ข้ามไปเนื้อหา

เขตผู้ว่าราชการมอนเตเนโกรของอิตาลี

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เขตผู้ว่าราชการมอนเตเนโกร

ค.ศ. 1941–1943
ธงชาติ
เขตผู้ว่าราชการมอนเตเนโกรใน ค.ศ. 1942
เขตผู้ว่าราชการมอนเตเนโกรใน ค.ศ. 1942
เมืองหลวงเซติเญ
42°23′22″N 18°55′23″E / 42.38944°N 18.92306°E / 42.38944; 18.92306
ภาษาทั่วไปอิตาลี, เซอร์เบีย-โครเอเชีย
ศาสนา
อีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์
โรมันคาทอลิก
ซุนนี
การปกครองเขตผู้ว่าราชการ
ผู้ว่าราชการ 
 ค.ศ. 1941
เซราฟีโน มัซโซลีนี[a]
 ค.ศ. 1941–1943
อาเลสซันโดร ปีร์ซีโอ บีโรลี
 ค.ศ. 1943
กูรีโอ บาร์บาเซตตี ดี ปรุน
นายกรัฐมนตรี 
 กรกฎาคม ค.ศ. 1941
Sekula Drljević[1]
ประธานคณะกรรมการแห่งชาติ 
 ค.ศ. 1942–1943
Blažo Đukanović
ยุคประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่สอง
18 เมษายน ค.ศ. 1941
 ประกาศอิสรภาพ
12 กรกฎาคม ค.ศ. 1941
13 กรกฎาคม ค.ศ. 1941
 ยกเลิกความเป็นอิสรภาพ
24 กรกฎาคม ค.ศ. 1941
 ก่อตั้งเขตผู้ว่าราชการ
3 ตุลาคม ค.ศ. 1941
12 กันยายน ค.ศ. 1943
ประชากร
 ค.ศ. 1941
411,000 คน
สกุลเงินดีนาร์ยูโกสลาฟ
ลีรา
ก่อนหน้า
ถัดไป
ราชอาณาจักร
ยูโกสลาเวีย
มอนเตเนโกรในการยึดครองของเยอรมนี
ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของมอนเตเนโกร
เซอร์เบีย

เขตผู้ว่าราชการมอนเตเนโกรของอิตาลี (อิตาลี: Governatorato del Montenegro) เป็นดินแดนยึดครองภายใต้รัฐบาลทหารของฟาสซิสต์อิตาลีในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ดำรงอยู่ระหว่างเดือนตุลาคม ค.ศ. 1941 ถึงเดือนกันยายน ค.ศ. 1943 แม้ว่าอิตาลีจะมีความปรารถนาที่จะจัดตั้งราชอาณาจักรมอนเตเนโกรในฐานกึ่งเอกราช แต่แผนการนี้ได้ยุติลงอย่างถาวรภายหลังการก่อการกำเริบของประชาชนในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1941[2][3][4] และหลังจากการยอมจำนนของอิตาลีในเดือนกันยายน ค.ศ. 1943 กองทัพเยอรมันจึงเข้ายึดครองมอนเตเนโกรจนกระทั่งถอนทัพออกไปในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1944

การบริหาร

[แก้]
การแบ่งเขตการปกครองของเขตผู้ว่าราชการมอนเตเนโกร (ค.ศ. 1941)

ในช่วงแรกดินแดนอยู่ภายใต้การยึดครองทางทหาร ซึ่งความตั้งใจของอิตาลีในช่วงต้นนั้น คือการทำให้มอนเตเนโกรเป็นรัฐกึ่งเอกราชที่มีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับอิตาลี และได้มีการแต่งตั้งมัซโซลีนีเป็นกรรมาธิการเพื่อจัดการกิจการพลเรือน แต่หลังจากการประกาศเอกราชที่ล้มเหลวและการปราบปรามการจลาจลที่เกิดขึ้น บีโรลีจึงได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ว่าราชการดินแดน[3] ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "เขตผู้ว่าราชการมอนเตเนโกร" (อิตาลี: Governatorato del Montenegro)[3][5] บีโรลีและผู้สืบทอดตำแหน่งต่อมาอย่างเคานต์ กูรีโอ บาร์บาเซตตี ดี ปรุน มีอำนาจควบคุมทางทหารและพลเรือนของดินแดนอย่างเบ็ดเสร็จ[3] และในส่วนของการบริหารราชการพลเรือน ยังคงมีการใช้ระบบเขตและเทศบาลที่ใช้มาตั้งแต่สมัยยูโกสลาเวีย เพื่อหลีกเลี่ยงความโกลาหลในการบริหาร โดยอิตาลีจะเข้ามามีอำนาจแทนที่ทางการของแคว้นนั้น ๆ[6]

หมายเหตุ

[แก้]
  1. ในฐานะข้าหลวงใหญ่

อ้างอิง

[แก้]
  1. Roberts 2007, p. 353.
  2. Rodogno 2006, pp. 134–136.
  3. 1 2 3 4 Tomasevich 1975, p. 103.
  4. Lemkin 2008, p. 590.
  5. Pavlowitch 2007, p. 113.
  6. Rodogno 2006, p. 101.

บรรณานุกรม

[แก้]