มติว่าด้วยบางประเด็นในประวัติศาสตร์พรรคเรานับตั้งแต่การก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน
มติว่าด้วยบางประเด็นในประวัติศาสตร์พรรคเรานับตั้งแต่การก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน (จีน: 《关于建国以来党的若干历史问题的决议》) เป็นเอกสารใน ค.ศ. 1981 ที่ประเมินมรดกของสมัยเหมา เจ๋อตง และลำดับความสำคัญของพรรคในการเดินหน้าต่อไป[1] ได้รับการรับรองเป็นเอกฉันท์ในการประชุมเต็มคณะครั้งที่ 6 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 11 เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ค.ศ. 1981[2]
ภูมิหลัง
[แก้]มติว่าด้วยบางประเด็นในประวัติศาสตร์พรรคเรานับตั้งแต่การก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นมติทางประวัติศาสตร์สำคัญฉบับที่สองในสามฉบับของพรรค[3]: 6 ฉบับแรกคือมติ ค.ศ. 1945 ที่ทำให้พรรคมีความสามัคคีกันภายใต้รากฐานอุดมการณ์ของความคิดของเหมา เจ๋อตง[3]: 6 มติประวัติศาสตร์ฉบับที่สามเกิดขึ้นในเมื่อ ค.ศ. 2021[3]: 6
ขณะที่ดำเนินการปฏิรูปและเปิดประเทศ จีนก็เริ่มปฏิรูประบบผู้นำของพรรคคอมมิวนิสต์จีนและของรัฐด้วย[4]: 3 ในบริบทนี้ เติ้ง เสี่ยวผิงและผู้นำพรรครุ่นที่สองได้ประเมินสถานการณ์ในสิ่งที่พวกเขาเห็นว่าเป็นจุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์[4]: 3–4
วันที่ 26 มิถุนายน ค.ศ. 1981 ที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 11 ได้ยอมรับการลาออกจากตำแหน่งประธานพรรคของฮฺว่า กั๋วเฟิง[5]: 444 วันรุ่งขึ้น คือวันที่ 27 มิถุนายน ที่ประชุมใหญ่คณะกรรมการกลางครั้งที่ 6 ได้มีมติเอกฉันท์เห็นชอบ มติว่าด้วยบางประเด็นในประวัติศาสตร์พรรคเรานับตั้งแต่การก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน[2][6]: 166 มติได้ประเมินมรดกจากสมัยเหมา[6]: 166
มติดังกล่าวได้รับการเตรียมไว้ในช่วง 15 เดือนก่อนหน้า[5]: 444 มีการแก้ไขมติหลายครั้งตามมุมมองของเติ้ง[5]: 444 ข้อเสนอแนะหลายประการของเติ้งเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการยืนยันการมีส่วนสนับสนุนการปฏิวัติของเหมา ไม่ใช่แค่วิพากษ์วิจารณ์ข้อผิดพลาดของเขาเท่านั้น[5]: 444
ก่อนการประเมินอย่างเป็นทางการของสมัยเหมา พรรคคอมมิวนิสต์จีนเริ่มถอยห่างจากแนวคิดและนโยบายต่าง ๆ ของเหมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลัง การประชุมใหญ่ครั้งที่สามในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1978[5]: 440–441
เนื้อหา
[แก้]มติเริ่มต้นด้วยการทบทวนประวัติศาสตร์ของสาธารณรัฐประขาชนจีน[6]: 166 อธิบายเหมาว่าเป็นคนแรกในบรรดาคนเท่าเทียมกันในการพัฒนาความคิดของเหมา เจ๋อตงก่อน ค.ศ. 1949 และถือว่าความคิดเหมา เจ๋อตงประสบความสำเร็จในการสร้างเอกราชของชาติ เปลี่ยนแปลงชนชั้นทางสังคมของจีน พัฒนาความสามารถในการพึ่งพาตนเองทางเศรษฐกิจ ขยายการศึกษาและการดูแลสุขภาพ และบทบาทความเป็นผู้นำของจีนในโลกที่สาม[6]: 166–167
มติดังกล่าวอธิบายถึงอุปสรรคที่เกิดขึ้นในช่วง ค.ศ. 1957 ถึง 1964 (แม้โดยทั่วไปจะยืนยันช่วงเวลาดังกล่าว) และข้อผิดพลาดสำคัญที่เริ่มต้นขึ้นใน ค.ศ. 1965[6]: 167 กล่าวถึงข้อผิดพลาดของเหมาที่มีต่อแนวโน้มของความเห็นแก่ตัวซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเขาละทิ้งมุมมองร่วมกันของผู้นำและย้อนรอยข้อผิดพลาดเหล่านี้ไปจนถึงจุดเริ่มต้นของการก้าวกระโดดไกลไปข้างหน้า[6]: 167 มติระบุว่าข้อผิดพลาดของเหมาไม่ใช่ความผิดของเขาเพียงคนเดียว แต่ยังเกิดจากเจียง ชิง, คัง เชิงและหลิน เปียวด้วย[6]: 167 บรรยายว่าบุคคลเหล่านี้ว่าเป็นพวกแสวงหาผลประโยชน์ที่ฉวยโอกาสจากข้อผิดพลาดของเหมาและทำให้ข้อผิดพลาดของเหมาเลวร้ายลงจนนำไปสู่การปฏิวัติวัฒนธรรม[6]: 167 มติวิพากษ์วิจารณ์เหมาว่าพัฒนาลัทธิบูชาบุคคลในช่วงบั้นปลายชีวิตของเขาและบ่อนทำลายหลักการของระบอบประชาธิปไตยแบบรวมศูนย์[5]
มติปฏิเสธการข่มเหงปัญญาชนและการโจมตีกลไกของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรมและระบุว่าข้อผิดพลาดของการปฏิวัติวัฒนธรรมจะถูกลบล้าง[6]: 167 เกี่ยวกับการปฏิวัติวัฒนธรรม มติระบุว่า "ความรับผิดชอบหลักสำหรับความผิดพลาดร้ายแรงของการปฏิวัติวัฒนธรรม ซึ่งเป็นความผิดพลาดที่มีขอบเขตกว้างขวางและยืดเยื้อเป็นของสหายเหมา เจ๋อตง"[5]: 445 มติได้ฟื้นฟูอย่างเป็นทางการให้กับหลิว เช่าฉีและเติ้ง เสี่ยวผิง รวมถึงคนอื่น ๆ[6]: 167
มติได้ระบุสามหลักการสำคัญที่ยึดโยงมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ได้แก่ การแสวงหาความจริงจากข้อเท็จจริง เส้นทางมวลชน และเอกราชของชาติ[6]: 167–168
เมื่อเอกสารใกล้จะสิ้นสุดลง มติได้อธิบายถึงประเด็นพื้นฐานในปัจจุบัน เช่น สี่ทันสมัย การรวมชาติกับไต้หวัน และระบุสี่หลักสำคัญ ได้แก่:
- ยึดมั่นในเส้นทางสังคมนิยม
- ยึดมั่นการปกครองแบบเผด็จการประชาธิปไตยของประชาชน
- ยึดมั่นความเป็นผู้นำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และ
- ยึดมั่นการชี้นำของความคิดของเหมา เจ๋อตงและลัทธิมากซ์–เลนิน[6]: 168
เกี่ยวกับมรดกของเหมา มติสรุปว่าการมีส่วนสนับสนุนของเหมาต่อการปฏิวัติคอมมิวนิสต์จีนมีน้ำหนักมากกว่าความผิดพลาดของเขามาก[5]: 445 ตามมติ ความคิดที่ว่าเหมาถูกต้อง 70 และผิด 30 กลายมาเป็นคำอธิบายทั่วไปเกี่ยวกับมรดกของเขา[5]: 445
ผลกระทบ
[แก้]มติว่าด้วยบางประเด็นในประวัติศาสตร์พรรคเรานับตั้งแต่การก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นหนึ่งในเอกสารที่มีอิทธิพลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยการสรุปประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์ มันได้มอบทั้งรากฐานทางประวัติศาสตร์และทฤษฎีสำหรับการกำหนดแนวทางสำหรับการพัฒนาในระยะต่อไปของจีน นอกจากนี้ ยังนำเสนอรากฐานทางประวัติศาสตร์และทฤษฎีสำหรับการกระจายอำนาจภายในรัฐและพรรคโดยบุคคลสำคัญ เช่น เติ้ง เสี่ยวผิง อีกด้วย กลุ่มต่อต้านการปฏิรูปถูกขับออกจากระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้เกิดการจัดตั้ง "คณะผู้นำส่วนกลางรุ่นที่สองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน" โดยมีเติ้ง เสี่ยวผิงเป็นแกนหลัก[7][8] โดยการรักษาสมดุลระหว่างการวิพากษ์วิจารณ์และการรักษาไว้ซึ่งมรดกของสมัยเหมา มติดังกล่าวช่วยเสริมสร้างความเป็นผู้นำของเติ้งให้แข็งแกร่งขึ้น[3]: 6
มติดังกล่าวตามมาด้วยการรณรงค์เป็นเวลาสามปีเพื่อ "ปฏิเสธการปฏิวัติวัฒนธรรมโดยสิ้นเชิง"[9]: 55 พรรคคอมมิวนิสต์เรียกร้องให้บุคคลและสหกรณ์ศึกษามติและมีส่วนร่วมในการวิพากษ์และวิจารณ์ตนเอง[9]: 55 ประชาชนถูกกระตุ้นให้กำจัดผู้ติดตามของหลิน เปียวและแก๊งออฟโฟร์ ผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากแนวคิดแบ่งฝักแบ่งฝ่าย และ "พวกทุบทำลายและฉกชิง" ในช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรม[9]: 55
ถ้อยคำในมติเกี่ยวกับสมัยของเหมาส่วนใหญ่ถูกสะท้อนโดย มติว่าด้วยผลงานสำคัญและประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์ของพรรคในศตวรรษที่ผ่านมา ใน ค.ศ. 2021[3]: 6
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ "关于建国以来党的若干历史问题的决议". The Central People's Government of the People's Republic of China. 1981-06-27. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-12-16.
- 1 2 "Resolution on Certain Questions in the History of Our Party since the Founding of the People's Republic of China". Wilson Center Digital Archive. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 June 2024. สืบค้นเมื่อ 5 June 2024.
- 1 2 3 4 5 Doyon, Jérôme; Froissart, Chloé (2024). "Introduction". ใน Doyon, Jérôme; Froissart, Chloé (บ.ก.). The Chinese Communist Party: a 100-Year Trajectory. Canberra: ANU Press. ISBN 9781760466244.
- 1 2 Wu, Guoyou; Ding, Xuemei (2020). Zheng, Qian (บ.ก.). An Ideological History of the Communist Party of China. แปลโดย Sun, Li; Bryant, Shelly. Montreal, Quebec: Royal Collins Publishing Group. ISBN 978-1-4878-0392-6.
- 1 2 3 4 5 6 7 8 9 Meisner, Maurice J. (1999). Mao's China and After: a History of the People's Republic (3rd ed.). New York, NY: Free Press. ISBN 978-0-684-85635-3.
- 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 Karl, Rebecca E. (2010). Mao Zedong and China in the Twentieth-Century World: a Concise History. Asia-Pacific series. Durham, NC: Duke University Press. doi:10.2307/j.ctv11hpp6w. ISBN 978-0-8223-4780-4. JSTOR j.ctv11hpp6w. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ ":6" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน - ↑ Spasic, Zoran (2022). "Historical Significance of the Adoption of the Resolution of Communist Party of China's Central Committee". NAUKA I DRUŠTVO -Naučni časopis za društvene nau/Science and Society –Journal of Social Science (ภาษาอังกฤษ). doi:10.5281/zenodo.7033014. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-02-02. สืบค้นเมื่อ 2024-02-02.
- ↑ Liqun, Deng (1986). "Answers to Questions Concerning the "Resolution on Certain Questions in the History of the Party since the Founding of the PRC"". Chinese Law & Government (ภาษาอังกฤษ). 19 (3): 12–54. doi:10.2753/CLG0009-4609190312. ISSN 0009-4609.
- 1 2 3 Thornton, Patricia M. (2019). "Cultural Revolution". ใน Sorace, Christian; Franceschini, Ivan; Loubere, Nicholas (บ.ก.). Afterlives of Chinese Communism: Political Concepts from Mao to Xi. Acton, Australia: Australian National University Press. ISBN 9781760462499.