ข้ามไปเนื้อหา

อิซาเบล เนวิลล์ ดัชเชสแห่งแคลเรนซ์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เลดี้อิซาเบล เนวิลล์
ภาพวาดของอิซาเบลโดย Rous Roll, ราว ค.ศ. 1483
เกิด5 กันยายน ค.ศ. 1451
ปราสาทวอริก
อสัญกรรม22 ธันวาคม ค.ศ. 1476(1476-12-22) (25 ปี)
บรรดาศักดิ์ดัชเชสแห่งแคลเรนซ์
คู่สมรสจอร์จ แพลนแทเจเนต ดยุกที่ 1 แห่งแคลเรนซ์
บุตรมาร์กาเร็ต โพล เคาน์เตสที่ 8 แห่งซอลส์บรี
เอ็ดเวิร์ด แพลนทาเจเน็ท เอิร์ลที่ 17 แห่งวอริก
ขุนนางอังกฤษ - กษัตริย์อังกฤษ - ชาวอังกฤษ

อิซาเบล เนวิลล์ (Isabel Neville) (ประสูติ 5 กันยายน ค.ศ.1451 – สิ้นพระชนม์ 22 ธันวาคม ค.ศ.1476) เป็นขุนนางสตรีชาวอังกฤษผู้มีบทบาทสำคัญในช่วง สงครามดอกกุหลาบ (Wars of the Roses) เธอคือพระธิดาองค์โตของ ริชาร์ด เนวิลล์, เอิร์ลแห่งวอริกที่ 16 (Richard Neville, 16th Earl of Warwick) ขุนนางผู้ทรงอิทธิพลอย่างมากและเป็นที่รู้จักในนาม "ผู้สร้างกษัตริย์" (Kingmaker) และ แอนน์ โบว์แชมป์, เคาน์เตสแห่งวอริกที่ 16 (Anne Beauchamp, 16th Countess of Warwick) การอภิเษกสมรสของเธอกับ จอร์จ แพลนแทเจเนต, ดยุกแห่งแคลเรนซ์ที่ 1 (George Plantagenet, 1st Duke of Clarence) พระอนุชาของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 (Edward IV) ทำให้ความขัดแย้งในราชวงศ์ยิ่งซับซ้อนมากขึ้น และมีผลกระทบอย่างมากต่อชะตากรรมของราชวงศ์ยอร์ก

ชีวิตช่วงต้นและภูมิหลังครอบครัว

[แก้]

อิซาเบล เนวิลล์ ประสูติที่ปราสาทวอริก (Warwick Castle) และเติบโตมาในตระกูลเนวิลล์ ซึ่งเป็นหนึ่งในตระกูลขุนนางที่ร่ำรวยและทรงอำนาจที่สุดในอังกฤษ ครอบครัวของเธอมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการเมือง โดยเป็นผู้หนุนหลังราชวงศ์ยอร์กในการต่อสู้กับราชวงศ์แลงคาสเตอร์

เธอมีพระขนิษฐา (น้องสาว) หนึ่งคน คือ แอนน์ เนวิลล์ (Anne Neville) ซึ่งต่อมาได้เป็นพระชายาของเอ็ดเวิร์ดแห่งเวสต์มินสเตอร์ (Edward of Westminster) รัชทายาทแห่งราชวงศ์แลงคาสเตอร์ และภายหลังได้เป็นสมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ ในฐานะพระมเหสีของพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 ความสัมพันธ์ของบุตรสาวทั้งสองกับเอิร์ลแห่งวอริกผู้เป็นบิดานั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเมืองยุคสงครามดอกกุหลาบ เพราะเขาได้ใช้พวกเธอเป็นหมากทางการเมืองเพื่อสร้างพันธมิตรและขยายอิทธิพลของตนเอง

ปราสาทวอริก สถานที่ประสูติและหนึ่งในที่พำนักสำคัญของอิซาเบล เนวิลล์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางอำนาจของตระกูลเนวิลล์ผู้ทรงอิทธิพล

การอภิเษกสมรสกับจอร์จ, ดยุกแห่งแคลเรนซ์

[แก้]

เอิร์ลแห่งวอริก บิดาของอิซาเบล ได้จัดแจงให้มีการอภิเษกสมรสระหว่างอิซาเบลกับ จอร์จ แพลนแทเจเนต ดยุกที่ 1 แห่งแคลเรนซ์ ซึ่งเป็นพระอนุชาของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 จุดประสงค์ของการแต่งงานครั้งนี้คือเพื่อสร้างพันธมิตรทางการเมืองที่แข็งแกร่ง และอาจถึงขั้นใช้จอร์จเป็นหุ่นเชิดในการโค่นล้มพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 ในเวลาต่อมา

พิธีอภิเษกสมรสจัดขึ้นอย่างลับๆ ที่เมืองกาเลส์ (Calais) ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ค.ศ.1469 โดยจอร์จและเอิร์ลแห่งวอริกเป็นผู้วางแผน การกระทำนี้ถือเป็นการท้าทายอำนาจของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 อย่างชัดเจน เนื่องจากกษัตริย์ไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้ ซึ่งนำไปสู่ความแตกหักอย่างรุนแรงระหว่างวอริกกับพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 และเป็นชนวนให้เกิดการกบฏขึ้นในอังกฤษ

อิซาเบลและจอร์จมีบุตรด้วยกันสี่คน คือ

  • แอนน์ แห่งแคลเรนซ์ (Anne of Clarence) (ค.ศ.1470) เสียชีวิตในวัยทารก
  • แมรี แห่งแคลเรนซ์ (Mary of Clarence) (ค.ศ.1473) เสียชีวิตในวัยทารก
  • มาร์กาเร็ต โพล, เคาน์เตสแห่งซอลส์บรี (Margaret Pole, Countess of Salisbury) (ค.ศ.1473–1541) เป็นบุตรที่รอดชีวิตมาได้และต่อมาเป็นบุคคลสำคัญในราชสำนักทิวดอร์ ในรัชสมัยของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 (Henry VIII) แต่ถูกประหารชีวิตในที่สุด
  • เอ็ดเวิร์ด แพลนแทเจเนต, เอิร์ลแห่งวอริกที่ 17 (Edward Plantagenet, 17th Earl of Warwick) (ค.ศ.1475–1499) ถูกคุมขังโดยพระเจ้าเฮนรี่ที่ 7 และถูกประหารชีวิตในภายหลัง
จอร์จ แพลนแทเจเนต, ดยุกแห่งแคลเรนซ์ กับอิซาเบล เนวิลล์

บทบาทในการกบฏของวอริก

[แก้]

อิซาเบลมีส่วนเกี่ยวข้องโดยอ้อมกับการกบฏของบิดา เธอติดตามสามีและบิดาในการหลบหนีและกลับมายังอังกฤษหลายครั้ง ในช่วงที่เอิร์ลแห่งวอริกเปลี่ยนข้างไปสนับสนุนราชวงศ์แลงคาสเตอร์ เพื่อโค่นล้มพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 ชีวิตของเธอผันผวนอย่างมากตามความเปลี่ยนแปลงของอำนาจทางการเมือง ในช่วงหนึ่ง เธอและสามีต้องลี้ภัยไปยังประเทศฝรั่งเศส และบุตรคนแรกของเธอก็เสียชีวิตระหว่างการเดินทางทางทะเล

แม้เธอจะไม่ได้มีบทบาทบัญชาการโดยตรง แต่การอภิเษกสมรสของเธอนั้นเป็นแกนหลักของการสร้างพันธมิตรที่เอื้อให้วอริกสามารถท้าทายอำนาจของกษัตริย์ได้ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อสงครามดอกกุหลาบ

ริชาร์ด เนวิลล์ เอิร์ลแห่งวอริก "ผู้สร้างกษัตริย์" บิดาของอิซาเบล เนวิลล์ ผู้มีบทบาทสำคัญในการกบฏ

บั้นปลายพระชนม์ชีพและการสิ้นพระชนม์

[แก้]

หลังจากที่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 กลับมาครองราชย์ได้อย่างมั่นคง ในปี ค.ศ.1471 และเอิร์ลแห่งวอริกพ่ายแพ้และเสียชีวิตในยุทธการที่บาร์เน็ต (Battle of Barnet) จอร์จ ดยุกแห่งแคลเรนซ์และอิซาเบลกลับมาและได้รับอภัยโทษจากกษัตริย์ และใช้ชีวิตในฐานะขุนนางผู้ทรงอำนาจอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างจอร์จกับพระเชษฐา (พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4) ยังคงตึงเครียดและเต็มไปด้วยความไม่ไว้วางใจ

อิซาเบล เนวิลล์ สิ้นพระชนม์ ที่ปราสาทวอริก (Warwick Castle) ในวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ.1476 สิริอายุเพียง 25 ปีเท่านั้น สาเหตุการเสียชีวิตของเธอเป็นที่ถกเถียงกันในหมู่นักประวัติศาสตร์ มีการสันนิษฐานว่าเกิดจากภาวะแทรกซ้อนจากการคลอดบุตรคนที่สี่ (เอ็ดเวิร์ด) หรือจากการป่วยด้วยโรคไข้หวัดหลังคลอด (childbed fever) อย่างไรก็ตาม สามีของเธอ จอร์จ ดยุกแห่งแคลเรนซ์ เชื่อว่าเธอถูกวางยาพิษ และได้กล่าวหาหนึ่งในเพื่อนร่วมงานของอิซาเบลว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการเสียชีวิตของเธอ ข้อกล่าวหานี้เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 สั่งจำคุกและประหารชีวิตจอร์จ ดยุกแห่งแคลเรนซ์ในเวลาต่อมา ในปี ค.ศ.1478

ยุทธการที่บาร์เน็ต ซึ่งเอิร์ลแห่งวอริกพ่ายแพ้และเสียชีวิตในปี ค.ศ.1471
ปราสาทวอริก สถานที่สิ้นพระชนม์ของอิซาเบล เนวิลล์ ในปี ค.ศ. 1476





มรดก

[แก้]

อิซาเบล เนวิลล์ ทิ้งมรดกสำคัญไว้ในประวัติศาสตร์อังกฤษ แม้ชีวิตของเธอจะสั้นและเต็มไปด้วยความผันผวน การอภิเษกสมรสของเธอเป็นชนวนความขัดแย้งที่สำคัญระหว่างพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 กับเอิร์ลแห่งวอริก ซึ่งส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อทิศทางของสงครามดอกกุหลาบ บุตรธิดาของเธอ โดยเฉพาะ มาร์กาเร็ต โพล และเอ็ดเวิร์ด เอิร์ลแห่งวอริก ได้รับบทบาทสำคัญและโศกนาฏกรรมในประวัติศาสตร์อังกฤษยุคราชวงศ์ทิวดอร์ พวกเขาถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามที่ยังคงอยู่ต่อบัลลังก์ของพระเจ้าเฮนรีที่ 7 และถูกประหารชีวิตในรัชสมัยต่อมา ทำให้สายเลือดแพลนแทเจเนตสายตรงจากจอร์จ ดยุกแห่งแคลเรนซ์ สิ้นสุดลง

พงศาวลี

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]