พระเจ้าเปดรูที่ 3 แห่งโปรตุเกส
| พระเจ้าเปดรูที่ 3 แห่งโปรตุเกส | |
|---|---|
| พระมหากษัตริย์แห่งโปรตุเกสและอัลการ์วึช (ผ่านสิทธิพระมเหสี) | |
| ครองราชย์ | 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2320 - 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2329 |
| ก่อนหน้า | พระเจ้าฌูเซที่ 1 แห่งโปรตุเกส |
| ถัดไป | สมเด็จพระราชินีนาถมารีอาที่ 1 แห่งโปรตุเกส |
| ผู้ร่วมในราชสมบัติ | สมเด็จพระราชินีนาถมารีอาที่ 1 แห่งโปรตุเกส |
| พระราชสมภพ | 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2260 พระราชวังริเบย์รา ลิสบอน ประเทศโปรตุเกส |
| สวรรคต | 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2329 พระราชวังอาจูดา ลิสบอน ประเทศโปรตุเกส (พระชนมายุ 68 พรรษา) |
| พระราชบุตร | เจ้าชายฌูเซ เจ้าชายแห่งบราซิล อิงฟังตึฌูเอา ฟรังซิชกูแห่งบรากังซา อิงฟังตามารีอา อีซาแบลแห่งบรากังซา พระเจ้าฌูเอาที่ 6 แห่งโปรตุเกส อิงฟังตามารีอานา วีตอรีอาแห่งบรากังซา อิงฟังตามารีอา กลึเมนตีนาแห่งบรากังซา |
| ราชวงศ์ | บรากังซา |
| พระราชบิดา | พระเจ้าฌูเอาที่ 5 แห่งโปรตุเกส |
| พระราชมารดา | อาร์ชดัชเชสมารีอา อันนาแห่งออสเตรีย |
พระเจ้าเปดรูที่ 3 แห่งโปรตุเกส (โปรตุเกส: Pedro Clemente Francisco José António de Bragança เปดรู กลึเมนตึ ฟรังซิชกู ฌูเซ อังตอนียู ดึ บรากังซา, ประสูติ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2260 - สวรรคต 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2329) ทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งโปรตุเกสและอัลการ์วึช ทรงเป็นผู้ปกครองร่วมโดยการครองราชย์ของ สมเด็จพระราชินีนาถมารีอาที่ 1 แห่งโปรตุเกส ผู้เป็นพระราชภาติกาซึ่งได้เป็นพระมเหสีของพระองค์ด้วย และทรงเป็นผู้ปกครองร่วมเรื่อยมาจนกระทั่งเสด็จสวรรคต
พระราชประวัติ
[แก้]
เจ้าชายเปดรูประสูติในวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2260 เป็นพระราชโอรสพระองค์สุดท้องในพระเจ้าฌูเอาที่ 5 แห่งโปรตุเกสและอาร์ชดัสเชสมาเรีย อันนาแห่งออสเตรีย เป็นพระราชโอรสที่พระบิดาโปรดที่สุดในบรรดาพระโอรสธิดาทั้งหมดของพระเจ้าฌูเอา ซึ่งส่งผลให้พระบิดาทรงแต่งตั้งเจ้าชายเปดรูเป็นอธิการแห่งคาร์โต, กาซา ดู อิงฟังตาดู และได้รับตำแหน่งอัศวินเครื่องราชอิสริยาภรณ์ขนแกะทองคำ ซึ่งเป็นของสเปน ครั้งหนึ่งเจ้าชายเปดรูทรงทำให้เจ้าชายฌูเซซึ่งเป็นรัชทายาทและเป็นพระเชษฐาทรงรำคาญพระทัย ซึ่งในรัชสมัยของพระเชษฐา เจ้าชายเปดรูทรงนำเครื่องราชอิสริยาภรณ์ขนแกะทองคำ มาเก็บไว้ที่เขตเควลูซและทำการยกเลิกตำแหน่งนี้แล้วเริ่มการเปลี่ยนแปลงโดยในปีพ.ศ. 2290 ทรงริเริ่มสร้างพระราชวังที่จะทรงใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อน โดยการออกแบของสถาปนิกชื่อ มาเทอุส วิเซนเต เดอ โอลิเวรา ซึ่งพระราชวังนี้ได้รับสมญานามว่า "แวร์ซายแห่งโปรตุเกส"
ได้มีหลักฐานปรากฏว่า พระเจ้าเปดรูที่ 3 ซึ่งขณะดำรงเป็นเจ้าชายแห่งบราซิล ได้รับการต่อต้านอย่างเปิดเผยจากผู้ที่มี "ความหวาดกลัวพอมบาล" ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอิทธิพลและกุมอำนาจสูงสุดในโปรตุเกส และได้รับการสนับสนุนจากราชวงศ์ซึ่งในขณะนั้นราชวงศ์ได้ตกอยู่ใต้อำนาจของพอมบาล แต่เมื่อเจ้าชายเปดรูทรงอภิเษกสมรสกับพระนัดดาคือเจ้าหญิงมาเรียในวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2303 และตามมาด้วยการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระเจ้าโจเซฟแห่งโปรตุเกส ในปีพ.ศ. 2320 พระองค์และพระมเหสีได้ครองราชย์ร่วมกันเป็นสมเด็จพระเจ้าเปดรูที่ 3 และสมเด็จพระราชินีนาถมาเรียที่ 1 พระองค์กลับประกาศเป็นศัตรูกับมาควิสแห่งพอมบาลและทรงสนับสนุนการกำจัดอำนาจของพอมบาลและเหล่าขุนนางของเขา ชาร์ลส์ กราเวียร์ กอมเต เดอ เวอร์เจนเนส นักการทูตชาวฝรั่งเศสซึ่งต่อมาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของฝรั่งเศส ได้เขียนว่า "รู้สึกกังวลกับพระดำริของพระเจ้าเปดรูที่ 3 ที่มุ่งก่อกวนและจองผลาญมาควิส เดอ พอมบาลและพรรคพวก ความเกลียดชังและการแก้แค้นดูเหมือนจะอธิบาลลักษณะและบุคลิกภาพของพระเจ้าเปดรูที่มีต่อท่านมาควิส เดอ พอมบาล พวกเราอยู่ไกลเกินกว่าจะป้องกันท่านอดีตนายกรัฐมนตรีได้ ข้าคิดว่าเขาไม่ควรถูกทำร้ายเช่นนี้จากชื่อเสียงที่เขาได้สะสมมาและทำเพื่อแผ่นดินในรัชสมัยขอพระเจ้าแผ่นดินพระองค์ก่อน(พระเจ้าโจเซฟ) ถ้าเราตัดสินใจเปลี่ยนฝ่ายและเข้าโจมตีมาควิส เดอ พอมบาลด้วย ซึ่งก็จะทำให้เกิดปัญหาด้านการบริหารประเทศและจะทำให้โปรตุเกสไร้เสถียรภาพ ดังนั้นการโจมตีมาควิส เดอ พอมบาลอาจเกี่ยวข้องกับความทรงจำที่เขามีต่อพระเจ้าแผ่นดินพระองค์ก่อน ซึ่งคือพระเชษฐาที่โปรดมาควิส เดอ พอมบาล"

พระเจ้าเปดรูทรงยึดมั่นในพระศาสนามาก ดังเช่น พระราชินีนาถมาเรียทรงได้รับพระสมัญญาว่า "ผู้ใจบุญ" และบางครั้งได้รับพระสมัญญาว่า "ผู้ดูแลโบสถ์" โดยโอลิเวรา มาร์ตินนักประวัติศาสตร์เสรีนิยมในศตวรรษที่ 19 ได้เขียนว่า "พระเจ้าเปดรูนั้นทรงเป็นบุคคลที่ประหลาด ทรงน่าเกลียดและไม่ฉลาด ทรงแสดงออกท่าทางอย่างรุนแรงจนพระเกศากระเซิง และทรงมีลักษณะอาการแบบคนเมา" ต่อมา คาเอตาโน เบราว ผู้เขียนชีวราชประวัติของพระราชินีล่าสุดได้ต่อต้านข้อความนี้ และได้โต้แย้งว่า "พระเจ้าเปดรูทรงมีศรัทธาอย่างยิ่ง แต่ความเชื่อยังคงมีอยู่โดยอาศัยปัญญารู้แจ้งเองไม่ต้องใช้ไสยศาสตร์"
พระองค์ทรงปกป้องและอุปถัมภ์คณะเยซูอิตซึ่งถูกมาควิสแห่งพอมบาลขับไล่ออกไปในปีพ.ศ. 2302 โดยทรงประกาศว่า "ข้าพเจ้าจะไม่ลืมเลือนคำสอนและคำแนะนำของพวกเขาที่ได้รับรู้มา" ซึ่งพระองค์ได้มีส่วนฟื้นฟูคณะแห่งพระเยซูเจ้า ซึ่งได้รับการรับรองโดยสมเด็จพระราชินีนาถมาเรียที่ 1 และสำนักวาติกัน ซึ่งป้องกันการเข้ามาครอบครองของราชวงศ์บูร์บง สายสเปน
เวอร์เจนเนสได้เขียนถึงเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสในกรุงลิสบอนใน"beatice" และเขียนถึงทัศนคติของกษัตริย์ "เราเชื่อว่าพระองค์จะทรงงานมากน้อยเพียงใด ดังนั้นนโยบายที่มีต่อโปรตุเกสต่ออดีตคณะเยซูอิตผู้ซึ่งได้รับการใส่ลงไปในคำว่าเสรีภาพ จุดนี้จะสร้างความโกรธแค้นของกษัตริย์คาทอลิก ซึ่งถือว่าเป็นจุดที่ดีในโปรตุเกส...แต่ดูเหมือนว่าไม่สะดวกจริงที่จะอธิบายความเป็นจริงให้พระเจ้าเปดรูทรงเข้าพระทัยได้ง่าย"
พระเจ้าเปดรูที่ 3 ทรงเป็นผู้คุ้มครองเหล่าคนชนชั้นสูง ทรงอุปถัมภ์ทายาทของผู้เสียชีวิตในเรื่องอื้อฉาวทาโวรา โดยโปรดให้รื้อคดีมาพิจารณาใหม่อีกครั้ง ทำให้ทายาทเหล่านั้นได้รับทรัพย์สินกลับมาเป็นของตระกูล
พระเจ้าเปดรูเสด็จสวรรคต ณ พระราชวังอาจูดา ในกรุงลิสบอน วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2329 สิริพระชนมายุ 69 พรรษา การสวรรคตของพระองค์ส่งผลให้ พระนางมาเรียที่ 1 พระมเหสีมีพระสติวิปลาสจากความโศกเศร้า
พระราชบุตร
[แก้]| พระฉายาลักษณ์ | พระนาม | ประสูติ | สิ้นพระชนม์ | คู่สมรส และพระโอรส-ธิดา |
| เจ้าชายฌูเซ เจ้าชายแห่งบราซิล | 20 สิงหาคม
ค.ศ. 1761 |
11 กันยายน
ค.ศ. 1788 |
อภิเษกสมรส 21 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1777
อิงฟังตาบึนึดีตาแห่งโปรตุเกส ผู้เป็นพระมาตุจฉา ไม่มีพระบุตร | |
| อิงฟังตึฌูเอา ฟรังซิชกูแห่งบรากังซา | 16 กันยายน
ค.ศ. 1763 |
10 ตุลาคม
ค.ศ. 1763 |
สิ้นพระชนม์เมื่อทรงพระเยาว์ | |
| พระเจ้าฌูเอาที่ 6 แห่งโปรตุเกส | 13 พฤษภาคม
ค.ศ. 1767 |
10 มีนาคม
ค.ศ. 1826 |
อภิเษกสมรส 8 พฤษภาคม ค.ศ. 1785
อินฟันตาการ์โลตา โฆอากินาแห่งสเปน มีพระราชบุตร 9 พระองค์ ได้แก่ อิงฟังตามารีอา ตึเรซาแห่งบรากังซา เจ้าชายฟรังซิชกู อังตอนียู เจ้าชายแห่งไบรา มารีอา อีซาแบลแห่งบรากังซา สมเด็จพระราชินีแห่งสเปน จักรพรรดิเปดรูที่ 1 แห่งบราซิล อิงฟังตามารีอา ฟรังซิชกาแห่งบรากังซา อิงฟังตาอีซาแบล มารีอาแห่งบรากังซา พระเจ้ามีแกลแห่งโปรตุเกส อิงฟังตามารีอา ดา อาซุงเซาแห่งบรากังซา อิงฟังตาอานา ดึ ฌึซุช มารีอาแห่งบรากังซา | |
| อิงฟังตามารีอานา วีตอรีอาแห่งบรากังซา | 15 ธันวาคม
ค.ศ. 1768 |
2 พฤศจิกายน
ค.ศ. 1788 |
อภิเษกสมรส 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 1785
อินฟันเตกาบริเอลแห่งสเปน มีพระบุตร 3 พระองค์ ได้แก่ อินฟันเตเปโดร การ์โลสแห่งสเปนและโปรตุเกส อินฟันตามาริอา การ์โลตาแห่งสเปน อินฟันเตการ์โลสแห่งสเปน | |
| อิงฟังตามารีอา กลึเมนตีนาแห่งบรากังซา | 9 มิถุนายน
ค.ศ. 1774 |
27 มิถุนายน
ค.ศ. 1776 |
สิ้นพระชนม์เมื่อทรงพระเยาว์ | |
| อิงฟังตามารีอา อีซาแบลแห่งบรากังซา | 12 ธันวาคม
ค.ศ. 1776 |
14 มกราคม
ค.ศ. 1777 |
สิ้นพระชนม์เมื่อทรงพระเยาว์ | |
พระอิสริยยศ
[แก้]- 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2260 - 6 มิถุนายน พ.ศ. 2303 : อิงฟังตึเปดรูแห่งโปรตุเกส
- 6 มิถุนายน พ.ศ. 2303 - 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2320 : เจ้าชายแห่งบราซิล, ดยุกแห่งบรากังซา
- 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2320 - 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2329 : พระมหากษัตริย์แห่งโปรตุเกส
พระราชตระกูล
[แก้]อ้างอิง
[แก้]| ก่อนหน้า | พระเจ้าเปดรูที่ 3 แห่งโปรตุเกส | ถัดไป | ||
|---|---|---|---|---|
| สมเด็จพระเจ้าโจเซฟ | พระมหากษัตริย์แห่งโปรตุเกสและอัลเกรฟ ปกครองร่วมกับพระมเหสี สมเด็จพระราชินีนาถมาเรียที่ 1 แห่งโปรตุเกส(จนกระทั่งสวรรคต) (24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2320 - 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2329) |
สมเด็จพระราชินีนาถมาเรียที่ 1 |