ข้ามไปเนื้อหา

สมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ
พระบรมฉายาลักษณ์ ค.ศ. 2023
จักรพรรดิญี่ปุ่น
1 พฤษภาคม ค.ศ. 2019 – ปัจจุบัน
บรมราชาภิเษก22 ตุลาคม ค.ศ. 2019
พระราชวังหลวงโตเกียว
ไดโจไซ14–15 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019
รัชศกเรวะ
รัชทายาทมกุฎราชกุมารอากิชิโนะ
นายกรัฐมนตรี
ก่อนหน้าสมเด็จพระจักรพรรดิพระเจ้าหลวงอากิฮิโตะ

พระราชสมภพ (1960-02-23) 23 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1960 (65 ปี)
พระราชวังหลวงโตเกียว
พระบรมนามาภิไธยนารูฮิโตะ
(ได้รับพระราชทานเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1960)
พิธีฉลองการเจริญวัย23 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1980
พระราชบิดาสมเด็จพระจักรพรรดิพระเจ้าหลวงอากิฮิโตะ
พระราชมารดาสมเด็จพระจักรพรรดินีพระพันปีหลวงมิชิโกะ
จักรพรรดินี (โคโง)สมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ (1993–ปัจจุบัน)
พระราชโอรส-ธิดาเจ้าหญิงไอโกะ
ศาสนาชินโต

สมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ (ญี่ปุ่น: 天皇陛下[1] (徳仁); โรมาจิ: Tennō Heka (Naruhito); อังกฤษ: His Majesty the Emperor Naruhito[2]) ทรงเป็นจักรพรรดิพระองค์ที่ 126 แห่งประเทศญี่ปุ่น และทรงเป็นจักรพรรดิพระองค์ปัจจุบัน[2] ทรงเป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระจักรพรรดิพระเจ้าหลวงอากิฮิโตะกับสมเด็จพระจักรพรรดินีพระพันปีหลวงมิชิโกะ

ทรงขึ้นครองราชสมบัติเป็นสมเด็จพระจักรพรรดิ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562[2] หลังจากสมเด็จพระจักรพรรดิพระเจ้าหลวงอากิฮิโตะ (พระบรมราชชนก) สละราชสมบัติ ซึ่งการขึ้นครองราชย์ของพระองค์ ถือว่าเป็นการเริ่มต้นรัชศกใหม่ของญี่ปุ่นที่ชื่อว่า "เรวะ"

สัญลักษณ์ประจำพระองค์ ต้นอาซูซะ ()[1]

ที่ประทับหลัก พระตำหนักหลวง (御所) พระราชวังหลวงโตเกียว เขตชิโยดะ กรุงโตเกียว[3]

พระราชประวัติ

[แก้]

เจ้าชายฮิโระ

[แก้]

มกุฎราชกุมารีมิจิโกะประสูติพระราชโอรส เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2503 (ปีโชวะที่ 35) เวลา 16:15 น. ณ โรงพยาบาลสำนักพระราชวังหลวง พระราชวังหลวงโตเกียว เขตชิโยดะ กรุงโตเกียว โดยพระราชโอรสมีความยาวพระวรกาย 47 เซนติเมตร และน้ำหนัก 2,540 กรัม[4] อีกทั้งทรงเป็นพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์แรกที่ประสูติในโรงพยาบาล ซึ่งในสมัยก่อนนั้น พระบรมวงศานุวงศ์จะประสูติภายในห้องประสูติที่เขตพระราชฐาน[5]

วันที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2503 มีการจัดพิธีเฉลิมพระนาม (命名の儀) ซึ่งเป็นธรรมเนียมราชสำนักที่จัดหลังจากการประสูติประมาณ 7 วัน ในพิธีนี้จะมีการตั้งพระนามและกำหนดสัญลักษณ์ประจำพระองค์ เนื่องจากทรงเป็นพระราชโอรสในมกุฎราชกุมาร พระองค์ทรงได้รับพระราชทานพระนามจากสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตะ[6] พระอัยกา (ปู่) ว่า "นารูฮิโตะ"[2] (ญี่ปุ่น: 徳仁; โรมาจิ: Naruhito) อีกทั้งทรงได้รับพระราชทานพระนามโกโชโงว่า "ฮิโระ"[1] (ญี่ปุ่น: 浩宮; โรมาจิ: Hiro-no-Miya)

อักษรคันจิ "徳" (นารู) ในพระนามจริง มาจากวลี "ผู้ที่เข้าถึงคุณธรรมแห่งสวรรค์" (天に達するもの) ส่วนอักษรคันจิ "浩" (ฮิโระ) ในพระนามโกโชโง มาจากวลี "ท้องฟ้าอันกว้างใหญ่" (々たる天) โดยทั้งสองวลีนี้อยู่ในบทที่ 32 ของคัมภีร์ "จงยง" (中庸) ซึ่งเป็นวรรณกรรมคลาสสิคของจีน[7]

สื่อญี่ปุ่นจะระบุพระนามพระองค์ในวัยพระเยาว์ว่า "浩宮"[5][6] (Hiro-no-Miya) ส่วนสำนักพระราชวังและสื่อต่างประเทศมีการระบุพระนามในภาษาอังกฤษว่า "Prince Hiro"[2][8][9] (เจ้าชายฮิโระ)

ณ วันประสูติ พระองค์ทรงเป็นพระราชนัดดาในสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตะ ดังนั้นพระองค์จึงดำรงฐานันดร "ชินโน" หรือเจ้าชายชั้นเอกแห่งราชวงศ์ญี่ปุ่น ตามกฎมณเฑียรบาลญี่ปุ่น[10]

เจ้าชายฮิโระทรงเป็นพระราชโอรสพระองค์แรกในมกุฎราชกุมารอากิฮิโตะกับมกุฎราชกุมารีมิจิโกะ ทรงมีพระอนุชา 1 พระองค์ คือ เจ้าชายอายะ (ฟูมิฮิโตะ) และ พระขนิษฐา 1 พระองค์ คือ เจ้าหญิงโนริ (ซายาโกะ) ตามลำดับ

หลังการประสูติ พระองค์ทรงมีสถานะเป็นรัชทายาทลำดับที่สองต่อจากพระบิดา (มกุฎราชกุมารอากิฮิโตะ) ตามกฎมณเฑียรบาลญี่ปุ่น มาตรา 2[10]

ตามธรรมเนียมราชสำนักเดิมในยุคก่อนสงคราม พระบรมวงศานุวงศ์ที่ประสูติใหม่ เมื่อมีพระชนมายุครบ 3 ชันษา จะได้รับการเลี้ยงดูโดยข้าราชบริพาร แต่มกุฎราชกุมารอากิฮิโตะกับมกุฎราชกุมารีมิจิโกะ ทรงตัดสินพระทัยที่จะไม่ทำตามธรรมเนียมเดิม โดยการเลี้ยงดูเจ้าชายฮิโระอย่างใกล้ชิดตั้งแต่แรกประสูติ[11][12] และมีการยกเลิกระบบการให้นมโดยพระพี่เลี้ยง[13] อีกทั้งพระบิดาก็ยังทรงทำหน้าที่เปลี่ยนผ้าอ้อมให้พระองค์อีกด้วย[14]

ที่ประทับหลักในวัยพระเยาว์ ทรงประทับอยู่กับพระบิดาและพระมารดา ณ พระตำหนักโทงู เขตพระราชฐานอากาซากะ (赤坂御用地) เขตมินาโตะ กรุงโตเกียว ซึ่งพระตำหนักโทงู มักจะใช้เป็นชื่อที่ประทับของมกุฎราชกุมาร (โคไตชิ) ซึ่งเป็นพระอิสริยยศของพระบิดาของพระองค์ ณ ขณะนั้น

วันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2507 ทรงเข้าศึกษาระดับชั้นอนุบาล ที่โรงเรียนอนุบาลกากูชูอิน (学習院幼稚園)[15][16]

วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2507 เมื่อพระชนมายุเข้า 5 ชันษา ทรงประกอบพิธีสวมฮากามะ (着袴の儀) และ พิธีฟูกาโซกิ (深曽木の儀)[17]

วันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2509 ทรงเข้าพิธีสำเร็จการศึกษาระดับชั้นอนุบาล[18][19]

สัญลักษณ์ประจำพระองค์ ต้นอาซุซะ
เจ้าชายฮิโระ พระชนมายุ 1 ชัณษา

วันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2509 ทรงเข้าพิธีเข้ารับการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา โรงเรียนประถมศึกษากากูชูอิน (学習院初等科) พร้อมด้วยพระบิดาและพระมารดา ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของราชวงศ์ญี่ปุ่นที่พระบรมวงศานุวงศ์เข้าร่วมในพิธีเข้ารับการศึกษาของพระราชบุตรด้วยพระองค์เอง[20][21]

วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2515 ทรงเข้าพิธีสำเร็จการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา[22]

วันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2515 ทรงเข้าพิธีเข้ารับการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนมัธยมชายกากูชูอิน (学習院中・高等科)[23]

เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2517 ในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน พระองค์เสด็จไปยังประเทศออสเตรเลียเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งเป็นการเสด็จไปเยือนต่างประเทศเป็นครั้งแรกของพระองค์และเสด็จเพียงลำพัง ซึ่งขณะนั้นพระองค์มีพระชนมายุ 14 ชันษา โดยทรงประทับที่โฮมสเตย์กับครอบครัวชาวเมลเบิร์น[24][25]

วันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2518 ทรงเข้าพิธีสำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น[26]

วันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2518 ทรงเข้าพิธีเข้ารับการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนมัธยมชายกากูชูอิน (学習院中・高等科)[27]

วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2521 ทรงเข้าพิธีสำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย[28]

เดือนเมษายน พ.ศ. 2521 ทรงศึกษาต่อระดับปริญญาตรี ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยากากูชูอิน (学習院大学)[29][30]

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2523 ทรงมีพระชนมายุครบ 20 ชันษา ซึ่งถือว่าบรรลุนิติภาวะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ทรงประกอบพิธีบรรลุนิติภาวะ (加冠の儀)[31][32] และได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์เกียรติคุณและราชมิตราภรณ์อันสูงส่งยิ่งดอกเบญจมาศ ชั้นมหาปรมาภรณ์[33] หลังจากประกอบพิธีแล้ว พระองค์จะทรงเริ่มมีส่วนร่วมในกิจกรรมของราชวงศ์อย่างเต็มพระองค์

เจ้าชายฮิโระ (ซ้าย) พระชนมายุ 9 ชันษา

วันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2525 ทรงสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี[2] โดยปริญญานิพนธ์ของพระองค์มีชื่อว่า "การคมนาคมทางน้ำในทะเลเซโตะในยุคกลาง" (中世の瀬戸内海の水上交通)[34]

เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2526 ทรงเดินทางไปศึกษาต่อ ณ วิทยาลัยเมอร์ตัน (Merton College) มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด สหราชอาณาจักร[35] ซึ่งพระองค์ได้มีการทำวิจัยในหัวข้อ "การศึกษาการเดินเรือและการจราจรบนแม่น้ำเทมส์ตอนบนในคริสต์ศตวรรษที่ 18" (A Study of Navigation and Traffic on the Upper Thames in the Eighteenth Century)[36] ซึ่งทรงเสด็จกลับประเทศญี่ปุ่นในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2528[35]

วันที่ 3 - 10 ตุลาคม พ.ศ. 2530 ทรงปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้สำเร็จราชการแทนสมเด็จพระจักรพรรดิเป็นครั้งแรก เนื่องจากสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตะ (พระอัยกา) ทรงพระประชวร ส่วนพระบิดาเสด็จเยือนสหรัฐอเมริกาในช่วงดังกล่าว[37]

พ.ศ. 2531 ทรงสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยากากูชูอิน (学習院大学)[30]

มกุฎราชกุมารนารูฮิโตะ

[แก้]
พระราชพิธี "ริตไตชิ โนะ เร" วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534

วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2532 สมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตะ (พระอัยกา) สวรรคต จึงทำให้พระบิดาเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ จักรพรรดิพระองค์ที่ 125 แห่งประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นเจ้าชายฮิโระจึงทรงมีสถานะเป็นรัชทายาทลำดับที่หนึ่ง ตามกฎมณเฑียรบาลญี่ปุ่น มาตรา 2[10] หลังการขึ้นครองราชย์ของพระบิดา

พ.ศ. 2533 เจ้าชายฮิโระทรงย้ายที่ประทับจากพระตำหนักโทงูที่เคยประทับร่วมกับพระบิดาและพระมารดา ไปประทับเพียงลำพังที่ตำหนักอากาซากะตะวันออก ในเขตพระราชฐานอากาซากะ[38]

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันประสูติครบ 31 ชันษา มีการจัดพระราชพิธี "ริตไตชิ โนะ เร" (ญี่ปุ่น: 立太子の礼; โรมาจิ: Rittaishi-no-Rei) หรือพิธีสถาปนาอิสริยยศของพระองค์ขึ้นเป็น "โคไตชิ" หรือมกุฎราชกุมารแห่งประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ[39] ภายหลังการสถาปนา สำนักพระราชวังได้ระบุพระนามของพระองค์เป็น "皇太子"[40] (Kōtaishi) และในภาษาอังกฤษว่า "Crown Prince Naruhito"[41] อีกทั้งสื่อไทยก็มีการระบุพระนามของพระองค์เป็น "เจ้าชายนารูฮิโตะ มกุฎราชกุมาร"[42][43] หรือ "มกุฎราชกุมารนารูฮิโตะ"[44][45]

พระองค์ทรงปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ ทั้งในกรณีที่พระชนกเสด็จเยือนต่างประเทศ และกรณีที่พระราชบิดาเสด็จเข้ารับการรักษาพระองค์ รวมทั้งหมด 23 ครั้งตลอดรัชศกเฮเซ โดยครั้งสุดท้ายคือเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 6 มีนาคม พ.ศ. 2560 เนื่องจากสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ เสด็จเยือนประเทศเวียดนาม[46]

การอภิเษกสมรส

[แก้]
พระราชพิธีอภิเษกสมรส พ.ศ. 2536

วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2529 พระองค์ทรงพบกับนางสาวมาซาโกะ โอวาดะเป็นครั้งแรก ณ พระตำหนักโทงู ในงานเลี้ยงต้อนรับอินฟันตาเอเลนา ดัชเชสแห่งลูโก หรือเจ้าหญิงแห่งเสปน[47]

นางสาวมาซาโกะ โอวาดะ เธอทำงานเป็นนักการทูตหรือข้าราชการของกระทรวงการต่างประเทศ[47] ซึ่งเธอเป็นบุตรสาวของนายฮิซาชิ โอวาดะ นักการทูตและตุลาการศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ

พระตำหนักโทงู ได้มีการจัดงานที่มีลักษณะการคล้ายการดูตัวอยู่หลายต่อหลายครั้ง เพื่อเฟ้นหาบุคคลที่จะมาเป็นพระชายา ซึ่งนางสาวมาซาโกะ โอวาดะก็เป็นหนึ่งในบุคคลที่อยู่ในการพบปะเหล่านั้น[48] โดยในตอนแรกชื่อเธอได้ถูกตัดออกจากตัวเลือกของการเป็นพระชายาอยู่ครั้งหนึ่ง เนื่องจากสำนักพระราชวังพยายามมองหาคนที่มีประวัติขาวสะอาดจริงๆ แต่เธอกลับมีปัญหาทางด้านญาติผู้ใหญ่[48][49][50] อย่างไรก็ตามเจ้าชายทรงโปรดเธอไม่น้อย จนถึงขั้นตรัสเอ่ยขึ้นมากับทางหัวหน้าสำนักพระราชวังว่า "คุณมาซาโกะ โอวาดะนั้นเป็นไปไม่ได้หรือครับ" (小和田雅子さんではだめでしょうか)[50] เมื่อทางหัวหน้าสำนักพระราชวังได้ยินพระดำรัสของพระองค์ จึงพยายามทาบทามเธอเรื่อยมา[51] เวลาผ่านไป 5 ปี พระองค์ทรงได้พบกับเธออีกครั้ง โดยในวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2535 พระองค์ทรงขอนางสาวมาซาโกะ โอวาดะแต่งงาน ณ สนามล่านกเป็ดน้ำชินฮามะ เมืองอิชิกาวะ จังหวัดชิบะ แต่ ณ ตอนนั้น เธอไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนนักแก่พระองค์[52]

วันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2535 พระองค์ได้เชิญเธอมาพบอีกครั้ง ณ พระตำหนักโทงู ซึ่งเธอก็ได้ทำการตอบรับคำขอแต่งงานของพระองค์[51][52]

วันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2536 สภาราชวงศ์ญี่ปุ่นได้ทำการอนุมัติการอภิเษกสมรส[2] และมีการจัดงานแถลงข่าวการอภิเษกสมรส โดยพระดำรัสสำคัญของพระองค์ที่ทรงตรัสต่อเธอคือ "ผมจะปกป้องคุณมาซาโกะอย่างเต็มที่จากนี้ไป" (雅子さんのことは僕が一生全力でお守りしますから)[53][54]

วันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2536 จัดพิธีโนไซ (納采の儀) หรือพิธีหมั้น[2]

วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2536 มีการจัดพิธีอภิเษกสมรส โดยนางสาวมาซาโกะ โอวาดะได้รับการสถาปนาอิสริยยศเป็น "โคไตชิฮิ" (皇太子妃)[40] หรือพระวรชายาในมกุฎราชกุมาร ซึ่งสำนักพระราชวังได้ระบุพระนามของพระองค์ในภาษาอังกฤษว่า "Crown Princess Masako"[41] (มกุฎราชกุมารีมาซาโกะ)

ในวันเดียวกันนั้น ทั้งสองพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์จากพระราชวังหลวงโตเกียว ไปยังตำหนักอากาซากะตะวันออก ซึ่งเป็นที่ประทับชั่วคราว ในเขตพระราชฐานอากาซากะ เป็นระยะทางกว่า 4 กิโลเมตร โดยมีประชาชนกว่า 190,000 คนร่วมรับเสด็จ และในการถ่ายทอดสดมีประชาชนร่วมรับชมถึง 85.6%[51][55]

วันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2537 มกุฎราชกุมารนารูฮิโตะและมกุฎราชกุมารีมาซาโกะ ทรงย้ายเข้าไปประทับ ณ พระตำหนักโทงู ตามพระอิสริยยศของพระองค์ หลังจากที่สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะย้ายออกจากพระตำหนักโทงูไปประทับยังพระราชวังหลวงโตเกียวแล้วและมีการปรับปรุงพระตำหนักเสร็จสิ้น[56][57]

หลังการอภิเษกสมรส

[แก้]

หลังจากการอภิเษกสมรส มกุฎราชกุมารีมาซาโกะทรงได้รับความกดดันเป็นอย่างมากในการให้กำเนิดรัชทายาทชาย ซึ่งในช่วงแรกนั้นทั้งสองพระองค์ก็คาดหวังที่จะตั้งครรภ์โดยธรรมชาติ จนเวลาล่วงเลยมา 3 - 4 ปีหลังการอภิเษกสมรส พระชายาก็ยังไม่ตั้งพระครรภ์[58] จนในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2541 ทั้งสองพระองค์ได้เริ่มเข้ารับการปรึกษาจากทางแพทย์ และได้เข้าสู่กระบวนการรักษาตามภาวะของการมีบุตรยากอย่างเต็มรูปแบบใน พ.ศ. 2542[58]

ถัดมาไม่นาน พระวรกายของพระชายาเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงทางอุณหภูมิ แต่ผลการตรวจยังไม่แน่ชัดว่าทรงพระครรภ์หรือไม่ พร้อมกับปฏิกิริยาของทางพนักงานสำนักพระราชวังที่เปลี่ยนแปลงไป และมีการยกเลิกแผนกำหนดการเสด็จเยือนเยอรมนี จึงทำให้ในวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2542 หนังสือพิมพ์อาซาฮีชิมบุนทำการพาดหัวข่าวว่าพระชายาทรงแสดงอาการตั้งพระครรภ์แล้ว แต่ทางสำนักพระราชวังก็ออกแถลงการณ์ว่าการตั้งพระครรภ์ยังไม่เป็นที่ยืนยัน[58] จนในวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2542 มกุฎราชกุมารีมาซาโกะทรงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสำนักพระราชวัง และมีการวินิจฉัยว่าทรงแท้ง[58][59]

เจ้าชายนารูฮิโตะ มกุฎราชกุมาร เจ้าหญิงมาซาโกะ มกุฎราชกุมารี และเจ้าหญิงไอโกะ เมื่อ พ.ศ. 2545

วันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2544 มีการประกาศจากทางสำนักพระราชวังอีกครั้งว่ามีแนวโน้มที่พระชายาทรงพระครรภ์ และได้มีประกาศออกมาอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2544 ว่าจะทรงมีกำหนดการประสูติในช่วงเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม[58]

วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2544 มกุฎราชกุมารีมาซาโกะได้ทำการประสูติพระราชธิดา เจ้าหญิงโทชิ (ไอโกะ)[58]

หลังการประสูติ ความกดดันจากผู้คนรอบข้างก็ยังไม่หายไป เนื่องจากกฎมณเฑียรบาลญี่ปุ่น มาตรา 2 กำหนดให้มีเพียงแค่ผู้ชายเท่านั้นที่จะสามารถสืบราชสมบัติได้[10] จึงยังมีเสียงความคาดหวังให้พระชายาทรงพระครรภ์ทายาทชายอีกครั้ง จนใน พ.ศ. 2546 พระชายาประชวรโรคงูสวัดเนื่องจากความเครียด และมีการประกาศว่าพระชายาจะมีการรักษาพระองค์เป็นระยะยาว จนเจ้าชายทรงออกพระดำรัสปกป้องพระชายาว่า "สุขภาพของมาซาโกะยังคงมีขึ้นๆ ลงๆ เธอพยายามอย่างเต็มที่ที่จะปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของราชวงศ์ แต่ความพยายามนั้นก็อ่อนล้าเต็มที และเป็นความจริงที่ว่ามีคนที่พยายามลดทอนคุณค่าความสามารถและบุคลิกภาพของมาซาโกะ"[60][61][62]

พ.ศ. 2547 มีการประกาศอีกว่าพระชายาทรงประชวรโรคภาวะการปรับตัวผิดปกติ (適応障害)[63] จึงทำให้ไม่ค่อยเห็นภาพของพระชายาปรากฏคู่กับพระองค์ในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจเป็นต้นมา[62] จนในวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 พระองค์ทรงมีแถลงการณ์ถึงสาธารณชนให้พยายามเข้าใจพระชายาว่า "ข้าพเจ้าอยากจะให้ทุกคนเข้าใจว่า มาซาโกะจะยังคงดำเนินตามความพยายามสูงสุดของเธอต่อไปด้วยกำลังใจจากผู้คนรอบข้าง โปรดเฝ้ามองเธอต่อไปด้วยความเห็นใจ"[64][65]

ราชวงศ์ญี่ปุ่น เมื่อ พ.ศ. 2556

วันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2559 สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ พระราชบิดา ทรงเผยแพร่พระราชสาสน์ต่อประชาชนถึงพระราชประสงค์ของพระองค์ที่จะสละราชสมบัติผ่านวิดิโอ โดยทรงกังวลถึงพระชนมายุของพระองค์ต่อการปฏิบัติพระราชกรณียกิจในสถานะสัญลักษณ์ของประเทศ รวมถึงพระพลานามัยของพระองค์ที่อ่อนล้าลงอีกด้วย[66]

วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2560 สภาราชวงศ์ญี่ปุ่นได้มีมติกำหนดวันสละราชสมบัติของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ เป็นวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2562 และวันขึ้นครองราชย์ของจักรพรรดิพระองค์ใหม่ในวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562[67]

วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2562 โยชิฮิเดะ ซูงะ เลขาธิการใหญ่คณะรัฐมนตรี ได้ประกาศชื่อของรัชศกใหม่ว่า "เรวะ" ซึ่งจะนำมาใช้แทนรัชศก "เฮเซ" ที่จะสิ้นสุดลงเมื่อสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ สละราชสมบัติ[68]

วันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2562 มีการประกาศใช้กฎหมายพิเศษว่าด้วยการสละราชสมบัติของจักรพรรดิ[69] โดยในมาตรา 2 ระบุว่า เมื่อจักรพรรดิสละราชสมบัติ ณ วันที่มีผลบังคับใช้ มกุฎราชกุมารจะสืบราชสมบัติต่อทันที

จักรพรรดินารูฮิโตะ ทรงเครื่องราชอิสริยาภรณ์เกียรติคุณและราชมิตราภรณ์อันสูงส่งยิ่งดอกเบญจมาศ ชั้นสังวาลย์

สมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ

[แก้]

วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2562 มีการจัดพระราชพิธี "ไทเรเซเดน" (退位礼正殿の儀) หรือพระราชพิธีสละราชสมบัติของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ พระราชบิดา ณ พระราชวังหลวงโตเกียว[70] ซึ่งเป็นการสละราชสมบัติของจักรพรรดิญี่ปุ่นในรอบ 200 กว่าปี[71] โดยครั้งล่าสุดคือการสละราชสมบัติของจักรพรรดิโคกากุ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2360

วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เวลา 00:00 นาฬิกา กฎหมายพิเศษว่าด้วยการสละราชสมบัติของจักรพรรดิได้มีการบังคับใช้[69] จึงทำให้มกุฎราชกุมารนารูฮิโตะได้ขึ้นครองราชสมบัติเป็นสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ รัชศกได้เปลี่ยนเป็นปีเรวะ ที่ 1 อีกทั้งได้มีการกำหนดให้วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เป็นวันหยุดพิเศษของญี่ปุ่น[72] และในวันเดียวกันได้มีการประกอบพระราชพิธีดังนี้

  • พระราชพิธี "เคนจิโทโชเค" (剣璽等承継の儀) หรือพระราชพิธีรับไตรราชกกุธภัณฑ์[73], ตราแผ่นดิน, และตราประจำพระองค์ ณ ท้องพระโรงมัตสึโนมะ พระราชวังหลวงโตเกียว ซึ่งเป็นพระราชพิธีทางสัญลักษณ์ที่แสดงถึงการสืบราชสมบัติ โดยในพระราชพิธีมีเพียงพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายหน้าที่บรรลุนิติภาวะ, ประมุข 3 ฝ่าย, และคณะรัฐมนตรีเท่านั้นที่ได้เข้าร่วม[74][75] อย่างไรก็ตามมีสตรีเพียงบุคคลเดียวที่ได้เข้าร่วมในงานพระราชพิธีนี้คือ นางซาสึกิ คาตายามะ (片山 さつき) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงส่งเสริมบทบาทสตรี[76]
  • พระราชพิธี "โซกุยโงโจเก็น" (即位後朝見の儀) หรือพระราชพิธีเข้าเฝ้าสมเด็จพระจักรพรรดิ โดยมีพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ที่บรรลุนิติภาวะ, ประมุข 3 ฝ่าย, และตัวแทนประชาชนจากภาคส่วนต่างๆ เข้าร่วมพระราชพิธีนี้ [77][78]
ฉลองพระองค์ในพิธีพระบรมราชาภิเษก

วันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2562 มีการจัดพระราชพิธี "โซกุยเรเซเด็น" (即位礼正殿の儀) หรือพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ จะเสด็จประทับบนพระราชบัลลังก์ "ทากามิกูระ" (高御座) ณ ท้องพระโรงมัตสึโนมะ พระราชวังหลวงโตเกียว[71][79] ด้วยฉลองพระองค์อันประกอบไปด้วย

  • ชุด "โคโรเซ็นโนะโงโฮ" (黄櫨染御袍) เป็นชุดพิธีการโบราณประเภทหนึ่งของญี่ปุ่นที่เรียกว่า "โซกูไต" (束帯) แต่มีสีแดงอมน้ำตาล ซึ่งเป็นสีฉลองพระองค์สำหรับจักรพรรดิเท่านั้น[80]
  • มงกุฎ "โอริวเอ-โนะ-คัมมูริ" (御立纓の冠) เป็นมงกุฎโบราณประเภทหนึ่งของญี่ปุ่นที่เรียกว่า "คัมมูริ" (冠) มักใช้สวมคู่กับชุด "โซกูไต" แต่มีปลายยกขึ้นสูง 60 เซ็นติเมตร ซึ่งเป็นมงกุฎสำหรับจักรพรรดิเท่านั้น[81]
  • พระหัตถ์ถือ "ฮู่" (笏) โดยมีลักษณะเป็นแผ่นไม้ยาว มักใช้ถือเมื่อสวมชุด "โซกูไต"

หลังจากสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะประทับบนพระราชบัลลังก์ทาคามิกูระแล้ว ได้มีการเปิดพระวิสูตร จากนั้นพระองค์ทรงมีพระปฐมบรมราชโองการว่า[82]

จักรพรรดินารูฮิโตะ ประทับบนพระราชบัลลังก์ "ทากามิกูระ" ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
"ตามที่ข้าพเจ้าได้ขึ้นสืบราชสันตติวงศ์เป็นสมเด็จพระจักรพรรดิ ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญแห่งญี่ปุ่นและกฎหมายพิเศษว่าด้วยการสละราชสมบัติของจักรพรรดิ บัดนี้ ข้าพเจ้าขอประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ณ พระที่นั่งเซเด็น และขอประกาศการบรมราชาภิเษกนี้ให้สาธารณชนทั้งในและต่างประเทศได้รับทราบ ข้าพเจ้าใคร่ขอระลึกถึงพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์ก่อนผู้ทรงสละราชสมบัติ ซึ่งตลอดระยะเวลามากกว่า 30 ปีบนพระราชบัลลังก์ พระองค์ทรงสวดอ้อนวอนขอให้ประชาชนมีความสุขและสันติภาพของโลกอยู่เสมอ ทรงร่วมสุขร่วมทุกข์กับประชาชน และทรงแสดงความเมตตาผ่านพระราชจริยวัตรของพระองค์เอง ข้าพเจ้าขอให้คำมั่นสัญญาว่า จะปฏิบัติตนตามรัฐธรรมนูญและเติมเต็มความรับผิดชอบในฐานะสัญลักษณ์ของรัฐและเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนชาวญี่ปุ่น พร้อมทั้งปรารถนาให้ประชาชนมีความสุขและสันติภาพของโลกอยู่เสมอ โดยจะระลึกถึงประชาชนและยืนเคียงข้างพวกเขา ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ประเทศของเราจะก้าวหน้าต่อไปด้วยปัญญาและความพยายามอย่างไม่หยุดยั้งของประชาชน และจะร่วมสร้างสรรค์มิตรภาพและสันติภาพของประชาคมระหว่างประเทศ ตลอดจนความอยู่ดีมีสุขและความเจริญรุ่งเรืองของมนุษยชาติ"
พระราชพิธี "โชกูงะ อนเร็ตสึ"

มีผู้แทนจากประเทศต่างๆ จำนวน 160 ประเทศ เข้าร่วมในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก[83] โดยนายประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และภริยา เข้าร่วมในฐานะตัวแทนประเทศไทย อีกทั้งได้มีการกำหนดให้วันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2562 เป็นวันหยุดพิเศษของญี่ปุ่น[72]

วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 มีการจัดพระราชพิธี "โชกูงะ อนเร็ตสึ" (祝賀御列の儀) หรือพระราชพิธีขบวนแห่เฉลิมฉลองการขึ้นครองราชย์ ซึ่งสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ ประทับรถยนต์พระที่นั่งเปิดประทุน เสด็จจากพระราชวังหลวงโตเกียว ไปยังพระตำหนักอากาซากะ (赤坂御所) ในเขตพระราชฐานอากาซากะ (赤坂御用地) โดยมีประชาชนกว่า 119,000 คนร่วมรับเสด็จตลอดสองข้างทาง[84][85]

วันที่ 14 - 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 มีการจัดพระราชพิธี "ไดโจไซ" (大嘗宮の儀) ซึ่งเป็นโบราณราชพิธีหลังจากการขึ้นครองราชสมบัติของจักรพรรดิ โดยจัดขึ้นในตอนกลางคืนจนถึงเช้ามืดวันถัดไป พระราชพิธีนี้เป็นพิธีอธิษฐานของจักรพรรดิเพื่อให้ประเทศชาติและประชาชนสงบสุข รวมถึงขอให้พืชพรรณธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ โดยสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะทรงฉลองพระองค์สีขาวที่เรียกว่า "โกไซฟูกุ" (御祭服) ซึ่งเป็นฉลองพระองค์ที่มีความศักดิ์สิทธิ์[86][87]

วันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2562 มีการจัดพระราชพิธี "เค็นโช มิกางูระ" (賢所御神楽の儀) ณ ศาลเจ้าเค็นโช พระราชวังหลวงโตเกียว เพื่อทำความเคารพศักการะต่อเทพีอามาเตราซุ ซึ่งถือเป็นพระราชพิธีสุดท้ายทีเกี่ยวข้องกับการขึ้นครองราชสมบัติของจักรพรรดิ[88][89]

วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2564 ทรงย้ายมาประทับที่พระตำหนักหลวง (御所) พระราชวังหลวงโตเกียว เขตชิโยดะ กรุงโตเกียว เป็นการถาวร หลังจากที่ได้มีการปรับปรุงพระตำหนักเสร็จสิ้นแล้ว พระตำหนักนี้จะเป็นที่ประทับหลักของสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ, สมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ, และเจ้าหญิงไอโกะ พระราชธิดา [90]

พระราชกรณียกิจ

[แก้]
งานออกมหาสมาคมในวันขึ้นปีใหม่

พิธีราชสำนัก

[แก้]
  • ทุกวันที่ 1 มกราคมของทุกปี มีการจัดพิธี "ชินเน็น-ชูกูงะ" (新年祝賀の儀) เพื่อรับการถวายพระพรปีใหม่ จากพระบรมวงศานุวงศ์และคณะรัฐมนตรี ณ ท้องพระโรงมัตสึโนมะ พระราชวังหลวงโตเกียว[91]
  • ทุกวันที่ 2 มกราคมของทุกปี มีการจัดพิธี "ชินเน็น-อิปปัน-ซังงะ" (新年一般参賀) หรือการออกมหาสมาคมเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ เพื่อรับการถวายพระพรจากประชาชน ณ สวนฝั่งตะวันออกของพระราชวังหลวงโตเกียว[92]
  • ในเดือนมกราคมของทุกปี มีการจัดพิธี "โคโช ฮาจิเมะ" (講書始) ซึ่งเป็นการเสด็จออกรับฟังการบรรยายจากผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชามนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ โดยมีพระบรมวงศานุวงศ์ร่วมเสด็จด้วย ณ ท้องพระโรงมัตสึโนมะ พระราชวังหลวงโตเกียว[93]
  • ในเดือนมกราคมของทุกปี มีการจัดพิธี "อูตาไก ฮาจิเมะ" (歌会始の儀) ซึ่งเป็นพิธีการขับร้องบทกวีในท่วงทำนองโบราณตามแบบแผนดั้งเดิมของญี่ปุ่น โดยมีพระบรมวงศานุวงศ์ร่วมเสด็จด้วย ณ ท้องพระโรงมัตสึโนมะ พระราชวังหลวงโตเกียว[94]
  • ทุกวันที่ 23 กุมภาพันธ์ของทุกปี มีการจัดพิธี "เท็นโน-ทันโจบิ-อิปปัน-ซังงะ" (天皇誕生日一般参賀) หรือการออกมหาสมาคมเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ เพื่อรับการถวายพระพรจากประชาชน ณ สวนฝั่งตะวันออกของพระราชวังหลวงโตเกียว[95]
  • ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงของทุกปี ทรงเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงน้ำชา เพื่อต้อนรับแขกผู้มีเกียรติจากหลากหลายวงการในประเทศญี่ปุ่น ที่เขตพระราชฐานอากาซากะ (赤坂御用地) กรุงโตเกียว[96]

กิจการของรัฐ

[แก้]

จักรพรรดิทรงเป็นสัญลักษณ์แห่งญี่ปุ่น และจะทรงกระทำเฉพาะกิจการของรัฐตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญเท่านั้น อันได้แก่

  • พิธี "ชินนินชิกิ" (親任式) เป็นพิธีแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีหลังจากได้รับการเสนอชื่อจากรัฐสภา หรือเป็นพิธีแต่งตั้งประธานศาลสูงสุด หลังจากได้รับการเสนอชื่อจากคณะรัฐมนตรี[97]
  • พิธี "นินโชกันนินเมชิกิ" (認証官任命式) เป็นพิธีรับรองเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงทั้งหมด 17 ตำแหน่ง หลังจากได้รับการเสนอชื่อจากคณะรัฐมนตรี เช่น รัฐมนตรีว่าการ, กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน, เอกอัครราชทูตสามัญผู้มีอำนาจเต็ม, ผู้พิพากษาศาลสูงสุด เป็นต้น[98]
  • พิธีพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสายสะพาย ซึ่งจะจัดในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงของทุกปี[99]
  • พิธีพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์วัฒนธรรม ซึ่งจะจัดขึ้นทุกวันที่ 3 พฤศจิกายนของทุกปี[99]
  • พิธีถวายสาส์นตราตั้ง โดยเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มคนใหม่จากต่างประเทศ จะทำการถวายถวายสาส์นตราตั้งแด่พระองค์ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือรัฐมนตรีคนอื่น เข้าร่วมในพิธีนี้ด้วย[100]

ความสนพระทัยทางด้านน้ำ

[แก้]
การประชุมระดับชาติเพื่อพัฒนาทะเลให้มีผลิตผลอุดมสมบูรณ์ พ.ศ. 2566

พระองค์ทรงมีความสนพระทัยทางด้านน้ำเป็นอย่างมาก เห็นได้จากการทำปริญญานิพนธ์ "การคมนาคมทางน้ำในทะเลเซโตะในยุคกลาง"[34] ในระดับปริญญาตรี และการทำวิจัยเรื่อง "การศึกษาการเดินเรือและการจราจรบนแม่น้ำเทมส์ตอนบนในคริสต์ศตวรรษที่ 18" ขณะที่ทรงศึกษาที่สหราชอาณาจักร[36] จึงทรงมีพระราชกรณียกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมากมาย ได้แก่

  • ทรงได้รับตำแหน่ง ประธานกิตติมศักดิ์ คณะกรรมการที่ปรึกษาของสหประชาชาติว่าด้วยน้ำและสุขาภิบาล (UN Secretary-General's Advisory Board on Water and Sanitation)[101] ซึ่งเป็นเวทีสำคัญในการหารือและผลักดันประเด็นปัญหาน้ำและสุขาภิบาลในระดับโลก
  • ทรงเข้าร่วมการประชุม World Water Forum ครั้งที่ 3[102], 4[103], 5[104], 8[104] ทั้งที่จัดในประเทศญี่ปุ่นและต่างประเทศ ซึ่งเป็นการประชุมระดับนานาชาติเกี่ยวกับน้ำ
  • ทรงพระราชนิพนธ์หนังสือในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับน้ำ "水運史から世界の水へ" (จากประวัติศาสตร์การเดินเรือสู่โลกแห่งน้ำ) ISBN 978-4140817728
  • ทรงเข้าร่วมการสัมมนาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับน้ำ[105]
  • ทรงเข้าร่วมเทศกาลแห่งท้องทะเล (全国豊かな海づくり大会式典行事) เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ รวมถึงสภาพแวดล้อมทางทะเลและแม่น้ำ[106]
งานเปิดการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิก พ.ศ. 2564

การกีฬา

[แก้]

การกุศล

[แก้]
  • เนื่องในวโรกาสการขึ้นครองราชสมบัติของพระองค์ ทรงบริจาคเงิน 50 ล้านเยนให้กับกองทุนสนับสนุนอนาคตเด็ก (子供の未来応援基金へ) และ 50 ล้านเยนให้กับองค์การไม่แสวงหาผลกำไร (特定非営利活動法人) ซึ่งการบริจาคเงินของราชวงศ์ญี่ปุ่นที่เป็นจำนวนมากกว่า 18 ล้านเยนต่อปีนั้น ต้องได้รับการอนุมัติจากสภานิติบัญญัติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 8[109][110]

การส่งเสริมเยาวชน

[แก้]
  • โครงการ "มาเมะ-กิชะ" (豆記者) หรือนักข่าวตัวจิ๋ว เป็นโครงการแลกเปลี่ยนนักเรียนระหว่างญี่ปุ่นแผ่นดินใหญ่กับเกาะโอกินาวะ โดยเหล่านักเรียนจะได้มีโอกาสเข้าเฝ้าพระองค์ที่พระราชวัง แล้วพระองค์จะมีพระปฏิสันถารกับนักเรียนในเรื่องต่างๆ เช่น ธรรมชาติ อาหารท้องถิ่น ซึ่งพระองค์ได้ปฏิบัติพระราชกรณียกิจนี้เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งมกุฎราชกุมาร โดยทรงรับต่อมาจากพระบรมราชชนก ปัจจุบันหลังจากที่พระองค์ขึ้นครองราชย์นั้น พระราชกรณียกิจนี้ได้ถูกส่งต่อไปให้มกุฎราชกุมารอากิชิโนะ พระราชอนุชา[111]
  • ทรงเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เด็ก V&A ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์วิกตอเรียและอัลเบิร์ต (Victoria and Albert Museum) โดยเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมและจัดแสดงสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและประสบการณ์ของเด็กๆ[112]
  • ทรงเยี่ยมชมโรงเรียนอนุบาล เพื่อทอดพระเนตรกิจกรรมของเหล่าเด็กๆ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ[113]
ทรงร่วมรำลึกถึงความสูญเสียจากสงคราม เมื่อ พ.ศ. 2566

การรำลึกถึงความสูญเสียจากสงคราม

[แก้]
  • ทรงวางดอกไม้แสดงความอาลัย เมื่อทรงเสด็จไปที่อนุสรณ์สถานที่เกี่ยวข้องกับการสูญเสียจากสงคราม โดย เฉพาะในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เช่น อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิมา เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์การทิ้งระเบิดปรมาณู[114], อนุสรณ์หอคอยโคซากุระ เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์การล่มของเรือสึชิมะ มารุ (対馬丸)[115], อนุสาวรีย์ผู้เสียชีวิตในสงครามอิโอจิมะ[116]
  • ทรงเข้าเยี่ยมศูนย์ดูแลผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ปรมาณูที่ฮิโรชิมา[117], พูดคุยการผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์การล่มของเรือสึชิมะ มารุ (対馬丸)[118]

ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

[แก้]
  • ทรงเข้าร่วมพิธีมอบรางวัล "Japan Prize" ซึ่งจะทำการมอบรางวัลให้กับนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยจากทั่วโลกที่มีผลงานโดดเด่นและเป็นประโยชน์อย่างมากในระดับโลก[119]
  • ทรงเข้าร่วมพิธีเปิดงาน Osaka World Expo 2025 และทรงเข้าร่วมชมพาวิลเลียนต่างๆในงาน[120]
พิธีมอบรางวัลมิโดริ พ.ศ. 2565

ด้านธรรมชาติ

[แก้]
  • ทรงร่วมพิธีเทศกาลปลูกต้นไม้แห่งชาติ เพื่อส่งเสริมการปลูกป่าและอนุรักษ์ธรรมชาติ โดยพระองค์จะทรงร่วมทำการปลูกต้นไม้ในงานพิธีนี้[121]
  • ทรงเข้าร่วม "พิธีมอบรางวัลมิโดริ" (みどりの式典) เพื่อยกย่องและมอบรางวัลให้กับบุคคลหรือองค์กรที่มีผลงานโดดเด่นในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู หรือสร้างพื้นที่สีเขียว รวมถึงการส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับป่าไม้และสิ่งแวดล้อม[122]

การเยียวยาพื้นที่ภัยพิบัติ

[แก้]
  • วันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2538 ทรงเสด็จเยือนประเทศในแถบตะวันออกกลางพร้อมกับมกุฎราชกุมารีมาซาโกะ (พระยศ ณ ขณะนั้น) ซึ่งทรงเสด็จไปหลังจากการเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ฮันชิง เพียง 3 วัน ด้วยผลกระทบจากแผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดความเสียหายต่อประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก พระองค์จึงต้องทรงกลับประเทศญี่ปุ่นเร็วกว่ากำหนดการเดิมถึง 3 วัน[123]
  • ทรงเสด็จเยี่ยมพื้นที่ที่ได้รับการประสบภัยหลังจากเกิดเหตุได้ 2 สัปดาห์ และทรงเสด็จอีกครั้งในเดือนมีนาคม[124]
  • ทรงเสด็จเข้าร่วมพิธีรำลึกครบรอบ 10 ปี (พ.ศ. 2548), ครบรอบ 15 ปี (พ.ศ. 2553), และครบรอบ 30 ปี (พ.ศ. 2568) ของเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้[124][125]
  • วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ทรงร่วมเล่นวิโอลาในคอนเสิร์ตการกุศลของวงออร์เคสตราศิษย์เก่ามหาวิทยากากูชูอิน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว[126]
  • ทรงลงพื้นที่เยี่ยมเยียนผู้ประสบภัยกว่า 10 ครั้ง เช่น วันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 ทรงเยี่ยมประชาชนที่อพยพจากพื้นที่ประสบภัยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ จังหวัดฟูกูชิมะ มายังศูนย์ราชการมิซูนูมะ เมืองมิซาโตะ จังหวัดไซตามะ[127], วันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 ทรงเยี่ยมประชาชนในพื้นที่ประสบภัย จังหวัดมิยางิ[128]

เหตุการณ์พายุไต้ฝุ่นฮากิบิส พ.ศ. 2562

[แก้]
  • วันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2562 เสด็จเยือนจังหวัดมิยางิและจังหวัดฟูกูชิมะ เพื่อเยี่ยมเยียนพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นฮากิบิส ซึ่งเป็นการเสด็จเยี่ยมพื้นที่ภัยพิบัติครั้งแรกของพระองค์ หลังจากการขึ้นครองราชย์[129]
  • ทรงเยี่ยมพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย เมืองวาจิมะ จังหวัดอิชิกาวะ[130]
  • ทรงลงพื้นที่เยี่ยมเยียนผู้ประสบภัย ณ โรงเรียนเทศบาลเมืองวาจิมะ จังหวัดอิชิกาวะ[131]
  • ทรงแสดงความขอบคุณต่อผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ประสบภัย[132]

การเยือนต่างประเทศ[133][103][104][134]

[แก้]
ประเทศ วันที่ พระราชกรณียกิจ เสด็จพร้อมด้วย
 ออสเตรเลีย 16 - 30 สิงหาคม พ.ศ. 2517 เสด็จเป็นการส่วนพระองค์ตอนปิดเทอมฤดูร้อน
11 - 19 ธันวาคม พ.ศ. 2545 เสด็จเยือนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มกุฎราชกุมารีมาซาโกะ
 เบลเยียม 7 - 18 สิงหาคม พ.ศ. 2519 เสด็จเป็นการส่วนพระองค์
23 กันยายน - 1 ตุลาคม พ.ศ. 2532 ทรงร่วมพิธีเปิดเทศกาลญี่ปุ่น-ยุโรป
17 - 27 สิงหาคม พ.ศ. 2533 ทรงเข้าร่วมงานการประชุม

สมาคมประวัติศาสตร์เศรษฐกิจระหว่างประเทศ ครั้งที่ 10

3 - 7 ธันวาคม พ.ศ. 2542 ทรงร่วมงานอภิเษกสมรสของเจ้าชายฟีลิป ดยุกแห่งบราบันต์ มกุฎราชกุมารีมาซาโกะ
 สเปน 7 - 18 สิงหาคม พ.ศ. 2519 เสด็จเป็นการส่วนพระองค์
18 กรกฎาคม - 4 สิงหาคม พ.ศ. 2535 ทรงเข้าร่วมชมพิธีเปิดงานโอลิมปิกฤดูร้อน 1992
12 - 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2547 ทรงร่วมงานอภิเษกสมรสของ

เจ้าชายเฟลิเป มกุฎราชกุมารแห่งสเปน

16 - 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 เสด็จเยือนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
10 - 16 มิถุนายน พ.ศ. 2556 ทรงร่วมงานครบรอบ 400 ปีความสัมพันธ์ทางการทูต
 บราซิล 3 - 18 ตุลาคม พ.ศ. 2525 เสด็จเยือนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
16 - 27 มิถุนายน พ.ศ. 2551 ทรงร่วมงานครบรอบ 100 ปีการอพยพของชาวญี่ปุ่น
16 - 22 มีนาคม พ.ศ. 2561 ทรงร่วมงานการประชุม World Water Forum ครั้งที่ 8
 สหราชอาณาจักร 20 มิถุนายน พ.ศ. 2526 -

31 ตุลาคม พ.ศ. 2528

ทรงศึกษาต่อ วิทยาลัยเมอร์ตัน (Merton College)

มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด

20 - 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2529 ทรงร่วมงานอภิเษกสมรสของ

เจ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก

11 - 24 กันยายน พ.ศ. 2534 ทรงร่วมพิธีเปิดงาน "Japan Festival 1991"
18 - 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2544 ทรงร่วมพิธีเปิดงาน "Japan 2001"
 เนปาล 10 - 25 มีนาคม พ.ศ. 2530 เสด็จเยือนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
 ภูฏาน
 อินเดีย
 นอร์เวย์ 28 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 ทรงร่วมงานพระบรมศพของสมเด็จพระราชาธิบดีโอลาฟที่ 5
 โมร็อกโก 11 - 24 กันยายน พ.ศ. 2534 เสด็จเยือนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
 เวเนซุเอลา 18 กรกฎาคม - 4 สิงหาคม พ.ศ. 2535 เสด็จเยือนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
 เม็กซิโก 18 กรกฎาคม - 4 สิงหาคม พ.ศ. 2535 เสด็จเยือนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
15 - 21 มีนาคม พ.ศ. 2549 ทรงร่วมงานการประชุม World Water Forum ครั้งที่ 4
 ซาอุดีอาระเบีย 5 - 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2537 เสด็จเยือนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มกุฎราชกุมารีมาซาโกะ
3 - 4 สิงหาคม พ.ศ. 2548 ทรงร่วมงานพระบรมศพของ

สมเด็จพระราชาธิบดีฟะฮัด บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด

26 - 27 ตุลาคม พ.ศ. 2554 ทรงร่วมงานพระศพสุลต่าน บิน อับดุลอะซิซ

มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย

20 - 21 มิถุนายน พ.ศ. 2555 ทรงร่วมงานพระศพนาเยฟ บิน อับดุลอะซิซ

มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย

25 - 26 มกราคม พ.ศ. 2558 ทรงร่วมงานพระบรมศพของ

สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลอฮ์ บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด

 โอมาน 5 - 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2537 เสด็จเยือนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มกุฎราชกุมารีมาซาโกะ
 กาตาร์
 บาห์เรน
 คูเวต 20 - 28 มกราคม พ.ศ. 2538 เสด็จเยือนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มกุฎราชกุมารีมาซาโกะ
 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
 จอร์แดน 20 - 28 มกราคม พ.ศ. 2538 เสด็จเยือนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มกุฎราชกุมารีมาซาโกะ
8 - 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542 ทรงร่วมงานพระบรมศพของ

สมเด็จพระราชาธิบดีฮุซัยน์แห่งจอร์แดน

มกุฎราชกุมารีมาซาโกะ
 เนเธอร์แลนด์ 30 มกราคม - 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545 ทรงร่วมงานอภิเษกสมรสของ

เจ้าชายวิลเลิม-อเล็กซานเดอร์ เจ้าชายแห่งออเรนจ์

28 เมษายน - 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 ทรงร่วมงานบรมราชาภิเษกของ

สมเด็จพระราชาธิบดีวิลเลิม-อเล็กซานเดอร์แห่งเนเธอร์แลนด์

มกุฎราชกุมารีมาซาโกะ
17 - 31 สิงหาคม พ.ศ. 2549 เสด็จเป็นการส่วนพระองค์ตามคำเชิญของ

สมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์แห่งเนเธอร์แลนด์

มกุฎราชกุมารีมาซาโกะ

เจ้าหญิงไอโกะ

 นิวซีแลนด์ 11 - 19 ธันวาคม พ.ศ. 2545 เสด็จเยือนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มกุฎราชกุมารีมาซาโกะ
 เดนมาร์ก 12 - 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2547 ทรงร่วมงานอภิเษกสมรสของ

เจ้าชายเฟรเดอริก มกุฎราชกุมารแห่งเดนมาร์ก

15 - 21 มิถุนายน พ.ศ. 2560 ทรงร่วมงานครบรอบ 150 ปีความสัมพันธ์ทางการทูต
 โปรตุเกส 12 - 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2547 เสด็จเยือนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
 บรูไน 8 - 11 กันยายน พ.ศ. 2547 ทรงร่วมงานอภิเษกสมรสของ

เจ้าชายอัลมุห์ตาดี บิลละห์ มกุฎราชกุมารแห่งบรูไน

Flag of Tonga ตองงา 18 - 20 กันยายน พ.ศ. 2549 ทรงร่วมงานพระบรมศพของ

สมเด็จพระราชาธิบดีเตาฟาอาเฮา ตูโปอูที่ 4 แห่งตองงา

30 กรกฎาคม - 3 สิงหาคม พ.ศ. 2551 ทรงร่วมงานบรมราชาภิเษกของ

สมเด็จพระราชาธิบดีจอร์จ ตูโปอูที่ 5

2 - 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ทรงร่วมงานบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระราชาธิบดีตูโปอูที่ 6 มกุฎราชกุมารีมาซาโกะ
 มองโกเลีย 10 - 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 เสด็จเยือนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
 เวียดนาม 9 - 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 เสด็จเยือนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
 ตุรกี 14 - 20 มีนาคม พ.ศ. 2552 ทรงร่วมงานการประชุม World Water Forum ครั้งที่ 5
 เคนยา 6 - 15 มีนาคม พ.ศ. 2553 เสด็จเยือนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
 กานา
 สวีเดน 17 - 21 มิถุนายน พ.ศ. 2553 ทรงร่วมงานอภิเษกสมรสของ

เจ้าหญิงวิกตอเรีย มกุฎราชกุมารีแห่งสวีเดน

 เยอรมนี 17 - 25 มิถุนายน พ.ศ. 2554 เสด็จเยือนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
 ไทย 25 มิถุนายน - 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 เสด็จเยือนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
 กัมพูชา
 ลาว
 ลักเซมเบิร์ก 18 - 21 ตุลาคม พ.ศ. 2555 ทรงร่วมงานอภิเษกสมรสของ

เจ้าชายกีโยม แกรนด์ดยุกรัชทายาทแห่งลักเซมเบิร์ก

 สหรัฐ 5 - 8 มีนาคม พ.ศ. 2556 ทรงร่วมการประชุมพิเศษเกี่ยวกับน้ำและภัยพิบัติ
17 - 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 ทรงร่วมการประชุมพิเศษเกี่ยวกับน้ำและภัยพิบัติ
 แอฟริกาใต้ 9 - 11 ธันวาคม พ.ศ. 2556 ทรงร่วมงานพิธีรำลึกอดีตประธานาธิบดีเนลสัน แมนเดลา
  สวิตเซอร์แลนด์ 17 - 23 มิถุนายน พ.ศ. 2557 ทรงร่วมงานครบรอบ 150 ปีความสัมพันธ์ทางการทูต
 มาเลเซีย 13 - 17 เมษายน พ.ศ. 2560 ทรงร่วมงานครบรอบ 60 ปีความสัมพันธ์ทางการทูต
 ฝรั่งเศส 7 - 15 กันยายน พ.ศ. 2561 ทรงร่วมงานครบรอบ 160 ปีความสัมพันธ์ทางการทูต
ภายหลังการขึ้นครองราชย์
 สหราชอาณาจักร 17 - 20 กันยายน พ.ศ. 2565 ทรงร่วมงานพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 สมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ
22 - 29 มิถุนายน พ.ศ. 2567 เสด็จเยือนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ
 อินโดนีเซีย 17 - 23 มิภุนายน พ.ศ. 2566 เสด็จเยือนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ
 มองโกเลีย 13 - 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เสด็จเยือนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ[135] สมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ

การต้อนรับประมุขจากต่างประเทศ

[แก้]
งานเลี้ยงต้อนรับประธานาธิบดีดอนัลด์ ทรัมป์ พ.ศ. 2562

หลังจากที่ทรงขึ้นครองราชย์ พระองค์ได้ต้อนรับการมาเยือนประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการของประมุขจากต่างประเทศในฐานะแขกของรัฐ (国賓)[136] ดังนี้

เสด็จเยือนอินโดนีเซีย เมื่อ พ.ศ. 2566

ตำแหน่งในองค์กร

[แก้]
  • พ.ศ. 2532 - 2562 รองประธานกิตติมศักดิ์ สภากาชาดญี่ปุ่น (日本赤十字社)[139]
  • พ.ศ. 2532 - 2533 ประธานกิตติมศักดิ์ งานมหกรรมพืชสวนโลก 1990[140]
  • พ.ศ. 2544 ประธานกิตติมศักดิ์ งาน Japan 2001[141]
  • พ.ศ. 2546 ประธานกิตติมศักดิ์ การประชุม World Water Forum ครั้งที่ 3[102]
  • พ.ศ. 2548 ประธานกิตติมศักดิ์ งานนิทรรศการโลก (World Expo Aichi 2005)[142]
  • พ.ศ. 2548 - 2549 ประธานกิตติมศักดิ์ งานเยอรมนีในญี่ปุ่น (日本におけるドイツ)[143]
  • พ.ศ. 2550 - 2558 ประธานกิตติมศักดิ์ คณะกรรมการที่ปรึกษาของสหประชาชาติว่าด้วยน้ำและสุขาภิบาล (UN Secretary-General's Advisory Board on Water and Sanitation)[101]
  • พ.ศ. 2550 ประธานกิตติมศักดิ์ การแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติ (WorldSkills) ปี 2007[144]
  • พ.ศ. 2551 ประธานกิตติมศักดิ์ งานการแลกเปลี่ยนญี่ปุ่น-บราซิล[145]
  • พ.ศ. 2552 - 2553 ประธานกิตติมศักดิ์ งานครบรอบ 400 ปี การแลกเปลี่ยนญี่ปุ่น-เม็กซิโก[146]
  • พ.ศ. 2553 - 2554 ประธานกิตติมศักดิ์ งานครบรอบ 400 ปี การแลกเปลี่ยนญี่ปุ่น-เยอรมนี[147]
  • พ.ศ. 2556 - 2557 ประธานกิตติมศักดิ์ งานครบรอบ 400 ปี การแลกเปลี่ยนญี่ปุ่น-สเปน[148]
  • พ.ศ. 2557 ประธานกิตติมศักดิ์ฝ่ายญี่ปุ่น งานครบรอบ 150 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตญี่ปุ่น-สวิตเซอร์แลนด์[149]
  • พ.ศ. 2560 ประธานกิตติมศักดิ์ฝ่ายญี่ปุ่น งานครบรอบ 150 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตญี่ปุ่น-เดนมาร์ก[150]
  • พ.ศ. 2562 - 2564 ประธานกิตติมศักดิ์ คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกแห่งโตเกียว[151]

ตำแหน่งทางวิชาการ

[แก้]
  • พ.ศ. 2535 นักวิจัยรับเชิญ หอจดหมายเหตุ มหาวิทยากากูชูอิน (学習院大学)[152]

พระราชนิพนธ์

[แก้]
  • พ.ศ. 2536 "テムズとともに" (ในสายน้ำเทมส์) เป็นหนังสือที่บันทึกประสบการณ์การศึกษาที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของพระองค์ตลอดระยะเวลา 2 ปี 4 เดือน และมีการตีพิมพ์อีกครั้งในปี พ.ศ. 2566 ISBN 978-4314012003
  • พ.ศ. 2562 "水運史から世界の水へ" (จากประวัติศาสตร์การเดินเรือสู่โลกแห่งน้ำ) ISBN 978-4140817728

พระเกียรติยศ

[แก้]
ธรรมเนียมพระยศของ
สมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ
ธงประจำพระอิสริยยศ
สัญลักษณ์ต้นอาซูซะ (梓)
คำยกย่องเฮกะ (陛下)
ลำดับโปเจียม1

ลำดับพระราชอิสริยยศ

[แก้]
  • 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2503 – 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 : เจ้าชายนารูฮิโตะ (徳仁親王) หรือ เจ้าชายฮิโระ (ญี่ปุ่น: 浩宮; อังกฤษ: Prince Hiro)
  • 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 – 30 เมษายน พ.ศ. 2562 : มกุฎราชกุมารนารูฮิโตะ (ญี่ปุ่น: 皇太子; อังกฤษ: Crown Prince Naruhito)
  • 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 – ปัจจุบัน : สมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ (ญี่ปุ่น: 天皇; อังกฤษ: His Majesty the Emperor)

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

[แก้]

ญี่ปุ่น

[แก้]

ต่างประเทศ

[แก้]
ประเทศปีที่ได้รับ (พ.ศ)เครื่องอิสริยาภรณ์แพรแถบ
 เบลเยียม เครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งพระเจ้าเลโอโปลด์ ชั้นประถมาภรณ์
 เยอรมนี เครื่องอิสริยาภรณ์คุณธรรมแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ชั้นประถมาภรณ์
 บาห์เรน Order of Sheikh Isa bin Salman Al Khalifa Order of Sheikh Isa ibn Salman Al Khalifa
 กรีซ Order of the Redeemer ชั้น Grand Cross GRE Order Redeemer 1Class
 ฮังการี Hungarian Order of Merit ชั้น Grand Cross HUN Order of Merit of the Hungarian Rep (civil) 1class BAR
 ลักเซมเบิร์ก Order of the Gold Lion of the House of Nassau Order of the Golden Lion of Nassau Ribbon bar
 มาเลเซีย Order of the Crown of the Realm MY Darjah Utama Seri Mahkota Negara (Crown of the Realm) - DMN
 กาตาร์ Order of Merit of the State of Qatar QAT Order of Merit of the State of Qatar ribbon
 จอร์แดน Supreme Order of the Renaissance ชั้น Grand Cordon JOR Order of the Renaissance GC
 อิตาลี 2525 เครื่องอิสริยาภรณ์คุณธรรมแห่งสาธารณรัฐอิตาลี ชั้นประถมาภรณ์[153] Cordone di gran Croce OMRI BAR
 เนเธอร์แลนด์ 2534 Order of the Crown (Netherlands) ชั้น Honorary Cross[154] Order of the Crown (Netherlands)
 โปรตุเกส 2536 เครื่องเสนาอิสริยาภรณ์แห่งพระคริสต์ ชั้นมหาปรมาภรณ์[155] PRT Order of Christ - Grand Collar BAR
 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2538 Order of Zayed[156] Ribbon bar of the Order of Zayed
 ออสเตรีย2542เครื่องอิสริยาภรณ์กิตติคุณแห่งสาธารณรัฐออสเตรีย ชั้นมหาอิสริยาภรณ์ทอง พร้อมสายสะพาย[157]
 นอร์เวย์ 2544 เครื่องราชอิสริยาภรณ์นักบุญโอลาฟ ชั้นประถมาภรณ์ St Olavs Orden storkors stripe
 ฟิลิปปินส์ 2545 เครื่องอิสริยาภรณ์ซิกาตูนา ชั้นสายสร้อย[158]
 เดนมาร์ก 2547 เครื่องราชอิสริยาภรณ์ช้าง ชั้นอัศวิน
 สวีเดน 2550 เครื่องราชอิสริยาภรณ์เซราฟีม[159] Seraphimerorden ribbon
 สเปน 2551 Order of Charles III ชั้น Grand Cross[160] ESP Charles III Order GC
Flag of Tonga ตองงา 2551 Order of the Crown of Tonga ชั้น Knight Grand Cross[161] TON Order of the Crown of Tonga ribbon
เหรียญพิธีบรมราชาภิเษกสมเด็จพระราชาธิบดีจอร์จ ตูโปอูที่ 5[162][163]
 สหราชอาณาจักร 2567 เครื่องราชอิสริยาภรณ์การ์เทอร์ ชั้นสูงสุด[164]
 บราซิล 2568 เครื่องอิสริยาภรณ์ดาวกางเขนใต้ ชั้นสายสร้อย[165] BRA - Order of the Southern Cross - Grand Cross BAR

ปริญญากิตติมศักดิ์

[แก้]

เกร็ด

[แก้]

การประสูติ

[แก้]
  • พระองค์ประสูติก่อนกำหนด 1 สัปดาห์ จากเดิมที่มีกำหนดประสูติในวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2503 จึงสร้างความตื่นตระหนกให้กับสื่อมวลชนเป็นอย่างมากกับการประสูติอย่างกระทันหันของพระองค์[167]
  • เนื่องด้วยพระองค์ทรงเป็นพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์แรกที่ประสูติในโรงพยาบาล และมีแนวโน้มอาจจะเป็นว่าที่จักรพรรดิในอนาคต ก่อนการประสูติของพระองค์นั้น ได้เกิดการแย่งชิงบทบาทการเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการประสูติเกิดขึ้น ระหว่างทีมสำนักพระราชวัง (ที่เคยดูแลการประสูติของพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์ก่อนๆ), ทีมแพทย์ของโรงพยาบาลสำนักพระราชวังหลวง (แพทย์เจ้าของสถานที่), และทีมแพทย์ของมหาวิทยาลัยโตเกียว (แพทย์ที่ได้รับมอบหมายมาอีกที) ผลคือในห้องประสูติของพระองค์เต็มไปด้วยผู้เฝ้าสังเกตมากมาย[5]

วัยพระเยาว์

[แก้]
  • ในช่วงที่พระองค์อยู่ในวัยทารก ทรงเป็นเด็กที่ไม่ค่อยร้องไห้[13]
  • เนื่องจากพระชนกกับพระชนนีต้องเสด็จเยือนสหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 14 วัน โดยในขณะนั้นพระองค์มีพระชนมายุเพียง 7 เดือน พระชนนีจึงทรงจัดทำคู่มือการเลี้ยงดูพระองค์ให้กับพระพี่เลี้ยง ซึ่งคู่มือนี้ถูกเรียกว่า "กฎของนารุจัง" (ナルちゃん憲法) ในภายหลัง[12]
  • "กฎของนารุจัง" (ナルちゃん憲法) มีการบันทึกประมาณว่า ให้กอดพระองค์อย่างน้อยวันละครั้ง เพื่อแสดงความรัก, กลยุทธ์การให้พระองค์เสวยนม เนื่องจากพระองค์ไม่ทรงโปรด, ปล่อยให้เล่นพระองค์เดียวบ้าง เพื่อไม่ให้พระองค์รู้สึกว่ามีคนคอยเอาใจอยู่ตลอดเวลา, ต้องมีการดุพระองค์บ้าง[12]
  • ทรงมีพระพี่เลี้ยงชื่อ ฮามาโอะ มิโนรุ (浜尾実) ซึ่งคอยเลี้ยงดูพระองค์เป็นเวลา 10 ปี ในเวลาที่พระชนกและพระชนนีไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจ โดยพระองค์เรียกเธอว่า "โอจัง" ซึ่งพระองค์ทรงใช้เวลาในวัยพระเยาว์อยู่กับเธอมากกว่าพระชนกกับพระชนนี[16]
  • ฮามาโอะ มิโนรุ พระพี่เลี้ยง กล่าวว่าบางครั้งเธอมีความกังวลถึงพฤติกรรมบางอย่างที่พระองค์ทรงเลียนแบบจากเธอ เช่น จังหวะการพูดที่ค่อนข้างช้า เพราะเธอต้องการออกเสียงให้ชัด[16]
  • ในวัยพระเยาว์ ทรงเรียกพระชนกและพระชนนี ว่า "ปาปา" และ "มามา" แต่เมื่อทรงเจริญพระชัณษามากขึ้น ก็ทรงเรียกพระชนกว่า "โอโมซามะ" (おもうさま) และพระชนนีว่า "โอตาตาซามะ" (おたたさま) ตามธรรมเนียมราชวงศ์[16]
  • พระองค์ทรงมีอุปนิสัยอดทนและพยายาม เช่น ขณะที่ทรงหัดขี่จักรยาน แม้จะทรงหกล้มจนมีน้ำพระเนตรไหล ก็ทรงลุกขึ้นและพยุงจักรยานด้วยพระองค์เอง[168]
  • เมื่อพระชนมายุ 4 ชัณษา พระองค์เคยตรัสถามว่าทำไมพระองค์ไม่มีนามสกุล[168]
  • เมื่อพระชนมายุ 7 ชัณษา ทรงเคยได้รับการอบรมว่าเด็กผู้ชายไม่ควรร้องไห้ แต่พอพระองค์เห็นเจ้าชายอายะ (ฟูมิฮิโตะ) พระอนุชา ที่เพิ่งประสูติร้องไห้ พระองค์ก็ทรงปกป้องพระอนุชาว่า "อายะยังเด็กอยู่ ก็เลยร้องไห้ได้เนอะ" (アーヤは赤ちゃんだから泣いてもいいんだよね)[168]

ช่วงประถมศึกษาและมัธยมศึกษา

[แก้]
  • พระองค์ทรงฉลองเครื่องแบบนักเรียนประถมศึกษาที่ตกทอดมาจากพระชนก เนื่องจากแนวคิดของราชวงศ์คือการใช้ของดีมีคุณภาพ และถนอมให้ใช้งานให้ได้นานที่สุด จึงทำให้เครื่องแบบยังถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี และเป็นพระประสงค์ของพระชนนีที่ต้องการถ่ายทอดสิ่งนี้ไปยังพระโอรส[21]
  • ทรงเคยชวนพระสหายมาเล่นที่พระตำหนัก แล้วพระสหายเล่นกันในสวนจนตัวเปียก พระองค์จึงให้พระสหายเปลี่ยนชุดที่พระตำหนัก พอมารดาของพระสหายมารับ พระองค์ก็ทรงขอโทษต่อมารดาของพระสหายว่า ไม่น่าให้พวกเขาเล่นแบบนั้นเลย[169]
  • ในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน พ.ศ. 2514 ทรงเข้าร่วมการทัศนศึกษาของโรงเรียนประถมศึกษากากูชูอิน (学習院初等科) ซึ่งเกิดเหตุการณ์ที่นักเรียนมีอาการอาหารเป็นพิษ ซึ่งรวมถึงพระองค์ด้วย สาเหตุเป็นเพราะความสะเพร่าในการจัดทำอาหาร[16]
  • พระองค์ทรงศึกษาวิชาทางด้านการปกครอง, คัมภีร์จีนโบราณ, วรรณกรรมราชสำนักโบราณ, รวมถึงการแต่งกวีวากะ โดยมีการเชิญผู้เชี่ยวชาญมาเป็นพระอาจารย์สอนในพระตำหนักโทงูมาตั้งแต่สมัยพระเยาว์ เพื่อเตรียมพระองค์ในการเป็นจักรพรรดิในอนาคต[7] จึงทำให้พระองค์สามารถแต่งกวีวากะได้ตั้งแต่ที่พระองค์ยังทรงศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษา ซึ่งเป็นกรณีที่หาได้ยากในบุคคลทั่วไป[170]
  • ในช่วงที่พระองค์ยังทรงศึกษาอยู่โรงเรียนมัธยมชายกากูชูอิน (学習院中・高等科) ทรงมีชื่อเล่นว่า "จี" ซึ่งย่อมากจากคำว่า "โอจีซัง" (おじいさん) ที่แปลว่า ปู่หรือตา โดยที่มาคือ พระองค์เคยตรัสชมต้นบอนไซที่อยู่ในโรงเรียนว่า "กิ่งก้านสวยงามมากเลยนะ" แต่พระสหายกลับแซวพระองค์ว่าทรงชอบอะไรเหมือนคนสูงอายุ เลยพากันเรียกพระองค์ว่า "จี" เป็นต้นมา ซึ่งพระองค์ก็ทรงชอบชื่อเล่นนี้ ถึงกับใช้ชื่อนี้ในการแนะนำพระองค์กับพระสหายต่างชาติ[170]

ช่วงมหาวิทยาลัย

[แก้]

มหาวิทยากากูชูอิน

[แก้]
  • สาเหตุที่ทรงเลือกเรียนสาขาประวัติศาสตร์ มหาวิทยากากูชูอิน (学習院大学) เนื่องจากในวัยพระเยาว์ ทรงค้นพบศิลาจารึกในเขตพระราชฐานอากาซากะ (赤坂御用地) ขณะที่ทรงเดินเล่นกับพระบรมราชชนนี รวมทั้งทรงสนพระทัยใน "ถนน" ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถเชื่อมโยงไปยังโลกภายนอกที่พระองค์ไม่รู้จักได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สถานะของพระองค์ที่ทรงไม่สามารถออกไปยังโลกภายนอกได้โดยง่าย[171]
  • ทรงมักจะเสวยข้าวแกงกะหรี่ที่โรงอาหารมหาวิทยากากูชูอิน (学習院大学) เมื่อเสวยเสร็จพระองค์จะทรงล้างจานอย่างพิถีพิถัน ต่างกับนักศึกษาคนอื่นที่ล้างอย่างลวกๆ[169]
  • เวลาใช้ลิฟต์ในมหาวิทยากากูชูอิน (学習院大学) พระองค์มักจะทรงกดลิฟต์ให้ และเชิญให้คนอื่นเข้า-ออกลิฟต์ก่อน[169]

สหราชอาณาจักร

[แก้]
  • ช่วงที่พระองค์เสด็จไปแรกๆ พระองค์เต็มไปด้วยความกังวลและความกลัว ทั้งการสั่งเบียร์ในผับอังกฤษครั้งแรก, การเข้าร่วมวงบทสนทนากับคนอื่น[172]
  • ในช่วงเวลานั้น ทรงทำกิจกรรมหลากหลายอย่าง เช่น ทรงเข้าร่วมการฝึกซ้อมของชมรมเรือพายของวิทยาลัย, ทรงเข้าร่วมการแข่งขันเทนนิสระหว่างวิทยาลัย ในฐานะตัวแทนของวิทยาลัยเมอร์ตัน, และทรงปีนยอดเขาสูงสุดของอังกฤษ, สกอตแลนด์, และเวลส์[172]
  • ทรงไปเที่ยวดิสโกกับพระสหาย แต่ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้า เนื่องจากคืนนั้นไม่อนุญาตให้ลูกค้าสวมเสื้อยืดและกางเกงยีนส์ ซึ่งพระองค์ทรงสวมกางเกงยีนส์ ส่วนพระสหายสวมเสื้อยืด[35]
  • มีคนกล่าวถึงพระองค์ว่า "พระองค์เป็นชายหนุ่มที่ค่องข้างขี้อายแต่น่าคบหา ในตอนแรกอาจจะดูเข้าถึงยาก แต่เมื่อได้คุยแล้วจะรู้สึกผ่อนคลายมาก"[173]

ครอบครัว

[แก้]

งานอดิเรก

[แก้]

ดนตรี

[แก้]
  • ทรงเริ่มสนใจทางด้านดนตรีตั้งแต่พระชนมายุ 4 - 5 พรรษา เนื่องจากพระองค์ทรงเห็นพระชนกเล่นเชลโล และทรงอยากเล่นตาม แต่เชลโลมีขนาดใหญ่เกินไปสำหรับเด็ก พระองค์จึงเริ่มหัดเล่นไวโอลินก่อน[175][169]
  • เมื่อพระชนมายุ 16 ชัณษา ทรงเริ่มหัดเล่นวิโอลา โดยมีนายโนริอากิ ฮามาดะ (濱田徳昭) เป็นพระอาจารย์[175]
  • ทรงอยู่ชมรมดนตรีของมหาวิทยาลัยกากูชูอิน (学習院大学) โดยมีนายสึตสึมิ ชุนซากุ (堤俊作) เป็นพระอาจารย์สอนเล่นวิโอลา[176]
  • พ.ศ. 2523 พระองค์ทรงร่วมการแสดงในฐานะผู้นำเล่นวิโอลา ในการแสดงของวง Bach Collegium Japan ร่วมกับสมาพันธ์ออราทอริโอแห่งประเทศญี่ปุ่น (日本オラトリオ連盟の演奏会) ณ โตเกียวบุงกาไคคังฮอลล์ (東京文化会館) เขตอูเอโนะ กรุงโตเกียว[177]
  • ในช่วงที่พระองค์ศึกษาอยู่ที่สหราชอาณาจักร พระองค์กับพระสหายได้จัดตั้งวงดนตรีเครื่องสาย 4 ชิ้น หรือที่เรียกว่าวงควอเต็ด (Quartet) ซึ่งประกอบไปด้วย 2 ไวโอลิน, 1 วิโอลา, และ 1 เชลโล[177]
  • นายสึตสึมิ ชุนซากุ ได้ก่อตั้งวงออร์เคสตราชุนยูไก (俊友会) ซึ่งเขามีตำแหน่งเป็นวาทยากร ส่วนพระองค์ทรงดำรงตำแหน่งสมาชิกกิตติมศักดิ์ของวงนี้ โดยพระองค์ทรงเข้าร่วมการแสดงของวงออร์เคสตราชุนยูไกเป็นครั้งแรก ในคอนเสิร์ตครั้งที่ 5 ของวง ในปี พ.ศ. 2530 และทรงเข้าร่วมการแสดงอยู่เรื่อย ๆ[176]
  • วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ทรงร่วมเล่นวิโอลาในคอนเสิร์ตการกุศลของวงออร์เคสตราศิษย์เก่ามหาวิทยากากูชูอิน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว[126]
  • วันที่ 13 - 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ทรงเยือนประเทศมองโกเลีย และทรงได้ร่วมเล่นวิโอลาในงานเลี้ยงต้อนรับ[178]

ปีนเขา

[แก้]
  • เมื่อพระชนมายุ 5 พรรษา ทรงปีนเขาครั้งแรก ณ ภูเขาฮานาเร เมืองคารูอิซาวะ จังหวัดนางาโนะ ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2508[179]
  • เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2531 พระองค์ทรงพยายามพิชิตยอดภูเขาฟูจิเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น แต่เนื่องด้วยสภาพอากาศที่ย่ำแย่ พระองค์จึงไม่สามารถพิชิตยอดภูเขาได้ในตอนนั้น โดยพระองค์ทรงปีนไปได้ถึงชั้นที่ 8 จากทั้งหมด 10 ชั้น ซึ่งในอีก 20 ปีถัดมา พระองค์ทรงกลับมาพิชิตยอดภูเขาฟูจิได้สำเร็จ ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2551[179]
  • พ.ศ. 2536 หลังการอภิเษกสมรส พระองค์ทรงชวนพระชายา (พระยศในขณะนั้น) ปี นเขาเป็นครั้งแรก ที่ภูเขาทาคามิซูซัง เมืองโอเมะ กรุงโตเกียว หลังจากนั้นพระองค์กับพระชายาก็ทรงไปปีนเขาด้วยกันหลากหลายที่ ซึ่งครั้งหนึ่งพระองค์เคยมีพระดำรัสกับนักปีนเขาว่า "ผมไม่ได้ชอบการปีนเขา แต่ผมสนุกกับการปีนเขาก็เพราะได้ปีนกับมาซาโกะต่างหากครับ"[180]
  • ทรงปีนเขามามากกว่า 170 แห่งตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมา[179]

อื่นๆ

[แก้]
  • ทรงเล่นสเก็ตน้ำแข็งมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์[181]
  • ทรงโปรดการวิ่งจ็อกกิง เมื่อครั้งที่พระองค์ดำรงอิสริยยศมกุฎราชกุมาร พระองค์จะทรงวิ่งรอบเขตพระราชฐานอากาซากะ (赤坂御用地) เขตโมโตะ-อากาซากะ กรุงโตเกียว ครั้งละ 2 - 3 รอบ โดยระยะทางโดยรวมที่พระองค์ทรงวิ่งอยู่ที่ประมาณ 70 - 100 กิโลเมตรต่อเดือน[182]

ความชอบส่วนพระองค์

[แก้]

เพลง

[แก้]
  • ทรงเป็นแฟนคลับของโยชิเอะ คาชิวาบาระ (柏原芳恵) นักร้องไอดอลชื่อดังในช่วงทศวรรษ 2520 ซึ่งพระองค์ได้เสด็จเข้าร่วมชมคอนเสิร์ตของเธอในปี พ.ศ. 2529 โดยเธอได้มอบหนังสือภาพพร้อมลายเซ็นและแผ่นเสียงให้กับพระองค์เป็นของที่ระลึก ส่วนพระองค์มอบดอกกุหลาบพันธุ์เจ้าหญิงซายาโกะให้กับเธอ ซึ่งการเสด็จไปทอดพระเนตรคอนเสิร์ตครั้งนี้ของพระองค์ได้เกิดเป็นข่าวดังหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์หลายฉบับ[183]
  • ทรงโปรดเพลงของซายูริ อิชิกาวะ (石川さゆり) นักร้องเพลงแนวเอ็งกะ และเพลงของวง Southern All Stars (サザンオールスターズ)[184]
  • เพลง "ฮิซาเมะ" (氷雨) ของอากิโอ คายามะ (佳山明生) เป็นเพลงโปรดในคาราโอเกะของพระองค์[169]

ภาพยนตร์

[แก้]

เบสบอล

[แก้]
  • สมัยประถมศึกษา ทรงโปรดเบสบอลทีมโยมีอูริไจแอนท์ (読売ジャイアンツ) ซึ่งพระองค์ทรงเคยฉลองพระองค์ชุดของทีมนี้ ขณะที่ทรงเล่นเบสบอลที่พระตำหนักโทงูอีกด้วย[185]
  • ผู้เล่นที่ทรงโปรดในทีมโยมีอูริไจแอนท์ คือ ชิเกโอะ นางาชิมะ (長嶋茂雄) และโทชิมิตสึ ซูเอตสึงุ (末次利光)[185]
  • เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2531 พระองค์ทรงได้ขว้างลูกเปิดสนาม ในการแข่งขันเบสบอลชิงแชมป์ระดับมัธยมปลาย ครั้งที่ 70[186]

การขึ้นครองราชย์

[แก้]
  • ทรงเป็นจักรพรรดิที่ขึ้นครองราชย์โดยมีพระชนมายุมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ราชวงศ์ญี่ปุ่น (59 พรรษา) โดยอันดับที่ 1 คือจักรพรรดิโคนิง ที่ทรงขึ้นครองราชย์เมื่อพระชนมายุ 61 พรรษา[187]
  • กระทรวงการคลังมีการออกเหรียญที่ระลึกเนื่องในวโรกาสการขึ้นครองราชสมบัติของสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ เป็นเหรียญ 10,000 เยน และ 500 เยน[188][189]

พระพลานามัย

[แก้]
  • วันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2550 ทรงตรวจพบติ่งเนื้อในลำไส้เล็กส่วนต้นระหว่างการตรวจพระสุขภาพประจำปี โดยพระองค์เข้ารับการผ่าตัดในวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2550 และทรงพักฟื้นหลังการผ่าตัด 1 สัปดาห์[190]
  • วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ทรงเข้ารับการการเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อต่อมลูกหมากเพื่อเข้าทำการตรวจ เนื่องจากก่อนหน้านี้พระองค์มีภาวะที่ค่อนข้างน่ากังวลเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก อย่างไรก็ตามผลการตรวจคือไม่พบความผิดปกติใดๆ[191]

ราชตระกูล

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1 2 3 "天皇皇后両陛下". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-19. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ ":0" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน
  2. 1 2 3 4 5 6 7 8 "Their Majesties the Emperor and Empress". The Imperial Household Agency (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2025-07-19.
  3. "皇居". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-19.
  4. https://www.youtube.com/watch?v=haPxvJP9jmM
  5. 1 2 3 https://dot.asahi.com/articles/-/102465?page=1
  6. 1 2 https://www.dailyshincho.jp/article/2022/02230700/?all=1&page=2
  7. 1 2 https://dot.asahi.com/articles/-/118721?page=2
  8. "JAPAN: YOUNG PRINCE HIRO COMES OF AGE IN ANCIENT ROYAL CEREMONY". British Pathé (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2025-07-31.
  9. "Japan-Britain Ties: Emperor Naruhito's Student Days at Oxford". nippon.com (ภาษาอังกฤษ). 2023-05-02. สืบค้นเมื่อ 2025-07-31.
  10. 1 2 3 4 "e-Gov 法令検索". laws.e-gov.go.jp. สืบค้นเมื่อ 2025-07-19.
  11. https://www.dailyshincho.jp/article/2022/02230700/?all=1&page=3
  12. 1 2 3 "美智子さまの子育て「ナルちゃん憲法」とは 天皇陛下の幼き日々でふり返る(画像集)". ハフポスト (ภาษาญี่ปุ่น). 2019-06-16. สืบค้นเมื่อ 2025-07-19.
  13. 1 2 https://www.dailyshincho.jp/article/2022/02230700/?all=1&page=4
  14. https://www.dailyshincho.jp/article/2022/02230700/?all=1&page=5
  15. https://www2.nhk.or.jp/archives/movies/?id=D0009170044_00000
  16. 1 2 3 4 5 "天皇陛下の幼少期にご養育掛りをつとめた浜尾実さんの回想「浩宮さまの幼稚園ご入園までの日々」". PHPオンライン (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-19.
  17. https://www.youtube.com/watch?v=QEyIQbTJ4ns
  18. https://www2.nhk.or.jp/archives/movies/?id=D0009170048_00000
  19. "浩宮さまおめでとう". 中日映画社. สืบค้นเมื่อ 2025-07-20.
  20. https://www2.nhk.or.jp/archives/kaisou/detail/?das_id=D0009170049_00000&category=koushitsu&year=1960
  21. 1 2 "美智子さまの決意!天皇陛下「学習院初等科の通学」は「お下がり制服」で". Aneひめ.net|講談社. สืบค้นเมื่อ 2025-07-20.
  22. https://imagelink.kyodonews.jp/search?product_type=1,2,11&keyword=%E5%AD%A6%E7%BF%92%E9%99%A2%E5%88%9D%E7%AD%89%E7%A7%91&opendetail=22124951
  23. https://www2.nhk.or.jp/archives/movies/?id=D0009170065_00000
  24. "【 画像37/75枚 】【写真まとめ】天皇陛下63歳への歩み 英国留学、雅子さまと結婚:朝日新聞デジタル". www.asahi.com. สืบค้นเมื่อ 2025-07-20.
  25. "天皇陛下14歳 エアーズロックで"ビール"を飲む【秘蔵写真】". 女性自身 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-20.
  26. https://imagelink.kyodonews.jp/search?product_type=1,2,11&keyword=%E6%B5%A9%E5%AE%AE%E3%81%95%E3%81%BE%20%E5%AD%A6%E7%BF%92%E9%99%A2%20&pg=1&opendetail=22641663
  27. "【 画像39/75枚 】【写真まとめ】天皇陛下63歳への歩み 英国留学、雅子さまと結婚:朝日新聞デジタル". www.asahi.com. สืบค้นเมื่อ 2025-07-20.
  28. https://imagelink.kyodonews.jp/search?product_type=1,2,11&keyword=%E6%B5%A9%E5%AE%AE%E3%81%95%E3%81%BE%20%E5%AD%A6%E7%BF%92%E9%99%A2%20&pg=1&opendetail=24190987
  29. "浩宮様". web.kyoto-inet.or.jp. สืบค้นเมื่อ 2025-07-20.
  30. 1 2 "即位儀式と両陛下の歩み:時事ドットコム". 時事ドットコム (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-20.
  31. "【 画像41/75枚 】【写真まとめ】天皇陛下63歳への歩み 英国留学、雅子さまと結婚:朝日新聞デジタル". www.asahi.com. สืบค้นเมื่อ 2025-07-20.
  32. https://www2.nhk.or.jp/archives/movies/?id=D0009030639_00000
  33. "【天皇誕生日】天皇陛下の歩みを写真10枚で振り返る。幼稚園の遠足、海外でのサングラス姿も". ハフポスト (ภาษาญี่ปุ่น). 2023-02-22. สืบค้นเมื่อ 2025-07-20.
  34. 1 2 "次の天皇はどんな方?:皇太子さまの横顔". nippon.com (ภาษาญี่ปุ่น). 2018-04-30. สืบค้นเมื่อ 2025-07-28.
  35. 1 2 3 https://bunshun.jp/articles/-/63311?page=2
  36. 1 2 OpenLibrary.org. "The Thames as highway by Hironomiya Naruhito Prince, grandson of Hirohito, Emperor of Japan | Open Library". Open Library. สืบค้นเมื่อ 2025-07-31.
  37. 高森明勅 (2023-07-09). "昭和時代に今上陛下が「国事行為」の臨時代行に当たられていた |高森明勅 公式ブログ|天皇、皇室、皇位継承問題". 高森明勅 |高森明勅 公式ブログ|天皇 皇室 皇位継承問題 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-20.
  38. 産経新聞 (2021-09-06). "陛下、赤坂御所を後にされ「寂しさと深い感慨」". 産経新聞:産経ニュース (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-10-29.
  39. "【 画像45/75枚 】【写真まとめ】天皇陛下63歳への歩み 英国留学、雅子さまと結婚:朝日新聞デジタル". www.asahi.com. สืบค้นเมื่อ 2025-07-20.
  40. 1 2 "皇太子同妃両殿下 - 宮内庁". www.kunaicho.go.jp (ภาษาญี่ปุ่น). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-12-24. สืบค้นเมื่อ 2025-07-19.
  41. 1 2 "Their Imperial Highnesses the Crown Prince and Crown Princess". www.kunaicho.go.jp. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-12-22. สืบค้นเมื่อ 2025-07-19.
  42. "จักรพรรดิญี่ปุ่น : สมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์ใหม่ผู้นำพาญี่ปุ่นสู่อนาคต". BBC News ไทย. สืบค้นเมื่อ 2025-07-19.
  43. "เจ้าชายนารุฮิโตะ มกุฎราชกุมาร เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ญี่ปุ่นแล้ว". THE STANDARD. 2019-05-01. สืบค้นเมื่อ 2025-07-19.
  44. "ญี่ปุ่นเริ่มต้นยุคใหม่ มกุฎราชกุมาร "นารุฮิโตะ" เข้าพิธีสืบราชบัลลังก์". www.thairath.co.th. 2019-05-01. สืบค้นเมื่อ 2025-10-29.
  45. "สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ ผู้นำแห่งญี่ปุ่นยุคใหม่ มุ่งสู่อนาคตของรัชสมัยเรวะ". Bsite (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2025-10-29.
  46. "宮内庁関係年表(慶応3年以後)". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-31.
  47. 1 2 "雅子さま、55歳に 感想発表で皇后となる不安や健康についても". BBCニュース (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-22.
  48. 1 2 https://dot.asahi.com/articles/-/34840?page=2
  49. https://president.jp/articles/-/70744?page=1
  50. 1 2 https://president.jp/articles/-/70744?page=2
  51. 1 2 3 https://president.jp/articles/-/70744?page=3
  52. 1 2 https://dot.asahi.com/articles/-/250364?page=1
  53. https://dot.asahi.com/articles/-/250364?page=2
  54. 1 2 คลิปงานแถลงข่าว https://www.youtube.com/watch?v=04TC_U17nEI
  55. วิดิโอการถ่ายทอดสด https://www.youtube.com/watch?v=13xZGi6Ge1Y
  56. "「仙洞御所」は元「東宮御所」だった建物…同じ建物なのに名前が変わる理由 「仙洞御所」とはどのような場所なのか フジテレビ 皇室担当解説委員 橋本寿史|FNNプライムオンライン". FNNプライムオンライン. 2022-07-06. สืบค้นเมื่อ 2025-10-29.
  57. "宮内庁関係年表(慶応3年以後)". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-10-29.
  58. 1 2 3 4 5 6 "不妊治療に流産も…漫画家も絶句した、雅子妃出産までの「いばらの道」". FRaU | 講談社 (ภาษาญี่ปุ่น). 2019-12-02. สืบค้นเมื่อ 2025-07-23.
  59. https://news.yahoo.co.jp/articles/7733eba7860b92f3697b55879ecfb56da1ceeb37?page=2
  60. https://president.jp/articles/-/70744?page=4
  61. "「人格否定発言」から21年 雅子皇后を悲嘆させた「朝日スクープ」と宮内庁の思惑(デイリー新潮)". Yahoo!ニュース (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-23.
  62. 1 2 https://bunshun.jp/articles/-/67423?page=2
  63. 「文藝春秋」編集部 (2023-12-07). "《宮内庁幹部が告白》「雅子さまは人権侵害を受けてきた」適応障害を発症された本当の理由". 文春オンライン (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-23.
  64. "Crown Prince Naruhito defends ailing wife". Irish Examiner. 2008-07-11. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-05-14. สืบค้นเมื่อ 2021-05-14.
  65. Japan's crown prince seeks public understanding for ailing princes gmanews.tv.
  66. "天皇陛下、生前退位希望を示唆". BBCニュース (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-24.
  67. "なぜ天皇陛下の退位は4月末日になったか 安倍首相との"バトル"の結果は?". PRESIDENT Online(プレジデントオンライン) (ภาษาญี่ปุ่น). 2017-12-11. สืบค้นเมื่อ 2025-07-24.
  68. "สำคัญไฉนรัชสมัยจักรพรรดิญี่ปุ่น". สยามรัฐ. 2019-04-03. สืบค้นเมื่อ 2025-07-24.
  69. 1 2 "e-Gov 法令検索". laws.e-gov.go.jp. สืบค้นเมื่อ 2025-07-24.
  70. วิดิโอพระราชพิธี https://www.youtube.com/watch?v=UaX5IdVx_1c
  71. 1 2 "Naruhito: Japan's emperor proclaims enthronement in ancient ceremony" (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2019-10-22. สืบค้นเมื่อ 2025-07-25.
  72. 1 2 "国民の祝日について - 内閣府". warp.da.ndl.go.jp (ภาษาญี่ปุ่น). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-11-30. สืบค้นเมื่อ 2025-07-25.
  73. "'ดาบคุซานางิ' จากสมบัติของจักรพรรดิญี่ปุ่นสู่เรื่องเล่าในวัฒนธรรมป๊อป". The MATTER (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2019-04-30. สืบค้นเมื่อ 2025-07-25.
  74. วิดิโอพระราชพิธี https://www.youtube.com/watch?v=XuoXpf9ULPE
  75. "【図解・社会】剣璽等承継の儀の配置図(2019年5月):時事ドットコム". 時事ドットコム (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-24.
  76. "片山地方創生担当相 憲政史上初の女性参列者に 剣璽等承継の儀". 毎日新聞 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-25.
  77. "天皇陛下御在位20周年記念 公文書特別展示会 | 26.即位後朝見の儀 | 国立公文書館". www.archives.go.jp. สืบค้นเมื่อ 2025-07-25.
  78. คลิปพระราชพิธี https://www.youtube.com/watch?v=u5A6XXbiB5M
  79. คลิปงานพระราชพิธี https://www.youtube.com/watch?v=9rxMw8-mhAs
  80. https://www3.nhk.or.jp/news/special/japans-emperor6/articles/articles_ceremony_08.html
  81. "立纓(りゅうえい)と垂纓(すいえい)について". 人形の天世 浜松店 よろず話 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-25.
  82. "Addresses by Their Majesties the Emperor and Empress on the occasion of Imperial Succession". The Imperial Household Agency (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2025-07-26.
  83. https://www.mofa.go.jp/mofaj/gaiko/bluebook/2020/html/tokushu1_01.html
  84. https://www3.nhk.or.jp/news/special/japans-emperor6/articles/articles_ceremony_03.html
  85. คลิปงานพระราชพิธี https://www.youtube.com/watch?v=PrPqHrUD3a0
  86. https://www3.nhk.or.jp/news/special/japans-emperor6/articles/articles_ceremony_13.html
  87. คลิปงานพระราชพิธี https://www.youtube.com/watch?v=xiFw4gYETkA
  88. 産経新聞 (2019-12-04). "皇居で「賢所御神楽の儀」 一連の即位関連儀式、終了へ". 産経新聞:産経ニュース (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-26.
  89. คลิปงานพระราชพิธี https://www.youtube.com/watch?v=ObCTYrxYUCc
  90. 産経新聞 (2021-09-20). "天皇ご一家、御所にご移動 一連のお引っ越しが終了". 産経新聞:産経ニュース (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-27.
  91. https://www3.nhk.or.jp/news/html/20250101/k10014683861000.html
  92. "皇居で2年ぶりの新年一般参賀 天皇陛下「安らかでよい年に」". 毎日新聞 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-26.
  93. "講書始". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-26.
  94. "令和6年歌会始の儀 - 宮内庁". www.kunaicho.go.jp. สืบค้นเมื่อ 2025-07-26.
  95. "一般参賀(宮殿)". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-26.
  96. "天皇、皇后両陛下主催の春の園遊会…ちばてつやさんや宇津木妙子さんら招き赤坂御苑で始まる". 読売新聞オンライン (ภาษาญี่ปุ่น). 2025-04-22. สืบค้นเมื่อ 2025-07-26.
  97. "親任式". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-29.
  98. "認証官任命式". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-29.
  99. 1 2 "勲章親授式". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-29.
  100. "信任状捧呈式". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-29.
  101. 1 2 https://www.mlit.go.jp/kisha/kisha07/03/031101_2_.html
  102. 1 2 "第3回世界水フォーラム開会式、国立京都国際会館で開催 皇太子殿下が挨拶 |環境ニュース[国内]|EICネット". eic.or.jp. สืบค้นเมื่อ 2025-07-24.
  103. 1 2 "天皇・皇族の外国ご訪問一覧表(平成11年~平成20年) - 宮内庁". www.kunaicho.go.jp. สืบค้นเมื่อ 2025-07-28.
  104. 1 2 3 "天皇・皇族の外国ご訪問一覧表(平成21年以降) - 宮内庁". www.kunaicho.go.jp. สืบค้นเมื่อ 2025-07-28.
  105. "ご聴講(ストックホルム国際水研究所、在日スウェーデン大使館及び国際連合大学による水セミナー「水:気候変動対策といのち輝く未来社会への鍵」)(国際連合大学(渋谷区))". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-30.
  106. "ご臨席(第43回全国豊かな海づくり大会式典行事)(大分県立総合文化センター(iichiko総合文化センター)(大分市))". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-30.
  107. 産経新聞 (2020-01-25). "両陛下と愛子さま、大相撲ご観戦 令和初の天覧相撲". 産経新聞:産経ニュース (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-27.
  108. "天皇陛下が五輪開会宣言、憲章に規定の「祝う」表現盛り込まれず - 東京オリンピック2020 : 日刊スポーツ". nikkansports.com (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-27.
  109. "THE CONSTITUTION OF JAPAN". www.kantei.go.jp. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-12-14. สืบค้นเมื่อ 2025-07-27.
  110. 産経新聞 (2020-04-06). "陛下ご即位に伴う1億円、寄付先が決定". 産経新聞:産経ニュース (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-27.
  111. "沖縄「豆記者」と皇室の交流は60年 つないだ東京の山本さんの思い:朝日新聞". 朝日新聞 (ภาษาญี่ปุ่น). 2025-06-04. สืบค้นเมื่อ 2025-07-28.
  112. "V&A子ども博物館ご訪問". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-30.
  113. "ご訪問(千代田区立九段幼稚園(こどもの日にちなみ))(千代田区立九段幼稚園(千代田区))". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-30.
  114. "ご供花(広島平和都市記念碑(原爆死没者慰霊碑)(広島市))". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-30.
  115. "ご供花(小桜の塔(那覇市))". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-30.
  116. "ご拝礼(硫黄島戦没者の碑(天山慰霊碑))". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-30.
  117. "ご訪問(広島原爆養護ホーム矢野おりづる園(広島市))". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-30.
  118. "ご視察、関係者とのご懇談(対馬丸記念館(那覇市))". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-30.
  119. "ご臨席(2025年 日本国際賞(Japan Prize)授賞式)(新国立劇場(渋谷区))". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-30.
  120. "ご臨席(2025年日本国際博覧会開会式)(2025年日本国際博覧会会場EXPOホール(大阪市))". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-30.
  121. "ご臨席(第75回全国植樹祭式典(ご植樹、ご播種))(秩父ミューズパーク(秩父市、小鹿野町))". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-30.
  122. "ご臨席(第19回みどりの式典)(パレスホテル東京(千代田区))". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-30.
  123. https://www2.nhk.or.jp/archives/movies/?id=D0009170108_00000
  124. 1 2 "陛下、脳裏に焼き付く「忘れられない記憶」 阪神大震災30年、神戸の街に見た「努力」(共同通信)". Yahoo!ニュース (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-27.
  125. "ご視察(殿下のみ),ご臨席(阪神・淡路大震災15周年追悼式典),ご懇談(遺族代表)(兵庫県公館(神戸市))". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-27.
  126. 1 2 株式会社スポーツニッポン新聞社マルチメディア事業本部. "東日本大震災支援コンサート 皇太子さま参加 ― スポニチ Sponichi Annex 社会". www.sponichi.co.jp (ภาษาญี่ปุ่น). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-15. สืบค้นเมื่อ 2025-07-29.
  127. "皇太子ご夫妻、福島避難民を激励 「お元気で」と - 47NEWS(よんななニュース)". www.47news.jp. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-08-18. สืบค้นเมื่อ 2025-07-29.
  128. 日本テレビ. "皇太子ご夫妻 宮城県の被災地訪問|日テレNEWS NNN". 日テレNEWS NNN (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-29.
  129. 産経新聞 (2019-12-26). "両陛下、宮城・福島の台風被災地お見舞い". 産経新聞:産経ニュース (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-26.
  130. "被災状況ご視察(久手川町(輪島市))". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-30.
  131. "被災者お見舞(輪島市立輪島中学校(輪島市))". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-30.
  132. "災害対応尽力者お労い(輪島市役所(輪島市))". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-30.
  133. "天皇・皇族の外国ご訪問一覧表(戦後)(昭和28年~昭和63年) - 宮内庁". www.kunaicho.go.jp. สืบค้นเมื่อ 2025-07-28.
  134. "天皇・皇族の外国ご訪問一覧表(令和元年以降)". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-28.
  135. https://www3.nhk.or.jp/news/html/20250713/k10014862281000.html
  136. "国賓・公賓など外国賓客一覧表(令和元年~)". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-29.
  137. "トランプ氏と天皇陛下が会見、外国元首との面会は即位後初". BBCニュース (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-29.
  138. "ブラジル大統領閣下及び同令夫人「国賓」ご接遇(歓迎行事、ご会見、宮中晩餐、お別れのご訪問)". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-29.
  139. "組織概要|日本赤十字社". warp.da.ndl.go.jp (ภาษาญี่ปุ่น). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-12-03. สืบค้นเมื่อ 2025-07-28.
  140. "皇太子殿下の名誉総裁ご就任について". www.expo2005.or.jp. สืบค้นเมื่อ 2025-07-28.
  141. "国際主要事項 5月". www.mofa.go.jp. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-12-02. สืบค้นเมื่อ 2025-07-28.
  142. "皇太子殿下が愛知万博名誉総裁に|環境ニュース[国内]|EICネット". www.eic.or.jp. สืบค้นเมื่อ 2025-07-28.
  143. "ドイツご訪問に際し(平成23年) - 宮内庁". www.kunaicho.go.jp. สืบค้นเมื่อ 2025-07-28.
  144. "厚生労働省:皇太子殿下を2007年ユニバーサル技能五輪国際大会名誉総裁に推戴することについて". www.mhlw.go.jp. สืบค้นเมื่อ 2025-07-28.
  145. "外務省: 日本ブラジル交流年実行委員会第2回総会及び木村外務副大臣主催 日本ブラジル交流年オープニング・レセプションの開催". www.mofa.go.jp (ภาษาญี่ปุ่น). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-10-22. สืบค้นเมื่อ 2025-07-28.
  146. "外務省: 日本メキシコ交流400周年記念式典概要". www.mofa.go.jp (ภาษาญี่ปุ่น). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-11-28. สืบค้นเมื่อ 2025-07-28.
  147. "皇太子さま、日独修好150年式典に出席". 日本経済新聞 (ภาษาญี่ปุ่น). 2011-01-24. สืบค้นเมื่อ 2025-07-28.
  148. "皇太子殿下のスペイン御訪問~日本スペイン交流400周年の開幕~". スペイン情報誌 acueducto. 2013-08-31. สืบค้นเมื่อ 2025-07-28.
  149. https://www.mofa.go.jp/mofaj/press/release/press4_000561.html
  150. "皇太子殿下の「日デンマーク外交関係樹立150周年」日本側名誉総裁御就任". Ministry of Foreign Affairs of Japan (ภาษาญี่ปุ่น). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2025-05-28. สืบค้นเมื่อ 2025-07-28.
  151. "「第32回オリンピック競技大会(2020/東京)」及び「東京2020パラリンピック競技大会」における天皇陛下の開会宣言等について | September 2021 | Highlighting Japan". www.gov-online.go.jp. สืบค้นเมื่อ 2025-07-28.
  152. "【速報】皇后さまに「名誉法学博士号」授与 英オックスフォード大学(日テレNEWS NNN)". Yahoo!ニュース (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-24.
  153. Segretariato generale della Presidenza della Repubblica - Servizio sistemi informatici. "Le onorificenze della Repubblica Italiana". www.quirinale.it (ภาษาอิตาลี). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-10-22. สืบค้นเมื่อ 2025-07-28.
  154. https://bunshun.jp/articles/-/12637?page=3
  155. "ENTIDADES ESTRANGEIRAS AGRACIADAS COM ORDENS PORTUGUESAS - Página Oficial das Ordens Honoríficas Portuguesas". www.ordens.presidencia.pt. สืบค้นเมื่อ 2025-07-28.
  156. https://www.yuko2ch.net/mako/imgbbs3jik/img-box/img20071009174105.jpg
  157. https://www.parlament.gv.at/dokument/XXIV/AB/10542/imfname_251156.pdf
  158. "The Order of Sikatuna | GOVPH". Official Gazette of the Republic of the Philippines (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-10-13. สืบค้นเมื่อ 2025-08-29.
  159. https://www.gettyimages.co.uk/detail/news-photo/crown-prince-naruhito-of-japan-attends-the-wedding-of-crown-news-photo/102229666?adppopup=true
  160. https://www.boe.es/boe/dias/2008/11/10/pdfs/A44698-44698.pdf
  161. "Glittering Royal Events Message Board: Re: Coronation in Tonga". members3.boardhost.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-07-05. สืบค้นเมื่อ 2025-07-28.
  162. "Crown Princess Masako completes first duties abroad in more than 2 years - AJW by The Asahi Shimbun". AJW by The Asahi Shimbun (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-07-05. สืบค้นเมื่อ 2025-07-28.
  163. "tongdals". www.royalark.net. สืบค้นเมื่อ 2025-07-28.
  164. Rebecca English [@RE_DailyMail] (June 25, 2024). "The King has appointed The Emperor of Japan to the Most Noble Order of the Garter" (ทวีต) โดยทาง ทวิตเตอร์.
  165. "Na véspera de viagem, Lula concede comenda a imperador do Japão | Metrópoles". www.metropoles.com (ภาษาโปรตุเกสแบบบราซิล). 2025-03-22. สืบค้นเมื่อ 2025-07-28.
  166. "【速報】皇后さまに「名誉法学博士号」授与 英オックスフォード大学(日テレNEWS NNN)". Yahoo!ニュース (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-24.
  167. https://www.dailyshincho.jp/article/2022/02230700/?all=1
  168. 1 2 3 หนังสือ "殿下とともに" โดยพระพี่เลี้ยง ฮามาโอะ มิโนรุ
  169. 1 2 3 4 5 https://www.news-postseven.com/archives/20190411_1350711.html/2
  170. 1 2 https://dot.asahi.com/articles/-/118721?page=1
  171. หนังสือ "テムズとともに" พระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ
  172. 1 2 "おすすめの一冊「テムズとともに」徳仁親王著". 衆議院議員 河野太郎公式サイト (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-28.
  173. https://bunshun.jp/articles/-/63311?page=3
  174. "天皇誕生日 62年前の味わい深い新聞・雑誌の「ご誕生報道」と「9枚の秘蔵写真」(6ページ目)". デイリー新潮 (ภาษาญี่ปุ่น). 2022-02-23. สืบค้นเมื่อ 2025-07-19.
  175. 1 2 https://mi-mollet.com/articles/-/49115?page=2
  176. 1 2 "皇太子さま、ビオラで「第九」をご演奏 - MSN産経ニュース". sankei.jp.msn.com (ภาษาญี่ปุ่น). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-05-13. สืบค้นเมื่อ 2025-07-19.
  177. 1 2 https://mi-mollet.com/articles/-/49115?page=3&per_page=1
  178. https://www.youtube.com/watch?v=eVPPP5tJmWE
  179. 1 2 3 "天皇陛下の登山遍歴を回顧「雅子と一緒に登山するから楽しいんですよ」". NEWSポストセブン (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-27.
  180. https://www.news-postseven.com/archives/20210501_1655660.html/2
  181. https://imagelink.kyodonews.jp/search?product_type=1,2,11&keyword=%E7%A8%B2%E7%94%B0%E6%82%A6%E5%AD%90&opendetail=3508587
  182. "「殿下がんばれ」 皇太子さまが都心でジョギング - MSN産経ニュース". sankei.jp.msn.com (ภาษาญี่ปุ่น). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-03-18. สืบค้นเมื่อ 2025-07-19.
  183. "柏原芳恵が伝説の天皇陛下"来場"コンサートの裏側明かす 宮内庁と「前例ない」やりとり". 東スポWEB (ภาษาญี่ปุ่น). 2023-12-21. สืบค้นเมื่อ 2025-07-27.
  184. 1 2 3 https://fujinkoron.jp/articles/-/1636?page=3
  185. 1 2 "サンデー毎日:スポーツと皇室の深い関係 天皇は巨人・末次が好きだった 社会学的皇室ウォッチング!/68 成城大教授・森暢平". 週刊エコノミスト Online (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-27.
  186. "天皇陛下~成年式からご結婚まで~ 写真特集:時事ドットコム". 時事ドットコム (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-27.
  187. "歴代2番目の高齢即位、59歳2か月…新天皇陛下". 読売新聞オンライン (ภาษาญี่ปุ่น). 2019-05-01. สืบค้นเมื่อ 2025-07-25.
  188. "天皇陛下御即位記念貨幣". 財務省 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-25.
  189. 美術品、芸術品、工芸品、の通信販売サイト, 【公式サイト】東京書芸館. "『天皇陛下御即位記念貨セット』(令和元年発行)". shogeikan.co.jp (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-25.
  190. "皇太子さま、明日、十二指腸ポリープ切除へ". www.afpbb.com (ภาษาญี่ปุ่น). 2007-06-05. สืบค้นเมื่อ 2025-07-24.
  191. 日本放送協会. "天皇陛下 前立腺の検査結果「異常認められず」 宮内庁発表 | NHK". NHKニュース (ภาษาญี่ปุ่น). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-12-02. สืบค้นเมื่อ 2025-07-27.

แหล่งข้อมูลอย่างเป็นทางการ

[แก้]
  • เว็บไซต์สำนักพระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Household Agency) ภาษาอังกฤษ https://www.kunaicho.go.jp/eindex.html
  • เว็บไซต์สำนักพระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Household Agency) ภาษาญี่ปุ่น https://www.kunaicho.go.jp/
  • ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง หลักเกณฑ์การทับศัพท์ภาษาเยอรมัน สเปน ญี่ปุ่น และมลายู ลงวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2561



ก่อนหน้า สมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ ถัดไป
สมเด็จพระจักรพรรดิ
อากิฮิโตะ

จักรพรรดิญี่ปุ่น
(1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 – ปัจจุบัน)
​ยังอยู่ในราชสมบัติ
มกุฎราชกุมารอากิฮิโตะ
มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น (โคไตชิ)
(23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 – 30 เมษายน พ.ศ. 2562)
มกุฎราชกุมารอากิชิโนะ

ลำดับโปเจียมแห่งราชวงศ์ญี่ปุ่น
(ลำดับที่ 1)

สมเด็จพระจักรพรรดินี
มาซาโกะ