเบอนัว อามง ในปีค.ศ. 2017 และสัดส่วนคะแนนต่ำที่สุดที่พรรคเคยได้รับ

ประวัติการเลือกตั้งสมัชชาแห่งชาติ

[แก้]

ในการเลือกตั้งสมาชิกสมัชชาแห่งชาติของปีค.ศ. 1973 ซึ่งเป็นฟร็องซัว มีแตร็อง เป็นผู้นำพันธมิตรสหภาพฝ่ายซ้าย (ฝรั่งเศส: Union de la gauche) ซึ่งพันธมิตรสหภาพฝ่ายซ้ายได้รับคะแนนเสียงสูงที่สุดในรอบที่ 1 (10,593,306 คน) แต่ในรอบที่ 2 พันธมิตรกลับมาเป็นอันดับที่ 2 ซึ่งได้ชนะ 177 ที่นั่ง ภายใต้พันธมิตรพรรคสังคมนิยมได้ชนะ 89 ที่นั่ง ซึ่งเป็นจำนวนที่นั่งมากกว่าพรรคคอมมิวนิสต์ฝรั่งเศสที่ได้ชนะ 73 ที่นั่ง แล้วในรอบที่ 2 พรรคสังคมนิยมก็กลายเป็นพรรคอันดับ 1 ภายใต้พันธมิตร ด้วยได้รับ 4,734,889 คนเป็นคะแนนเสียง ซึ่งเป็นจำนวนคะแนนเสียงมากกว่าพรรคคอมมิวนิสต์ฝรั่งเศสที่ได้รับ 4,402,025 คนเป็นคะแนนเสียง

พรรคสังคมนิยมได้ชนะ 113 ที่นั่งในการเลือกตั้งของปีค.ศ. 1978 ซึ่งนำโดยฟร็องซัว มีแตร็องอีกครั้ง แล้วเป็นพรรคเดียวในการเลือกตั้งที่ได้รับคะแนนเสียงมากกว่าพรรคการชุมนุมเพื่อสาธารณรัฐ (ฝรั่งเศส: Rassemblement pour la République) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายข้างมากของรัฐบาลและประธานาธิบดีในขณะนั้น

หลังจากฟร็องซัว มีแตร็อง ได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีในปีค.ศ. 1981 แล้ว พรรคสังคมนิยมก็ได้กลายเป็นพรรคฝ่ายข้างมากของสมัชชาแห่งชาติ หลังการเลือกตั้งสมาชิกสมัชชาแห่งชาติในปีเดียวกัน ซึ่งได้ชนะ 266 ที่นั่ง

การเลือกตั้งของปีค.ศ. 1988 เป็นการเลือกตั้งครั้งแรกในประวัติศาสัตร์ของสาธารณรัฐที่ 5 ของฝรั่งเศส ที่ใช้ระบบสัดส่วนแบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งเป็นระบบที่ไม่เข้าข้างพรรคสังคมนิยม เพราะพรรคได้ชนะแค่ 206 ที่นั่ง ซึ่งเป็นจำนวนที่นั่งมากที่สุดถ้าเป็นพรรคเดียว แต่เป็นเสียงข้างน้อยถ้าร่วมพรรคฝ่ายขวา เช่น พรรคการชุมนุมเพื่อสาธารณรัฐ และ พรรคสหภาพเพื่อประชาธิปไตยฝรั่งเศส (ฝรั่งเศส: Union pour la démocratie française) ที่ได้ชนะ 290 ที่นั่ง ทำให้ฌัก ชีรัก ผู้นำพรรคการชุมนุมเพื่อสาธารณรัฐ ถูกแต่งตั้งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นครั้งแรกที่สุดในประวัติศาสัตร์ของฝรั่งเศสที่มีนายกรัฐมนตรีที่มีแนวโน้มทางการเมืองที่แตกต่างกับประธานาธิบดี จากนั้นพรรคสังคมนิยมก็กลายเป็นพรรคฝ่ายค้าน

พรรคสังคมนิยมกลับมาเป็นฝ่ายรัฐบาลอีกครั้งในสมัชชาแห่งชาติในการเลือกตั้งของปีค.ศ. 1988 แต่เป็นเสียงข้างน้อย โดยพรรคได้ชนะ 260 ที่นั่ง

ต่อมา ในการเลือกตั้งของปีค.ศ. 1993 พรรคสังคมนิยมกลับมาเป็นพรรคฝ่ายค้าน โดยมีพรรคการชุมนุมเพื่อสาธารณรัฐ และ พรรคสหภาพเพื่อประชาธิปไตยฝรั่งเศส มาเป็นเสียงข้างมากในสมัชชาแห่งชาติ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคสังคมนิยมได้ชนะ 57 ที่นั่ง ซึ่งเป็นจำนวนที่นั่งที่ต่ำที่สุดของพรรคตั้งแต่ลงการเลือกตั้งสมาชิกสมัชชาแห่งชาติ ทำให้เอดัวร์ บาลาดูร์ ถูกแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีแนวโน้มทางการเมืองที่แตกต่างกับประธานาธิบดีคนที่ 2 หลังจากฌัก ชีรัก ที่เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีภายใต้การนำของฟร็องซัว มีแตร็อง ปฎิเสธดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

การเลือกตั้งสมาชิกสมัชชาแห่งชาติของปีค.ศ. 1997 เกิดขึ้นหลังฌัก ชีรัก ประธานาธิบดีในขณะนั้น ได้ประกาศยุบสมัชชาแห่งชาติในแถลงการณ์ทางโทรทัศน์เมื่อวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 1997 อย่างไรก็ตาม พรรคสังคมนิยมได้เข้าร่วมกับพรรคฝ่ายซ้ายอื่นเพื่อร่วมในพันธมิตรพหูพจน์ซ้าย (ฝรั่งเศส: Gauche plurielle) แล้วหลังรอบที่ 2 ของการเลือกตั้งครั้งนี้ พันธมิตรได้ชนะ 312 ที่นั่ง แล้วภายใต้พันธมิตรนี้ พรรคสังคมนิยมได้ชนะ 255 ที่นั่ง ทำให้พรรคสังคมนิยมกลายเป็นเสียงข้างน้อย แต่เป็นเสียงข้างมากถ้าร่วมกับพรรคฝ่ายซ้ายอื่น ๆ เพื่อเป็นรัฐบาลผสม จากนั้น ลียอแนล ฌ็อสแป็ง ผู้นำพันธมิตรในการเลือกตั้งครั้งนี้ ได้ถูกแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีจากฌัก ชีรัก ทำให้เป็นครั้งที่ 3 ที่มีนายกรัฐมนตรีที่มีโน้มทางการเมืองที่แตกต่างกับประธานาธิบดี

ในการเลือกตั้งของปีค.ศ. 2002 พรรคสังคมนิยมได้ชนะแค่ 140 ที่นั่ง ทำให้เป็นฝ่ายค้านในสมัชชาแห่งชาติ ต่อมา ในการเลือกตั้งของปีค.ศ. 2007 พรรคได้ชนะ 186 ที่นั่ง ซึ่งเป็นจำนวนมากกว่าเลือกตั้งครั้งก่อน แต่ก็ยังเป็นฝ่ายค้านอีกเหมือนเดิมด้วยพรรคฝ่ายซ้ายอื่น ๆ ที่มีที่นั่งในสมัชชาแห่งชาติ

หลังจากมีฟร็องซัว ออล็องด์ ได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีของปีค.ศ. 2012 พรรคสังคมนิยม ด้วยพรรคฝ่ายซ้ายอื่น เช่น พรรคเพื่อสิ่งแวดล้อมแห่งยุโรป พรรคฝ่ายซ้ายหัวรุนแรง และพรรคขบวนการสาธารณรัฐและพลเมือง ได้ชนะทั้งหมด 331 ที่นั่ง ภายใต้พันธมิตรกับพรรคอื่น พรรคสังคมนิยมได้ชนะ 280 ที่นั่ง ทำให้พรรคเป็นฝ่ายข้างมากแต่มีเสียงข้างน้อย แต่เป็นเสียงข้างมากถ้าร่วมกับพรรคอื่นเพื่อเป็นรัฐบาลผสม

การเลือกตั้งของปีค.ศ. 2017 ทำให้พรรคสังคมนิยมมีจำนวนที่นั่งน้อยลง ซึ่งได้ชนะแค่ 30 ที่นั่ง แล้วกลายเป็นฝ่ายค้านกับพรรคฝ่ายซ้ายอื่น ๆ ที่ได้ชนะที่นั่งในสมัชชาแห่งชาติ เช่น ลาฟร็องแซ็งซูมีซ หรือพรรคคอมมิวนิสต์ฝรั่งเศส ต่อมาในการเลือกตั้งของปีค.ศ. 2022 พรรคสังคมนิยมได้เข้าร่วมภายใต้พันธมิตร สหภาพทางนิเวศวิทยาและสังคมใหม่ (ฝรั่งเศส: Nouvelle Union populaire écologique et sociale) ที่นำโดยพรรคลาฟร็องแซ็งซูมีซ ของฌอง-ลุค เมลองชง ทำให้พรรคสังคมนิยมได้ชนะ 28 ที่นั่ง ซึ่งเป็นจำนวนน้อยกว่าที่ได้ชนะในการเลือกตั้งครั้งก่อน

การเข้าร่วมการเมืองอื่น ๆ

[แก้]

พรรคสังคมนิยมเคยเป็นเสียงข้างมากในวุฒิสภาฝรั่งเศส หลังจากการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาของปีค.ศ. 2011

ในรัฐสภายุโรป พรรคสังคมนิยมเป็นหนึ่งของกลุ่ม พันธมิตรก้าวหน้าของสังคมนิยมและเดโมแครตในรัฐสภายุโรป (อังกฤษ: Progressive Alliance of Socialists and Democrats) และเป็นหนึ่งของพรรคสังคมนิยมยุโรป (อังกฤษ: Party of European Socialists) อีกด้วย

รายชื่อประธานาธิบดี

[แก้]

รายชื่อนายกรัฐมนตรี

[แก้]

ผลการเลือกตั้ง

[แก้]
การเลือกตั้ง ผู้สมัครเลือกตั้ง คะแนนรอบที่ 1 คะแนนรอบที่ 2
คะแนนเสียงทั้งหมด สัดส่วนคะแนนเสียง คะแนนเสียงทั้งหมด สัดส่วนคะแนนเสียง ผลการเลือกตั้ง
1974 ฟร็องซัว มีแตร็อง 11,044,373 43.25% 12,971,604 49.19% ไม่ พ่ายแพ้
1981 7,505,960 25.85% 15,708,262 51.76%  สำเร็จ ชนะ
1988 10,367,220 34.10% 16,704,279 54.02%  สำเร็จ ชนะ
1995 ลียอแนล ฌ็อสแป็ง 7,097,786 23.30% 14,180,644 47.36% ไม่ พ่ายแพ้
2002 4,610,113 16.18% ไม่ผ่านรอบที่ 2
2007 เซกอแลน รัวยาล 9,500,112 25.87% 16,790,440 46.94% ไม่ พ่ายแพ้
2012 ฟร็องซัว ออล็องด์ 10,272,705 28.63 18,000,668 51.64%  สำเร็จ ชนะ
2017 เบอนัว อามง 2,291,288 6.36% ไม่ผ่านรอบที่ 2
2022 อาน อีดาลโก 616,478 1.75% ไม่ผ่านรอบที่ 2

การเลือกตั้งสมาชิกสมัชชาแห่งชาติ

[แก้]
การเลือกตั้ง คะแนนรอบที่ 1 คะแนนรอบที่ 2 จำนวนที่นั่ง ผลการเลือกตั้ง
คะแนนเสียงทั้งหมด สัดส่วนคะแนนเสียง คะแนนเสียงทั้งหมด สัดส่วนคะแนนเสียง
1973 4,537,348 19.10% 4,734,889 22.17%
89 / 490
ฝ่ายค้าน
1978 7,040,561 22.60% 7,788,076 30.73%
113 / 491
ฝ่ายค้าน
1981 9,432,362 37.52% 9,198,332 49.25%
266 / 491
เสียงข้างมาก
1986 8,693,939 31.02% การเลือกตั้งแบบระบบสัดส่วนแบบบัญชีรายชื่อ
206 / 577
ฝ่ายค้าน
1988 8,493,702 34.77% 9,198,778 45.31%
260 / 577
เสียงข้างน้อย
1993 4,429,237 17.50% 5,697,795 28.00%
57 / 577
ฝ่ายค้าน
1997 5,961,612 23.53% 9,751,423 38.05%
255 / 577
แกนนำจัดตั้งรัฐบาล[b]
2002 6,086,599 24.11% 7,482,169 35.26%
140 / 577
ฝ่ายค้าน
2007 6,436,136 24.73% 8,622,529 42.25%
186 / 577
ฝ่ายค้าน
2012 7,618,326 29.35% 9,420,889 40.91%
280 / 577
แกนนำจัดตั้งรัฐบาล[c]
2017 1,685,677 7.44% 1,032,842 5.68%
30 / 577
ฝ่ายค้าน
2022 860,201 3.78% 1,084,909 5.23%
28 / 577
ฝ่ายค้าน
2024 2,774,052 8.65% 2,624,529 9.62%
65 / 577
ฝ่ายค้าน

ผู้บริหาร

[แก้]

เลขาธิการเอก

[แก้]
ลำดับ รูป ชื่อ เริ่มวาระ สิ้นสุดวาระ
1 อะแล็ง ซาวารี 17 กรกฎาคม ค.ศ. 1969 16 มิถุนายน ค.ศ. 1971

(ข้อผิดพลาด: แม่แบบ:อายุปีและวัน รองรับเฉพาะปีพุทธศักราช หากใช้ปีคริสต์ศักราช กรุณาใช้ แม่แบบ:Age in years and days)

2 ฟร็องซัว มีแตร็อง 16 มิถุนายน ค.ศ. 1971 24 มกราคม ค.ศ. 1981

(ข้อผิดพลาด: แม่แบบ:อายุปีและวัน รองรับเฉพาะปีพุทธศักราช หากใช้ปีคริสต์ศักราช กรุณาใช้ แม่แบบ:Age in years and days)

3(1) ลียอแนล ฌ็อสแป็ง 24 มกราคม ค.ศ. 1981 14 พฤษภาคม ค.ศ. 1988

(ข้อผิดพลาด: แม่แบบ:อายุปีและวัน รองรับเฉพาะปีพุทธศักราช หากใช้ปีคริสต์ศักราช กรุณาใช้ แม่แบบ:Age in years and days)

4 ปีแยร์ โมรัว 14 พฤษภาคม ค.ศ. 1988 9 มกราคม ค.ศ. 1992

(ข้อผิดพลาด: แม่แบบ:อายุปีและวัน รองรับเฉพาะปีพุทธศักราช หากใช้ปีคริสต์ศักราช กรุณาใช้ แม่แบบ:Age in years and days)

5 โลร็อง ฟาบียุส 9 มกราคม ค.ศ. 1992 3 เมษายน ค.ศ. 1993

(ข้อผิดพลาด: แม่แบบ:อายุปีและวัน รองรับเฉพาะปีพุทธศักราช หากใช้ปีคริสต์ศักราช กรุณาใช้ แม่แบบ:Age in years and days)

6 มีแชล รอการ์ 3 เมษายน ค.ศ. 1993 19 มิถุนายน ค.ศ. 1994

(ข้อผิดพลาด: แม่แบบ:อายุปีและวัน รองรับเฉพาะปีพุทธศักราช หากใช้ปีคริสต์ศักราช กรุณาใช้ แม่แบบ:Age in years and days)

7 อ็องรี แอมมานุเอลลี 19 มิถุนายน ค.ศ. 1994 14 ตุลาคม ค.ศ. 1995

(ข้อผิดพลาด: แม่แบบ:อายุปีและวัน รองรับเฉพาะปีพุทธศักราช หากใช้ปีคริสต์ศักราช กรุณาใช้ แม่แบบ:Age in years and days)

8(2) ลียอแนล ฌ็อสแป็ง 14 ตุลาคม ค.ศ. 1995 2 มิถุนายน ค.ศ. 1997

(ข้อผิดพลาด: แม่แบบ:อายุปีและวัน รองรับเฉพาะปีพุทธศักราช หากใช้ปีคริสต์ศักราช กรุณาใช้ แม่แบบ:Age in years and days)

9 ฟร็องซัว ออล็องด์ 27 พฤศจิกายน ค.ศ. 1997 26 พฤศจิกายน ค.ศ. 2008

(ข้อผิดพลาด: แม่แบบ:อายุปีและวัน รองรับเฉพาะปีพุทธศักราช หากใช้ปีคริสต์ศักราช กรุณาใช้ แม่แบบ:Age in years and days)

10 มาร์ทีน โอบรี 26 พฤศจิกายน ค.ศ. 2008 17 กันยายน ค.ศ. 2012

(ข้อผิดพลาด: แม่แบบ:อายุปีและวัน รองรับเฉพาะปีพุทธศักราช หากใช้ปีคริสต์ศักราช กรุณาใช้ แม่แบบ:Age in years and days)

11 ฮาร์เล็ม เดซียร์ 17 กันยายน ค.ศ. 2012 15 เมษายน ค.ศ. 2014

(ข้อผิดพลาด: แม่แบบ:อายุปีและวัน รองรับเฉพาะปีพุทธศักราช หากใช้ปีคริสต์ศักราช กรุณาใช้ แม่แบบ:Age in years and days)

12 ฌ็อง-กริสตอฟ กัมบาเดลิส 15 เมษายน ค.ศ. 2014 30 กันยายน ค.ศ. 2017

(ข้อผิดพลาด: แม่แบบ:อายุปีและวัน รองรับเฉพาะปีพุทธศักราช หากใช้ปีคริสต์ศักราช กรุณาใช้ แม่แบบ:Age in years and days)

- ราชิด เตมาล[d] 30 กันยายน ค.ศ. 2017 7 เมษายน ค.ศ. 2018

(ข้อผิดพลาด: แม่แบบ:อายุปีและวัน รองรับเฉพาะปีพุทธศักราช หากใช้ปีคริสต์ศักราช กรุณาใช้ แม่แบบ:Age in years and days)

13 โอลิเวียร์ ฟอร์ 7 เมษายน ค.ศ. 2018 ปัจจุบัน

หมายเหตุ

[แก้]
  1. เมืองที่มีประชากรมากกว่า 30,000 คน
  2. ผลการเลือกตั้งเสนอว่าพรรคสังคมนิยมได้รับเสียงข้างน้อย แต่เป็นเสียงข้างมากถ้าเป็นรัฐบาลผสม
  3. ผลการเลือกตั้งเสนอว่าพรรคสังคมนิยมได้รับเสียงข้างน้อย แต่เป็นเสียงข้างมากถ้าเป็นรัฐบาลผสม
  4. รักษาการตำแหน่ง แต่ชื่อตำแหน่งอย่างเป็นทางการเป็น "เลขาธิการประสานงานแห่งชาติ" ของพรรค

อ้างอิง

[แก้]
  1. "François Hollande annonce qu'il ne se présente pas en 2017 pour un second mandat". Marianne (ภาษาฝรั่งเศส). 2016-12-01.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  2. "Présidentielle : Benoît Hamon décroche à la cinquième place". Le Monde.fr (ภาษาฝรั่งเศส). 2017-04-23. สืบค้นเมื่อ 2023-07-14.
  3. "Combien de personnes ont voté pour l'investiture d'Anne Hidalgo comme candidate du PS ?". Libération (ภาษาฝรั่งเศส).

ดูเพิ่ม

[แก้]