เจ้าหญิงลัลลา ซัลมา
| เจ้าหญิงลัลลา ซัลมา | |
|---|---|
| เจ้าหญิงพระชายา | |
เจ้าหญิงลัลลา ซัลมา เมื่อ พ.ศ. 2555 | |
| ประสูติ | 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2521 แฟ็ส ประเทศโมร็อกโก |
| พระภัสดา | สมเด็จพระราชาธิบดีมุฮัมมัดที่ 6 (พ.ศ. 2545–2561) |
| พระบุตร | เจ้าชายมูลัย ฮะซัน มกุฎราชกุมารแห่งโมร็อกโก เจ้าหญิงลัลลา เคาะดีญะฮ์ |
| ราชวงศ์ | อะลาวีย์ (เสกสมรส) |
| พระบิดา | อับเดลฮามิด เบนนานี |
| พระมารดา | ไนมา เบนเซาดา |
เจ้าหญิงลัลลา ซัลมา (อาหรับ: الأميرة للا سلمى; เบอร์เบอร์: ⵍⴰⵍⵍⴰ ⵙⵍⵎⴰ) หรือพระนามเดิมว่า ซัลมา เบนนานี (อาหรับ: سلمى بنّاني; ประสูติ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2521) เป็นอดีตเจ้าหญิงพระชายา[1]พระองค์แรกในสมเด็จพระราชาธิบดีมุฮัมมัดที่ 6 พระมหากษัตริย์แห่งโมร็อกโกพระองค์ปัจจุบัน ถือเป็นเจ้าหญิงพระชายาพระองค์แรกของประวัติศาสตร์โมร็อกโกที่รับการสถาปนาขึ้นเป็นเจ้านายชั้นรอยัลไฮนิส[2][3][4][5][6] แต่หลังเจ้าหญิงลัลลา ซัลมา ไม่ปรากฏพระองค์อย่างเป็นทางการมาตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ. 2560 เป็นต้นมา[7][8] ทำให้การคาดเดากันว่าสมเด็จพระราชาธิบดีกับเจ้าหญิงพระชายาทรงหย่าร้างกัน[9][10]
พระประวัติ
[แก้]พระประวัติตอนต้นและการศึกษา
[แก้]เจ้าหญิงลัลลา ซัลมา มีพระนามเดิมว่า ซัลมา เบนนานี ประสูติเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2521 ณ เมืองแฟ็ส ประเทศโมร็อกโก[11][12] ในครอบครัวชนชั้นกลางระดับสูง[13][14] เป็นธิดาของเอลฮัจญ์ อับเดลฮามิด เบนนานี กับไนมา เบนเซาดา[15] พระชนกเป็นครูระดับมัธยมศึกษาในเมืองแฟ็ส[16][17] ส่วนพระชนนีเสียชีวิตไปเมื่อพระองค์มีพระชันษาได้สามปี ลัลลา ซัลมา และเมเรียม (Meriem) น้องสาว (ต่อมาได้เป็นแพทย์หญิง)[18] จึงอยู่การดูแลของฟัตมา อับเดลลาวี มาอ์เน (Fatma Abdellaoui Maâne) ผู้เป็นยาย[13][19] ขณะพระองค์ประทับอยู่ในกรุงราบัต ทรงอาศัยร่วมกับพระญาติชื่อ ไซรอ (Saira) โดยทั้งสองจะออกไปไหนด้วยกันเสมอ[2][20] ทั้งนี้สายสกุลเบนนานีของพระองค์ สืบเชื้อสายมาจากชาวยิวในเมืองแฟ็สที่เข้ารีตศาสนาอิสลาม[21] และไม่ได้สืบสันดานมาจากชาวเบอร์เบอร์[22] ขณะที่ลัลลา ซัลมา ทรงระบุพระองค์ว่าเป็นชาวเบอร์เบอร์มาโดยตลอด[23]
เจ้าหญิงลัลลา ซัลมา ทรงเข้ารับการศึกษาจากลีเซฮะซันที่ 2 (ฝรั่งเศส: Lycée Hassan II) และลีเซมูลัยยูซุฟ (ฝรั่งเศส: Lycée Moulay Youssef) ซึ่งทั้งสองต่างเป็นโรงเรียนเอกชน ก่อนเข้าศึกษาระดับอุดมศึกษาที่วิทยาลัยสารสนเทศและการวิเคราะห์ระบบแห่งชาติ (ฝรั่งเศส: l'École Nationale Supérieure d'Informatique et d'Analyse de Systèmes)[15][24] จนสำเร็จการศึกษาสาขาวิศวกรรมศาสตร์ (คอมพิวเตอร์) ในปี พ.ศ. 2543 โดยพระองค์มีคะแนนสูงสุดในปีนั้น[3]
เจ้าหญิงลัลลา ซัลมา สามารถรับสั่งภาษาอาหรับ และภาษาฝรั่งเศส ภายหลังพระองค์ศึกษาภาษาสเปนเพิ่มเติมอีกภาษาหนึ่ง[25]
อภิเษกสมรส
[แก้]พระองค์พบกับสมเด็จพระราชาธิบดีมุฮัมมัดที่ 6 ครั้งแรกในงานเลี้ยงเมื่อปี พ.ศ. 2542 ขณะที่พระองค์ทำงานบริการสารสนเทศด้านวิศวกรรมในโอเอ็นเอกรุป (ONA Group) ที่พระราชวงศ์โมร็อกโกถือหุ้นส่วนใหญ่ สมเด็จพระราชาธิบดีมุฮัมมัดที่ 6 ทรงหมั้นหมายกับซัลมาเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2544[26] ต่อมาได้จัดพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสเมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2545 และพระราชพิธีฉลองราชาภิเษกสมรสเมื่อวันที่ 12–13 กรกฎาคม พ.ศ. 2545[24][27] ณ พระราชวังในราบัต[28] ซัลมาได้รับการสถาปนาให้พระอิสริยยศเป็น เจ้าหญิงลัลลา ซัลมา พระชายา ในปีเดียวกัน มีพระราชโอรสและพระราชธิดา 2 พระองค์ คือ
- เจ้าชายมูลัย ฮะซัน มกุฎราชกุมารแห่งโมร็อกโก (8 พฤษภาคม พ.ศ. 2546)[29][30]
- เจ้าหญิงลัลลา เคาะดีญะฮ์ (28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550)[31]
การอภิเษกสมรสครั้งนี้ถือเป็นการสมรสต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์โมร็อกโก และเป็นพระชายาพระองค์แรกของกษัตริย์โมร็อกโกที่ได้รับพระอิสริยยศเป็น เจ้าหญิงลัลลา ซัลมา ซึ่งตามพระราชธรรมเนียมดั้งเดิม จะออกนามของพระชายาในกษัตริย์โมร็อกโกว่า "พระชนนีของพระราชบุตร" และปกปิดข้อมูลส่วนพระองค์ของเจ้าฝ่ายในต่อสาธารณชน[32][33] นอกจากนี้ลัลลา ซัลมา มาจากสกุลที่ต่ำต้อย และไม่ได้มาจากสายสกุลที่มีชื่อเสียง[34] ซึ่งโดยปรกติเจ้านายโมร็อกโกจะมีธรรมเนียมการเสกสมรสกับเผ่าซาเยน ซึ่งเป็นชาวเบอร์เบอร์ชั้นสูง[35] ด้วยเหตุนี้การอภิเษกสมรสกับลัลลา ซัลมา ซึ่งเป็นหญิงสามัญชนที่ไม่มีเชื้อสายเบอร์เบอร์ หรือเป็นธิดาของหัวหน้าเผ่าเบอร์เบอร์ นับเป็นเรื่องใหม่ของประวัติศาสตร์โมร็อกโกหลังได้รับเอกราช ทำให้มุมมองเกี่ยวกับการอภิเษกสมรสกับบุคคลสำคัญของเผ่าเบอร์เบอร์เพื่อสร้างพันธมิตรกับราชสำนักนั้นกลายเป็นเรื่องพ้นสมัยไป[22]
ทรงหย่า
[แก้]สื่อบางแหล่งให้ข้อมูลว่า สมเด็จพระราชาธิบดีมุฮัมมัดที่ 6 กับเจ้าหญิงลัลลา ซัลมา ทรงหย่าร้างกันใน พ.ศ. 2561[36][37] โดยเจ้าหญิงลัลลา ซัลมา ปรากฏพระองค์เป็นครั้งสุดท้ายในการประกอบพระกรณียกิจที่ศูนย์เนื้องอกวิทยาในฐานะองค์ประธานมูลนิธิลัลลา ซัลมา เพื่อต่อต้านโรคมะเร็ง เมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2562[38] และเจ้าหญิงลัลลา ซัลมา ปรากฏพระองค์อีกครั้งร่วมกับพระราชโอรส-ธิดาบริเวณเซ็นทรัลพาร์ก นิวยอร์ก ท่ามกลางการอารักขาของเหล่าบอดีการ์ดหลายนาย เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2562[39] จากการที่พระองค์ห่างหายไปจากสายตาของสาธารณชน สื่อบางแห่งตั้งฉายาให้เจ้าพระองค์ว่า "เจ้าหญิงผี" (Ghost Princess)[40]
พระกรณียกิจ
[แก้]
แม้ว่าเจ้าหญิงลัลลา ซัลมา จะเป็นเจ้านายฝ่ายในพระองค์แรก ๆ ที่มีบทบาทต่อสาธารณชนมากกว่าฝ่ายในรุ่นก่อน ตามพระราชประสงค์ของสมเด็จพระราชาธิบดีมุฮัมมัดที่ 6 ที่สนับสนุนบทบาทของสตรี และยกย่องพระชายายิ่งกว่ากษัตริย์รุ่นก่อน[41] แต่กระนั้นข้อมูลส่วนพระองค์กลับไม่เป็นที่ทราบมากนัก ทั้งนี้พระองค์ทรงออกมาประกอบพระกรณียกิจแบ่งเบาพระราชภาระของพระราชสวามีอยู่เนืองนิจ เช่น การสนับสนุนมูลนิธิต่อต้านมะเร็ง และงานเทศกาลดนตรีศักดิ์สิทธิ์เมืองแฟ็ส เป็นต้น[42]
ในปี พ.ศ. 2549 พระองค์เสด็จเป็นผู้แทนพระองค์ในพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีของไทย[3][43] และในปี พ.ศ. 2554 ได้เสด็จเป็นผู้แทนพระองค์ในพระราชพิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าชายวิลเลียมกับแคเธอริน มิดเดิลตัน ของสหราชอาณาจักร[44]
นอกจากนี้ทรงก่อตั้งมูลนิธิต่อต้านโรคมะเร็งภายในประเทศ[45]
พระเกียรติยศ
[แก้]พระอิสริยยศ
[แก้]- พ.ศ. 2521–2546 : นางสาวซัลมา เบนนานี
- พ.ศ. 2546–2561 : เจ้าหญิงลัลลา ซัลมา พระชายา
- พ.ศ. 2561–ปัจจุบัน : เจ้าหญิงลัลลา ซัลมา
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
[แก้]- ต่างประเทศ
อ้างอิง
[แก้]- ↑ ราชอาณาจักรโมร็อกโก : การเยือนที่สำคัญ เก็บถาวร 2011-10-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. กระทรวงการต่างประเทศ (ประเทศไทย)
- 1 2 Profile เก็บถาวร 2009-02-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, nettyroyal.nl; accessed 20 September 2014.
- 1 2 3 "ชื่นชมพระสิริโฉม 2 พระราชอาคันตุกะวัยเยาว์". ASTV ผู้จัดการออนไลน์. 14 มิถุนายน 2549. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-05. สืบค้นเมื่อ 20 กันยายน 2558.
{{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=(help) - ↑ Saad719 (2018-05-10). "Princess Lalla Salma of Morocco". The Royal Watcher (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2022-05-01.
- ↑ "First Lady of Morocco | Current Leader". Current Heads of State & Dictators | Photos and bios of the current Heads of State, Dictators and First Ladies. 2009-05-25. สืบค้นเมื่อ 2022-05-01.
- ↑ McLaughlin, Chelsea (2019-02-25). "As Meghan and Harry tour Morocco, the mystery of its missing Princess looms in the background". Mamamia (ภาษาอังกฤษแบบออสเตรเลีย). สืบค้นเมื่อ 2022-05-01.
- ↑ "'Vanished without a trace': Mystery of Morocco's 'ghost princess'". NZ Herald (ภาษาNew Zealand English). สืบค้นเมื่อ 2022-05-01.
- ↑ "Where is Morocco's Princess Lalla Salma now?". South China Morning Post (ภาษาอังกฤษ). 2022-03-17. สืบค้นเมื่อ 2022-05-01.
- ↑ Brittani Barger (14 April 2018). "What's next for Princess Lalla Salma after rumoured divorce from the Moroccan King?".
- ↑ "'The Ghost Princess': Where has the First Lady of Morocco Disappeared?". Al Bawaba (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2022-05-01.
- ↑ "Princess Lalla Salma of Morocco turns 36: facts about the royal". Hello! (ภาษาอังกฤษ). 2014-05-10. สืบค้นเมื่อ 2021-12-02.
- ↑ "RWB" (ภาษาฝรั่งเศส). Reporters sans frontières (Morocco)/VSD. 7 March 2002. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 December 2003. สืบค้นเมื่อ 28 August 2015.
During March, His Majesty Mohammed VI will get married. The lucky winner, Salma Bennani, is a young woman of 25, native of Fez and from the upper middle class
- 1 2 Boum, Aomar; Park, Thomas K. (2016-06-02). Historical Dictionary of Morocco (ภาษาอังกฤษ). Bloomsbury Publishing PLC. p. 300. ISBN 978-1-4422-6297-3.
- ↑ Cohen, Shana; Jaidi, Larabi (2014-06-03). Morocco: Globalization and Its Consequences (ภาษาอังกฤษ). Routledge. p. 89. ISBN 978-1-317-79394-6.
- 1 2 3 The Alawi Dynasty – Genealogy – website The Royal Ark
- ↑ "Maroc : Lalla Salma, la princesse aux pieds nus – Jeune Afrique". JeuneAfrique.com (ภาษาฝรั่งเศส). สืบค้นเมื่อ 2022-06-10.
- ↑ "ราชวงศ์และสามัญชน: เทพนิยายที่กลายเป็นจริง". มติชนออนไลน์. 21 เมษายน 2554. สืบค้นเมื่อ 14 มกราคม 2559.
{{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=(help) - ↑ "Le mystère Lalla Salma" [The mystery of Lalla Salma]. JeuneAfrique.com (ภาษาฝรั่งเศส). สืบค้นเมื่อ 2025-04-30.
- ↑ "Mamman fick aldrig se Salma bli prinsessa". Svensk Damtidning (ภาษาสวีเดน). 2016-01-02. สืบค้นเมื่อ 2025-06-09.
- ↑ "Who is Princess Lalla Salma of Morocco?". Royal Central (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2018-05-10. สืบค้นเมื่อ 2022-05-01.
- ↑ Miller, Susan Gilson (auth). Fleet, Kate; Krämer, Gudrun; Matringe, Denis; Nawas, John; Rowson, Everett (บ.ก.). "al-Bannānī family". Encyclopaedia of Islam (3rd ed.). Brill Online. doi:10.1163/1573-3912_ei3_COM_23023. ISSN 1873-9830. "The Bannānī family of Morocco were originally converts to Islam from Judaism, who belonged to a social category known as bildiyyīn (“people of the town”)... In 2002 Salmā Bannānī (b. 1978) of the Fez branch of the family, a computer engineer by profession, married King Muḥammad VI (who ascended the throne in 1999) and became the first wife of a Moroccan ruler to be given a royal title."
- 1 2 Maddy-Weitzman, Bruce (2011-05-01). The Berber Identity Movement and the Challenge to North African States (ภาษาอังกฤษ). University of Texas Press. p. 156. ISBN 978-0-292-72587-4.
From the angle of Berber-Palace relations, Mohamed’s decision to marry a woman from an urban, non-Berber background, instead of a daughter of one of the Berber tribal leaders, constituted a significant break from the tradition of the monarch’s marrying the daughter of a rural Berber notable. However, while it indicated that the old post-independence formula of the monarchy’s aligning with rural Berber notables was now less relevant, or at least less dependent on such Solomonic practices as sealing political alliances through marriage, it did not signify the end of the alliance. Rather, the Berber-Palace bond was revamped and expanded into the intellectual and cultural spheres.
- ↑ Poel, Ieme van der (2022-09-15). New Literary Voices of the Moroccan Diaspora: Republic of Cousins (ภาษาอังกฤษ). Liverpool University Press. ISBN 978-1-80207-122-1.
Moreover, claiming one's Berber roots has become quite fashionable in Morocco nowadays. So, it is often said that Princess Lalla Salma Bennani, the princess consort, is of Berber origin.
- 1 2 "Who is Princess Lalla Salma of Morocco?". Royal Central (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2018-05-10. สืบค้นเมื่อ 2021-12-02.
- ↑ "Le Marocain Elie Mamane dit tout sur sa rencontre avec Mohammed VI à Miami". Le 360 Français (ภาษาฝรั่งเศส). สืบค้นเมื่อ 2024-09-18.
- ↑ "L'annonce du prochain mariage de Mohammed VI lève une hypothèque au Maroc". Le Monde.fr (ภาษาฝรั่งเศส). 2001-10-15. สืบค้นเมื่อ 2022-06-05.
- ↑ "King Mohamed VI of Morocco sits with his wife Princess Lalla Salma at..." Getty Images (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2022-06-05.
- ↑ "King Mohammed VI of Morocco and Princess Lalla Salma divorce". HELLO! (ภาษาอังกฤษ). 2018-03-22. สืบค้นเมื่อ 2022-05-01.
- ↑ "La Famille Royale et le peuple marocain célèbrent la naissance de S.A.R le Prince Héritier Moulay Al Hassan". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-16. สืบค้นเมื่อ 2010-01-16.
- ↑ "สดใสน่ารักเกินห้ามใจ!! พระราชวงศ์จิ๋วยุคใหม่". ไทยรัฐออนไลน์. 3 มกราคม 2558. สืบค้นเมื่อ 21 กันยายน 2558.
{{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=(help) - ↑ "พระชายากษัตริย์โมร็อกโกมีพระประสูติกาลพระราชธิดา". กระปุกดอตคอม. สืบค้นเมื่อ 21 กันยายน 2558.
{{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=(help) - ↑ Howe, Marvine (2005-06-30). Morocco: The Islamist Awakening and Other Challenges (ภาษาอังกฤษ). Oxford University Press, USA. pp. 21–23. ISBN 978-0-19-516963-8.
- ↑ Halverson, Jeffry; Greenberg, Nathaniel (2017-10-05). Islamists of the Maghreb (ภาษาอังกฤษ). Routledge. ISBN 978-1-351-60510-6.
- ↑ Evrard, Amy Young (2014-06-09). The Moroccan Women's Rights Movement (ภาษาอังกฤษ). Syracuse University Press. p. 112. ISBN 978-0-8156-5263-2.
- ↑ Jansen, M. Angela (2016-05-19). Moroccan Fashion: Design, Tradition and Modernity (ภาษาอังกฤษ). Bloomsbury Academic. p. 21. ISBN 978-1-4742-8522-3.
- ↑ Owen-Jones, Juliette (21 July 2019). "King Mohammed VI, Ex-Wife Lalla Salma Deny Rumors of Custody Conflict". Morocco World News (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 29 August 2022.
- ↑ "คนของโลก : สมเด็จพระราชาธิบดีโมฮัมเหม็ดที่ 6 กษัตริย์ผู้เปิดรับความเปลี่ยนแปลง". มติชนสุดสัปดาห์. 6 สิงหาคม 2562. สืบค้นเมื่อ 27 ธันวาคม 2565.
{{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=(help) - ↑ Diallo, Abubakr (22 June 2022). "Les Marocains condamnés à définitivement oublier Lalla Salma ?" [Are Moroccans condemnned to forget Lalla Salma for good?]. Afrik (ภาษาฝรั่งเศส). สืบค้นเมื่อ 29 August 2022.
- ↑ "เจ้าหญิงหายไปไหน?!". ไทยรัฐออนไลน์. 7 พฤษภาคม 2565. สืบค้นเมื่อ 27 ธันวาคม 2565.
{{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=(help) - ↑ Sophie Mccabe (21 สิงหาคม 2565). "Royal mystery: Moroccan King's missing wife who became the 'ghost princess'". Express (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 27 ธันวาคม 2565.
{{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=(help) - ↑ ศศิภัทรา ศิริวาโท (พฤษภาคม 2554). "ความรุนแรงต่อผู้หญิงในโมร็อกโก". นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-05. สืบค้นเมื่อ 21 กันยายน 2558.
{{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=(help) - ↑ The Royal Order of Sartorial Splendor: Princess Lalla Salma Gets Ethereal. Orderofsplendor.blogspot.co.uk (4 June 2010); retrieved 9 April 2012.
- ↑ "คาซาบลังกา". กรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา. 7 มิถุนายน 2554. สืบค้นเมื่อ 21 กันยายน 2558.
{{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=(help)[ลิงก์เสีย] - ↑ The Royal Order of Sartorial Splendor: Royal Fashion Awards: Foreign Royals at the Duke & Duchess of Cambridge's Wedding. Orderofsplendor.blogspot.co.uk (29 April 2011); retrieved 9 April 2012.
- ↑ Lalla Salma Association Against Cancer เก็บถาวร 2012-05-29 ที่ archive.today – website UICC
- ↑ Boletín Oficial del Estado
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]
วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ เจ้าหญิงลัลลา ซัลมา- เว็บไซต์ส่วนพระองค์