ข้ามไปเนื้อหา

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน
中国民用航空局
ตราสัญลักษณ์

ที่ทำการ CAAC ในปักกิ่ง
ภาพรวมหน่วยงาน
ก่อตั้งค.ศ. 1949; 76 ปีที่แล้ว (1949)
เขตอำนาจแม่แบบ:China
สำนักงานใหญ่เขตตงเฉิง ปักกิ่ง
ฝ่ายบริหารหน่วยงาน
  • ซ่ง จื้อหย่ง (มกราคม 2023)[1], ผู้อำนวยการ
ต้นสังกัดหน่วยงานกระทรวงคมนาคม
เว็บไซต์caac.gov.cn
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน
อักษรจีนตัวย่อ中国民用航空局
อักษรจีนตัวเต็ม中國民用航空局

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน (CAAC) เป็นหน่วยงานด้านการบินพลเรือนของสาธารณรัฐประชาชนจีน สังกัดกระทรวงคมนาคม มีหน้าที่กำกับดูแลการบินพลเรือนและสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการรณ์ทางการบิน[2] มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เขตตงเฉิง กรุงปักกิ่ง

ก่อนการปฏิรูปของเติ้ง เสี่ยวผิงที่แยกการบริหารงานของรัฐบาลออกจากกิจการเชิงพาณิชย์ หน่วยงานนี้เคยเป็นผู้ดำเนินการสายการบินซีเอเอซีแอร์ไลน์ (CAC Airlines) โดยผูกขาดตั้งแต่ ค.ศ. 1953 ถึง 1987

ประวัติศาสตร์

[แก้]

วันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 1949 ไม่นานหลังการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีมติก่อตั้งทบวงการบินพลเรือนขึ้นภายใต้คณะกรรมการทหารปฏิวัติประชาชน และอยู่ภายใต้บัญชาการของกองทัพอากาศกองทัพปลดปล่อยประชาชน เพื่อบริหารการบินที่ไม่ใช่ทางทหารทั้งหมดในประเทศ รวมถึงให้บริการเที่ยวบินทั่วไปและเชิงพาณิชย์ ทบวงการบินพลเรือนถูกจัดตั้งขึ้นในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน และเปิดสำนักงานในฉงชิ่ง กว่างโจว ช่างไห่ เทียนจิน และอู่ฮั่น[3] วันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 1950 สำนักงานกว่างโจวเริ่มปฏิบัติงาน โดยบริหารบริการเที่ยวบินพลเรือนในกว่างตง กว่างซี และหูหนาน ต่อมาถูกยุบรวมเข้ากับสำนักงานอู่ฮั่นเพื่อตั้งสำนักงานการบินพลเรือนภาคกลางและภาคใต้ของจีนเมื่อวันที่ 21 มกราคม ค.ศ. 1951 ที่กว่างโจว และเปลี่ยนชื่อเป็นสำนักงานการบินพลเรือนภาคกลางและภาคใต้ ทำหน้าที่บริหารการบินพลเรือนในกว่างตง กว่างซี หูเป่ย์ และหูหนาน[ต้องการอ้างอิง]

วันที่ 7 พฤษภาคม ค.ศ. 1952 คณะกรรมการทหารปฏิวัติประชาชนและคณะมนตรีรัฐกิจได้ออก มติว่าด้วยการจัดระเบียบการบินพลเรือน (จีน: 关于整编民用航空的决定) และมีการโอนย้ายทบวงการบินพลเรือนของคณะกรรมการการทหารปฏิวัติประชาชนเข้าสู่ระบบการทหารและอยู่ภายใต้การควบคุมโดยตรงของกองทัพอากาศกองทัพปลดปล่อยประชาชน จากนั้นมีการแยกแผนกบริหารการบินพลเรือนและแผนกสายการบินออกจากกันเพื่อตั้งเป็นทบวงการบินพลเรือนและสายการบินพลเรือนที่แยกจากกัน ภายใต้มตินี้ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงพฤศจิกายน ค.ศ. 1951 ทบวงการบินพลเรือนมีสำนักงานบริหาร 4 แห่งในช่างไห่ (จีนตะวันออก) กว่างโจว (จีนกลาง-ใต้) ฉงชิ่ง (จีนตะวันตกเฉียงใต้) และเทียนจิน (จีนเหนือ) สำนักงานสาขาตอนใต้ของจีนถูกเปลี่ยนชื่อเป็นสำนักงานบริหารการบินพลเรือนจีนใต้ในช่วงสั้น ๆ วันที่ 17 กรกฎาคม ค.ศ. 1952 มีการก่อตั้งบริษัทการบินประชาชนจีนขึ้นโดยมีสำนักงานใหญ่ที่เทียนจิน[4]

วันที่ 9 มิถุนายน ค.ศ. 1953 ภายหลังการรวมแอโรฟลอตในสหภาพโซเวียต บริษัทการบินประชาชนจีนถูกยุบรวมเข้ากับทบวงการบินพลเรือนของคณะกรรมการการทหารปฏิวัติกลาง และบริการภายในประเทศยังคงดำเนินต่อไปภายใต้ชื่อ 'การบินพลเรือน' (จีน: 民用航空) ในเวลาต่อมา SKOGA ถูกยุบรวมเข้ากับสำนักงานปักกิ่งในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1955[5]:275

ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1954 ทบวงการบินพลเรือนของคณะกรรมการทหารปฏิวัติประชาชนได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็นทบวงการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน และถูกโอนย้ายไปขึ้นตรงกับคณะมนตรีรัฐกิจโดยอยู่ภายใต้การนำของทั้งคณะมนตรีรัฐกิจและกองทัพอากาศกองทัพปลดปล่อยประชาชน กองทัพอากาศกองทัพปลดปล่อยประชาชนยังมีหน้าที่รับผิดชอบด้านเทคนิค การบิน เจ้าหน้าที่บนเครื่องบิน การสื่อสาร ทรัพยากรบุคคล และการดำเนินงานทางการเมืองด้วย หลังควบรวมกิจการกับ SKOGA สายการบินใหม่ยังคงดำเนินงานภายใต้ชื่อ "การบินพลเรือน" จนถึงต้น ค.ศ. 1957 ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น CAAC (จีน: 中国民航) ในที่สุด[ต้องการอ้างอิง]

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1958 ทบวงการบินพลเรือนถูกโอนย้ายไปสังกัดกระทรวงคมนาคม ต่อมา ในวันที่ 17 มิถุนายน ทบวงได้ให้สัตยาบัน รายงานความเห็นเกี่ยวกับการกระจายอำนาจระบบ (จีน: 关于体制下放意见的报告) จากสาขาพรรคของกระทรวงคมนาคม โดยทั้งหน่วยงานระดับชาติและท้องถิ่นต่างมีหน้าที่รับผิดชอบด้านการบินพลเรือน โดยเที่ยวบินระหว่างประเทศและเที่ยวบินภายในประเทศสายหลักอยู่ภายใต้การนำของหน่วยงานระดับชาติเป็นหลัก ส่วนเที่ยวบินท้องถิ่นและการเกษตรอยู่ภายใต้การนำของหน่วยงานท้องถิ่นเป็นหลัก ด้วยเหตุนี้ มณฑลและเขตปกครองตนเองส่วนใหญ่จึงตั้งสำนักงานการบินพลเรือนของตนเองขึ้นมา และในวันที่ 13 ธันวาคม สำนักงาน 5 แห่งในปักกิ่ง เฉิงตู กว่างโจว ช่างไห่ เทียนจิน และอุรุมชีได้รับการยกสถานะเป็นทบวงส่วนภูมิภาค และในวันที่ 17 พฤศจิกายน ค.ศ.1960 ทบวงได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็นสำนักงานการบินพลเรือนทั่วไป กระทรวงคมนาคม[ต้องการอ้างอิง]

ในเดือนเมษายน ค.ศ. 1962 ที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติชุดที่ 2 ครั้งที่ 53 มีมติเปลี่ยนชื่อสำนักงานการบินพลเรือนทั่วไป กระทรวงคมนาคม เป็นสำนักงานการบินพลเรือนทั่วไปแห่งประเทศจีน และโอนย้ายไปสังกัดคณะมนตรีรัฐกิจภายใต้การบริหารของกองทัพอากาศกองทัพปลดปล่อยประชาชน ต่อมาในวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1969 สำนักงานการบินพลเรือนทั่วไปก็ได้ถูกโอนย้ายไปสังกัดกองทัพอากาศกองทัพปลดปล่อยประชาชนอีกครั้ง[ต้องการอ้างอิง]

อิลยูชิน อิล-62 ของ CAAC ที่ท่าอากาศยานมอสโกเชเรเมเตียโวใน ค.ศ. 1974

ใน ค.ศ. 1963 ประเทศจีนได้ซื้อเครื่องบิน Vickers Viscount จำนวน 6 ลำจากสหราชอาณาจักร ต่อมาใน ค.ศ. 1971 ได้ซื้อเครื่องบิน Hawker Siddeley Trident จำนวน 4 ลำจากสายการบินปากีสถานอินเตอร์เนชันแนล และในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1971 สายการบินได้สั่งซื้อเครื่องบิน Trident 2E โดยตรงจากบริษัท Hawker Siddeley อีก 6 ลำ[6] ประเทศจีนยังได้สั่งซื้อเครื่องบินคองคอร์ดเป็นการชั่วคราวจำนวน 3 ลำ หลังการเยือนจีนของนิกสัน ค.ศ. 1972 ประเทศจีนได้สั่งซื้อเครื่องบินไอพ่นโบอิง 707 จำนวน 10 ลำ และในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1973 มีการตัดสินใจที่ถือเป็นครั้งแรก โดยกู้ยืมเงินจำนวน 40 ล้านปอนด์จากธนาคารตะวันตกเพื่อนำมาซื้อเครื่องบิน Trident เพิ่มเติมอีก 15 ลำ ในช่วงทศวรรษที่ 1970 และ 1980 เครื่องบินอิลยูชิน อิล-62 ที่สร้างโดยสหภาพโซเวียตถูกนำมาใช้ในเส้นทางบินระยะไกล[ต้องการอ้างอิง]

วันที่ 5 มีนาคม ค.ศ. 1980 สำนักงานการบินพลเรือนทั่วไปไม่ได้อยู่ภายใต้การบริหารของกองทัพอากาศกองทัพปลดปล่อยประชาชนอีกต่อไป และถูกโอนย้ายไปขึ้นตรงต่อคณะมนตรีรัฐกิจ[7] อย่างไรก็ดี งานบริหารบางส่วนยังคงอยู่ภายใต้กองทัพปลดปล่อยประชาชนและการควบคุมทางอากาศยังคงบริหารโดยกรมเสนาธิการใหญ่และกองบัญชาการกองทัพอากาศของกองทัพปลดปล่อยประชาชน[ต้องการอ้างอิง]

วันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 1987 คณะมนตรีรัฐกิจอนุมัติ รายงานเกี่ยวกับแนวทางการปฏิรูปและขั้นตอนการดำเนินการระบบบริหารการบินพลเรือน (จีน: 关于民航系统管理体制改革方案和实施步骤的报告)[8] ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา CAAC ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานของรัฐเพียงอย่างเดียวและปรับโครงสร้างหน่วยงานส่วนภูมิภาค 6 แห่งใหม่ และไม่ให้บริการเที่ยวบินเชิงพาณิชย์อีกต่อไป ใน ค.ศ. 1988 สายการบิน CAAC ถูกแบ่งออกเป็นหลายสายการบินย่อย ซึ่งหลายสายได้ตั้งชื่อตามภูมิภาคของประเทศจีนที่เป็นศูนย์กลางการบิน[ต้องการอ้างอิง]

วันที่ 19 เมษายน ค.ศ. 1993 สำนักงานการบินพลเรือนทั่วไปถูกยกฐานะขึ้นเป็นหน่วยงานระดับกระทรวงภายใต้คณะมนตรีรัฐกิจ

ในเดือนมีนาคม ค.ศ.2008 CAAC ถูกปรับสถานะให้เป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคมที่จัดตั้งขึ้นใหม่ และชื่อภาษาจีนอย่างเป็นทางการของ CAAC ถูกปรับเปลี่ยนเล็กน้อยเพื่อให้สอดคล้องกับสถานะใหม่ที่ไม่ใช่หน่วยงานระดับกระทรวงอีกต่อไป ส่วนชื่อภาษาอังกฤษอย่างเป็นทางการยังคงเดิมคือ Civil Aviation Administration of China[ต้องการอ้างอิง]

วันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 2019 CAAC เป็นหน่วยงานการบินพลเรือนแห่งแรกที่สั่งระงับการบินของโบอิง 737 แมกซ์[9] หลังจากนั้น หน่วยงานการบินทั่วโลกส่วนใหญ่ก็สั่งระงับการบินของแมกซ์ตามมา รวมถึงสำนักงานความปลอดภัยการบินสหภาพยุโรป (EASA) ในวันถัดมา[10] ขณะที่องค์การบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐ (FAA) ใช้เวลาถึงวันที่ 13 มีนาคมกว่าจะสั่งระงับการบินของแมกซ์[11] นักวิเคราะห์ด้านการบินมองว่าเหตุการณ์นี้ช่วยเสริมสร้างชื่อเสียงของ CAAC ในเวทีโลก ในขณะเดียวกันก็ลดความน่าเชื่อถือของ FAA ลง[12][13][14] หลัง FAA อนุมัติให้แมกซ์กลับมาให้บริการได้ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2020[15] CAAC ก็ย้ำว่า "ยังไม่มีกำหนดเวลาที่แน่นอน" ในการยกเลิกคำสั่งระงับการบินของแมกซ์ในจีน[16] ช่วงต้นเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2021 แมกซ์ได้ทำการบินทดสอบที่เซี่ยงไฮ้เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง[17] ต่อมาในวันที่ 2 ธันวาคม CAAC ออกคำสั่งความสมควรเดินอากาศเพื่ออนุญาตให้เครื่องบินรุ่นนี้กลับมาให้บริการได้ หากมีการแก้ไขระบบ MCAS ตามคำแนะนำของโบอิง[18]

ปัจจุบัน

[แก้]
ที่ทำการ CAAC

ปัจจุบัน CAAC เป็นหน่วยงานบริหารที่มีหน้าที่หลักในการกำกับดูแลตลาดการบินพลเรือน CAAC จะประกาศการขออนุญาตเส้นทางการบินทุกสัปดาห์ และสำหรับเส้นทางที่ไม่ได้บินไปยังประเทศ/ภูมิภาคที่มีนโยบายเปิดน่านฟ้า จะมีการประกาศคะแนนรายเดือนเพื่อตัดสินคะแนนของแต่ละเส้นทาง หลังจากนั้น CAAC จะอนุมัติให้ผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดในรายการนั้นเริ่มทำการบินได้ CAAC ยังเป็นผู้ดูแลบัญชีรายชื่อบุคคลต้องห้ามบิน (no-fly list) ของประเทศจีนอีกด้วย[19]:113

รายชื่อผู้อำนวยการ

[แก้]

รายชื่อผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน:[20]

ชื่อ ชื่อภาษาจีน เริ่มวาระ สิ้นสุดวาระ
จง จื้อปิง 钟赤兵 พฤศจิกายน 1949 ตุลาคม 1952
จู ฮุยจ้าว 朱辉照 ตุลาคม 1952 มิถุนายน 1955
ค่วง เหรินหนง 邝任农 มิถุนายน 1955 มิถุนายน 1973
หม่า เหรินฮุย 马仁辉 มิถุนายน 1973 มิถุนายน 1975
หลิว ฉุนซิ่น 刘存信 มิถุนายน 1975 ธันวาคม 1977
เฉิ่น ถู 沈图 ธันวาคม 1977 มีนาคม 1985
หู อี้โจว 胡逸洲 มีนาคม 1985 กุมภาพันธ์ 1991
เจี่ยง จู้ผิง 蒋祝平 กุมภาพันธ์ 1991 ธันวาคม 1993
เฉิน กวงอี้ 陈光毅 ธันวาคม 1993 มิถุยายน 1998
หลิว เจี้ยนเฟิง 刘剑锋 มิถุนายน 1998 มิถุนายน 1998
หยาง ยฺเหวียน-ยฺเหวียน 杨元元 พฤษภาคม 2002 ธันวาคม 2007
หลี่ เจียเสียง 李家祥 ธันวาคม 2007 มกราคม 2016
เฝิง เจิ้งหลิน 冯正霖 มกราคม 2016 กรกฎาคม 2022
ซ่ง จื้อหย่ง 宋志勇 กรกฎาคม 2022 อยู่ในวาระ

หน่วยงานในสังกัด

[แก้]
ศูนย์ตรวจสอบการบินของ CAAC

ดูเพิ่ม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "Leadership". 中国民用航空局. สืบค้นเมื่อ 30 January 2023.
  2. "Legal directory" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 3 May 2020. สืบค้นเมื่อ 2009-06-09.
  3. "成立军委民航局 - 中国民航局60周年档案展". CAAC (ภาษาจีนตัวย่อ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-04-26. สืบค้นเมื่อ 2013-04-12.
  4. "中国人民航空公司始末 - 中国民航局60周年档案展". CAAC (ภาษาจีนตัวย่อ). สืบค้นเมื่อ 2021-02-20.
  5. 北京市地方志编纂委员会 (2000). 北京志·市政卷·民用航空志 (ภาษาจีน). Beijing Publishing House. ISBN 7-200-04040-1.
  6. Tridents for China, Flight International, 2 September 1971, p. 348
  7. "庆祝新中国民航成立70周年专题 (1980)". CAAC (ภาษาจีนตัวย่อ). สืบค้นเมื่อ 2021-02-20.
  8. "庆祝新中国民航成立70周年专题 (1987)". CAAC (ภาษาจีนตัวย่อ). สืบค้นเมื่อ 2021-02-20.
  9. For a full timeline of the groundings, see Boeing 737 MAX groundings § Regulators.
  10. "EASA suspends all Boeing 737 Max operations in Europe". European Union Aviation Safety Agency. 2019-03-12. สืบค้นเมื่อ 2019-09-18.
  11. "Emergency Order of Prohibition" (PDF). Federal Aviation Administration. 2019-03-13. สืบค้นเมื่อ 2019-03-13.
  12. "Chinese air safety regulators gain global influence as FAA refuses to ground Boeing 737 Max". Los Angeles Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2019-03-13. สืบค้นเมื่อ 2019-09-18.
  13. "Across the globe, a question of air safety becomes a question of American leadership". Los Angeles Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2019-03-15. สืบค้นเมื่อ 2019-09-18.
  14. Isidore, Chris (13 May 2019). "Boeing desperately needs to get the 737 Max back in the air. Getting it approved will be hard". CNN. สืบค้นเมื่อ 2019-09-18. The 737 Max does not appear close to flying again. Aviation experts doubt global regulators will act in concert to approve the 737 Max for flight, because serious questions remain about how and why the FAA approved the 737 Max for flight and whether it rushed the certification process.
  15. "Boeing Responds to FAA Approval to Resume 737 MAX Operations". MediaRoom. สืบค้นเมื่อ 2020-12-19.
  16. Chua2020-11-20T07:58:00+00:00, Alfred. "China in no hurry to return 737 Max to service". Flight Global (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-12-19.
  17. "波音737 Max開啟往中國的試飛之旅 期待北京解除禁飛令". Bloomberg (ภาษาจีน). 2021-08-04. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-10-18. สืบค้นเมื่อ 2022-01-16.
  18. "波音737MAX重获中国适航许可 复飞还要多久?". Kankan News (ภาษาจีน). 2022-01-16. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-12-06. สืบค้นเมื่อ 2021-12-03.
  19. Brussee, Vincent (2023). Social Credit: The Warring States of China's Emerging Data Empire. Singapore: Palgrave MacMillan. ISBN 9789819921881.
  20. "历任局长" (ภาษาจีน). Civil Aviation Administration of China. สืบค้นเมื่อ 17 December 2017.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]