ข้ามไปเนื้อหา

พระเจ้าดาไรอัสที่ 3

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พระเจ้าดาไรอัสที่ 3
𐎭𐎠𐎼𐎹𐎺𐎢𐏁
ภาพของกษัตริย์ดาไรอัสที่ 3 ระหว่างทำยุทธการที่อิสซัสในโมเสกแห่งอเล็กซานเดอร์ (ป.100 ปีก่อนคริสตกาล) เป็นภาพโมเสกพื้นโรมันโบราณจากบ้านแห่งฟาอูนในปอมเปอี ประเทศอิตาลี
พระราชาธิราชแห่งจักรวรรดิอะคีเมนิด
ครองราชย์336–330 ปีก่อน ค.ศ.
ก่อนหน้าอาร์ตาเซิร์กซีสที่ 4 อาร์เซส
ถัดไป
ฟาโรห์แห่งอียิปต์
ครองราชย์336–332 ปีก่อน ค.ศ.
ก่อนหน้าอาร์ตาเซิร์กซีสที่ 4 อาร์เซส
ถัดไปอเล็กซานเดอร์มหาราช
ประสูติป.380 ปีก่อน ค.ศ.
สวรรคตกรกฎาคม 330 ปีก่อน ค.ศ. (ประมาณ 50 พรรษา)
พาร์เธีย
ฝังพระศพเปร์เซโปลิส
คู่อภิเษกสตาเตราที่ 1
พระราชบุตร
ราชวงศ์อะคีเมนิด
พระราชบิดาอาร์ซาเมส
พระราชมารดาซิไซกัมบิส
ศาสนาโซโรอัสเตอร์

ดาไรอัสที่ 3 แห่งเปอร์เซีย (เปอร์เซียเก่า: 𐎭𐎠𐎼𐎹𐎺𐎢𐏁 Dārayavaʰuš; กรีกโบราณ: Δαρεῖος Dareios; ป.380–330 ปีก่อน ค.ศ.) เป็นกษัตริย์องค์ที่ 13 และองค์สุดท้ายแห่งจักรวรรดิอะคีเมนิดแห่งเปอร์เซียระหว่าง 336–330 ปีก่อนคริสตกาล

ใน 334 ปีก่อนคริสตกาล อเล็กซานเดอร์มหาราช กษัตริย์แห่งมาเกโดนีอา ได้ยกทัพบุกเปอร์เซียโดยสู้รบกันต่อเนื่องนานถึง 4 ปี กระทั่งพระเจ้าดาไรอัสที่ 3 ได้พ่ายแพ้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในยุทธการที่กัวกาเมลา เมื่อ 331 ปีก่อนคริสตกาล ก่อนที่พระเจ้าดาไรอัสที่ 3 จะถูกปลงพระชนม์โดยพระญาติองค์หนึ่งนาม เบสซัส ซึ่งในภายหลังได้ขึ้นสืบราชบัลลังก์เป็นพระเจ้าอาร์ตาเซอร์ซีสที่ 5 เมื่อ 330 ปีก่อนคริสตกาล ทำให้ราชวงศ์อะคีเมนิดที่สถาปนาโดยพระเจ้าไซรัสมหาราชล่มสลายลง

พระนาม

[แก้]

ก่อนขึ้นครองราชย์ ดาไรอัสมีพระนามว่า อาร์ตาชาตา (เปอร์เซียเก่า: *Artašiyāta, "ความสุขในอาร์ตา")[1][2] ยุสติน นักประวัติศาสตร์โรมันในคริสต์ศตวรรษที่ 2 เป็นนักประวัติศาสตร์เพียงคนเดียวที่เรียกดาไรอัสเป็นโกโดมันนุส (Codomannus) ซึ่งเป็นพระนามที่อาจใช้ก่อนขึ้นมามีอำนาจ พระนามนี้อาจเป็นพระนามลำลอง หรือเป็นไปได้ว่าเป็นพระนามที่สาม ที่มาของพระนามนี้ยังไม่ชัดเจน[1][3] บาเดียน เสนอแนะว่าพระนามนี้มีต้นตอจากเซมิติกตะวันตก โดยคำที่เป็นไปได้มากที่สุดมาจากภาษาแอราเมอิกว่า qdmwn ("จากตะวันออก, ชาวตะวันออก")[4] การมีสองชื่อไม่ใช่สิ่งที่แปลก ดังที่มีบันทึกบางส่วนว่า บุคคลชาวบาบิโลนสองคนมีชื่อสองแบบ ส่วนใหญ่เป็นภาษาบาบิโลนหรือแอราเมอิก ชาวเปอร์เซียผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งก็มีชื่อบาบิโลนและอิหร่าน กระนั้น ธรรมเนียมดูเหมือนไม่ได้รับความนิยมในสมัยดาไรอัส บาเดียนเสนอแนะว่าพระนามตอนพระราชสมภพของพระองค์คือพระนามในภาษาแอราเมอิกว่า Codomannus ซึ่งภายหลังเปลี่ยนไปใช้พระนาม Artashata ตอนไต่เต้าตำแหน่ง[5] พระองค์ทรงใช้พระนามกษัตริย์ว่า ดาไรอัส (เปอร์เซียเก่า: Daraya-vahauš, "ผู้ที่ถือมั่นในความดี") ครั้งแรกตอนขึ้นครองราชย์เมื่อ 336 ปีก่อน ค.ศ.[1][6]

ประวัติศาสตร์นิพนธ์

[แก้]

ศตวรรษสุดท้ายของราชวงศ์อะคีเมนิดเด่นในเรื่องการมีแหล่งข้อมูลน้อย โดยเฉพาะในรัชสมัยดาไรอัสที่ 3 พระองค์ไม่ได้ปรากฏในแหล่งข้อมูลเปอร์เซียใด ๆ จนแทบทราบพระนามพระองค์เพียงจากรายงานของนักประวัติศาสตร์ชาวกรีกเท่านั้น ซึ่งพรรณาพระองค์เป็นขั้วตรงข้ามของอเล็กซานเดอร์มหาราชผู้ประสบความสำเร็จ[1]

ภูมิหลัง

[แก้]

กษัตริย์ดาไรอัสเสด็จพระราชสมภพเมื่อราว 380 ปีก่อนคริสตกาล พระองค์ทรงเป็นสมาชิกที่ห่าง ๆ ของราชวงศ์อะคีเมนิด พระองค์ทรงเป็นบุตรชายของอาร์เซเมส และพระนัดดาของเจ้าชายออสทาเนส ซึ่งเป็นพระราชโอรสของกษัตริย์ดาไรอัสที่ 2 ซึ่งทรงปกครองจักรวรรดิอะคีเมนิด ตั้งแต่ระหว่าง 424 ปีก่อนคริสตกาลถึง 405 ปีก่อนคริสตกาล[1] พระราชมาดราของพระองค์ คือ ซิไซกัมบิส ซึ่งเป็นสตรีที่มีต้นกำเนิดที่คลุมเครือ พระนางน่าจะมีเชื้อสายราชวงศ์อะคีเมนิด ถึงแม้ว่าจะไม่ทราบว่าพระองค์มาจากราชวงศ์สาขาใด พระองค์อาจจะเป็นพระธิดาของเจ้าชายออสทาเนส และเป็นน้องสาวของอาร์ซาเมส[7] กษัตริย์ดาไรอัสทรงมีพระภารดาและพระภคินี คือ โอไซอาเธรส และสตาเตราที่ 1 ตามลำดับ[8][1]

ความขัดแย้งกับชาวกรีก

[แก้]

การทัพของฟิลิป

[แก้]

ในไม่ช้า Bagoas พยายามวางยาพิษดาไรอัสที่ 3 เช่นกัน แต่แผนการของเขาถูกเปิดเผย ดาไรอัสที่ 3 ทรงเรียกตัว Bagoas และขอให้เขาดื่มอวยพรให้พระองค์ และทรงยื่นถ้วยที่เต็มไปด้วยยาพิษให้เขา Bagoas ถูกบังคับให้ดื่มถ้วยนั้น ส่งผลให้เขาเสียชีวิต[9][10] เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่อเล็กซานเดอร์ขึ้นครองบัลลังก์มาซิโดเนียในฤดูใบไม้ร่วงเมื่อ 336 ปีก่อนคริสตกาล[11] ในช่วงเริ่มต้นรัชสมัยดาไรอัสที่ 3 อียิปต์และบาบิโลนอาจตกอยู่ในช่วงการกบฏ กระนั้นดูเหมือนเรื่องพวกนั้นจะไม่มีความสำคัญมากนัก เนื่องจากรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์เหล่านั้นหายไปอย่างรวดเร็ว[1]

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1 2 3 4 5 6 7 EIr. 1994, pp. 51–54.
  2. Briant 2015, p. 48.
  3. Briant 2015, p. 49.
  4. Badian 2000, p. 247.
  5. Badian 2000, p. 249.
  6. Schmitt 1994, p. 40.
  7. Badian 2015.
  8. Briant 2015, p. 417.
  9. Diodorus Siculus, Book XVII, Chapter 5.
  10. Heckel 2020, pp. 11–12.
  11. Badian 2000, p. 252.

บรรณานุกรม

[แก้]

สมัยโบราณ

  • Diodorus Siculus (1968). John Skelton; H. L. R. Edwards; F. M. Salter (บ.ก.). Bibliotheca historica. London: Oxford University Press for the Early English Text Society. OCLC 220660833.

สมัยใหม่

อ่านเพิ่ม

[แก้]