หม่อมเจ้าเพลิงนภดล รพีพัฒน์
| หม่อมเจ้าเพลิงนภดล รพีพัฒน์ | |
|---|---|
| เอกอัครราชทูตไทยประจำสหราชอาณาจักร | |
| ดำรงตำแหน่ง 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2506 – 30 กันยายน พ.ศ. 2510 | |
| กษัตริย์ | พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร |
| นายกรัฐมนตรี |
|
| ก่อนหน้า | หม่อมหลวงปีกทิพย์ มาลากุล |
| ถัดไป | สุนทร หงส์ลดารมภ์ |
| ประสูติ | 30 ธันวาคม พ.ศ. 2449 วังเชิงสะพานเทเวศรนฤมิตร จังหวัดพระนคร ประเทศสยาม |
| สิ้นชีพิตักษัย | 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2528 (78 ปี) |
| พระราชทานเพลิง | 20 สิงหาคม พ.ศ. 2528 เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส |
| ชายา | หม่อมเจ้าทรงอัปสร กิติยากร |
| บุตร | หม่อมราชวงศ์อคิน รพีพัฒน์ หม่อมราชวงศ์รพีพงษ์ รพีพัฒน์ หม่อมราชวงศ์อับษร โรกอซ |
| ราชวงศ์ | รพีพัฒน์ (ราชวงศ์จักรี) |
| พระบิดา | พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ |
| พระมารดา | หม่อมอ่อน รพีพัฒน์ ณ อยุธยา |
| ศาสนา | พุทธ |
หม่อมเจ้าเพลิงนภดล รพีพัฒน์ (30 ธันวาคม พ.ศ. 2449 – 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2528) เป็นพระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ประสูติแต่หม่อมอ่อน รพีพัฒน์ ณ อยุธยา
พระประวัติ
[แก้]หม่อมเจ้าเพลิงนภดล รพีพัฒน์ เป็นพระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ประสูติแต่หม่อมอ่อน รพีพัฒน์ ณ อยุธยา (ธิดาของพระยาสุพรรณพิจิตร (โต) กับหม่อมราชวงศ์สำอาง (ธิดาหม่อมเจ้าหนู เสนีวงศ์)) มีโสทรภราดาและโสทรภคินี 10 องค์ และมีขนิษฐาต่างพระมารดา 2 องค์ ประสูติเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2449 ณ วังเชิงสะพานเทเวศร์นฤมิตร เมื่อพระชันษาได้ 4 ถึง 5 ปี ทรงเริ่มเรียนหนังสือที่วังฯ โดยมีครูสอนพิเศษคือ มหาวงศ์ สอนหนังสือไทย และครูตั้ง สอนภาษาอังกฤษ ครั้นชันษาได้ 9 ปี ทรงเข้าเรียนที่โรงเรียนอัสสัมชัญ เมื่อ พ.ศ. 2458 ต่อมาเมื่อโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ซึ่งเป็นสาขาของโรงเรียนอัสสัมชัญ ได้เปิดสอนที่สามเสน ใกล้กับวังเชิงสะพานเทเวศร์ จึงทรงย้ายมาเรียนที่โรงเรียนนี้ เมื่อทรงสอบไล่ได้ชั้นเตรียมแล้วก็ทรงย้ายไปศึกษาต่อที่โรงเรียนวัดเทพศิรินทร์ ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2466 ทรงเดินทางไปศึกษาต่อ ณ ประเทศอังกฤษ ในช่วงแรกทรงเรียนวิชาภาษาและวิชาสามัญอื่นๆ เป็นเวลา 2 ปี ครั้นถึงวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2468 ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนกฎหมายของประเทศอังกฤษ ที่มิดเดิลเทมเปิล ทรงเรียนจบหลักสูตรและทรงเป็นเนติบัณฑิตอังกฤษ เมื่อวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2470 หลังจากนั้นได้เสด็จกลับมายังประเทศไทย
หม่อมเจ้าเพลิงนภดล รพีพัฒน์ เข้ารับราชการที่กระทรวงยุติธรรมเป็นข้าราชการตุลาการ ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลแพ่ง[1] หลังจากนั้นได้โอนไปรับราชการที่กระทรวงการต่างประเทศ ดำรงตำแหน่งเลขานุการเอก ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ตั้งแต่ พ.ศ. 2499 ถึง พ.ศ. 2503 และหลังจากนั้นได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้หม่อมเจ้าเพลิงนภดล รพีพัฒน์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำประเทศอังกฤษ[2] ประจำ ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร[3] ในระหว่างปี พ.ศ. 2506 - พ.ศ. 2510
หม่อมเจ้าเพลิงนภดล เสกสมรสกับหม่อมเจ้าทรงอัปสร รพีพัฒน์ ท.จ.ว. (ราชสกุลเดิม กิติยากร; พระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ กับหม่อมเจ้าอัปษรสมาน กิติยากร) มีโอรสธิดา 3 คน คือ หม่อมราชวงศ์อคิน รพีพัฒน์ หม่อมราชวงศ์รพีพงษ์ รพีพัฒน์ และ หม่อมราชวงศ์อับษร โรกอซ
หม่อมเจ้าเพลิงนภดล รพีพัฒน์ สิ้นชีพิตักษัยเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2528 สิริชันษา 78 ปี ในการนี้สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานน้ำหลวงสรงศพหม่อมเจ้าเพลิงนภดล รพีพัฒน์ ณ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2528
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว, สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี, พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ และนาวาอากาศเอก วีระยุทธ ดิษยะศริน ไปในการพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2528 ณ เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร[4]
พงศาวลี
[แก้]| พงศาวลีของหม่อมเจ้าเพลิงนภดล รพีพัฒน์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
[แก้]หม่อมเจ้าเพลิงนภดล รพีพัฒน์ ทรงได้รับ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้งไทยและต่างประเทศ ดังนี้
ประเทศไทย
[แก้]- พ.ศ. 2510 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 2 ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก (ท.ช.)[5] - พ.ศ. 2508 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 2 ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย (ท.ม.)[6] - พ.ศ. 2510 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 2 ทุติยจุลจอมเกล้า (ท.จ.) (ฝ่ายหน้า)[7] - พ.ศ. 2507 –
เหรียญจักรพรรดิมาลา (ร.จ.พ.)[8] - พ.ศ. 2496 –
เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 9 ชั้นที่ 3 (ภ.ป.ร.3)[9] - พ.ศ. 2469 –
เหรียญบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 7 (ร.ร.ศ.7) - พ.ศ. 2493 –
เหรียญพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 9 (ร.ร.ศ.9) - พ.ศ. 2475 –
เหรียญเฉลิมพระนคร 150 ปี (ร.ฉ.พ.)
ต่างประเทศ
[แก้]
อาร์เจนตินา :
- พ.ศ. 2509 –
เครื่องอิสริยาภรณ์พฤษภาคม ชั้นที่ 1[10]
- พ.ศ. 2509 –
อ้างอิง
[แก้]- ↑ แจ้งความกระทรวงยุติธรรม เรื่อง ย้ายผู้พิพากษา เล่ม 56 หน้า 1457 ราชกิจจานุเบกษา วันที่ 21 สิงหาคม 2482
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศอังกฤษ เล่ม 80 ตอนที่ 17 ราชกิจจานุเบกษา 19 กุมภาพันธ์ 2506
- ↑ รายนามเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน (List of Ambassadors)
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ข่าวในพระราชสำนัก วันอังคารที่ ๒๐ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๒๘ เล่ม 102 ตอนที่ 118 วันที่ 3 พฤษภาคม 2528
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๘๔ ตอนที่ ๑๒๘ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๖๖๙, ๓๐ ธันวาคม ๒๕๑๐
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๘๒ ตอนที่ ๑๑๑ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒๕๔, ๒๓ ธันวาคม ๒๕๐๘
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๘๔ ตอนที่ ๔๑ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒๒, ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๑๐
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา, เล่ม ๘๑ ตอนที่ ๑๑๘ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๖๙๕, ๑๗ ธันวาคม ๒๕๐๗
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์, เล่ม ๗๐ ตอนที่ ๘๐ ง หน้า ๕๔๓๒, ๒๙ ธันวาคม ๒๔๙๖
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม ๘๓ ตอนที่ ๘๗ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒๐, ๑ ตุลาคม ๒๕๐๙