ดาบพิฆาตอสูร: ภาคปราสาทไร้ขอบเขต
| ดาบพิฆาตอสูร: ภาคปราสาทไร้ขอบเขต | |
|---|---|
ใบปิดภาพยนตร์ | |
| คันจิ | 劇場版「鬼滅の刃」無限城編 |
| เฮ็ปเบิร์นปรับปรุง | Gekijō-ban Kimetsu no Yaiba: Mugen-jō-hen |
| กำกับ | ฮารูโอะ โซโตซากิ |
| บทภาพยนตร์ | ยูโฟเทเบิล |
| สร้างจาก | ดาบพิฆาตอสูร โดย โคโยฮารุ โกโตเกะ |
| อำนวยการสร้าง |
|
| นักแสดงนำ | |
| กำกับภาพ | ยูอิจิ เทราโอ |
| ตัดต่อ | มานาบุ คามิโนะ |
| ดนตรีประกอบ | |
| บริษัทผู้สร้าง |
|
| ผู้จัดจำหน่าย |
|
| วันฉาย |
|
| ความยาว | 155 นาที (องก์ที่ 1) |
| ประเทศ | ญี่ปุ่น |
| ภาษา | ญี่ปุ่น |
| ทำเงิน | 555 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[1] |
ดาบพิฆาตอสูร: ภาคปราสาทไร้ขอบเขต (ญี่ปุ่น: 劇場版「鬼滅の刃」無限城編 โรมาจิ: Gekijō-ban Kimetsu no Yaiba: Mugen Jō-hen) เป็นภาพยนตร์อนิเมะญี่ปุ่นไตรภาคแนวโลดโผน-จินตนิมิตมืด สร้างจากภาค "ปราสาทไร้ขอบเขต" ของซีรีส์มังงะ พ.ศ. 2559-2563 เรื่อง ดาบพิฆาตอสูร โดยโคโยฮารุ โกโตเงะ เป็นภาคต่อโดยตรงของดาบพิฆาตอสูร ฤดูกาลที่ 4 ซึ่งเป็นซีรีส์อนิเมะทางโทรทัศน์ของชื่อเดียวกัน เรื่องราวติดตามนักล่าอสูร คามาโดะ ทันจิโร่ ในภารกิจโค่นล้มคิบุซึจิ มุซัน ต้นตอของเหล่าอสูร โดยได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยพิฆาตอสูรทั้งหมด แต่แล้วทันจิโร่และทุก ๆ คน ถูกดึงเข้าไปที่ปราสาทไร้ขอบเขต อาณาเขตของมุซันและเหล่าอสูร เพื่อที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะต้องถูกล้างบางให้สิ้นซาก
อะนิเพล็กซ์ และ โตโฮ มีกำหนดฉายภาพยนตร์องก์ที่ 1 ในประเทศญี่ปุ่นวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ขณะที่ในหลายประเทศรวมถึงประเทศไทย ครันชีโรลล์ จะจัดจำหน่ายผ่าน โซนี่พิคเจอร์สรีลีดซิง โดยประเทศไทยมีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2568 โดยเข้าฉายครบทุกระบบทั้งระบบปกติ และไอแมกซ์ ภายหลังภาพยนตร์ฉายในประเทศไทย ภาพยนตร์สร้างสถิติหลายประการสูงสุดในรอบ 6 ปีหลังจากการระบาดทั่วของโควิด-19 อาทิเช่น ทำลายสถิติเดิมของ อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ ขึ้นเป็นภาพยนตร์ที่มียอดจองบัตรชมภาพยนตร์ล่วงหน้าสูงที่สุดทั้งในระบบปกติและระบบไอแมกซ์ และมียอดผู้เข้าชมในวันแรกสูงสุดที่เป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่มีระบบไอแมกซ์ในประเทศไทย และเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2568 ภาพยนตร์ทำลายสถิติเดิมของ ผจญภัยปริศนาราชินีหิมะ ขึ้นเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันที่ทำเงินสูงสุดในประเทศไทยตลอดกาล และเป็นภาพยนตร์อันดับ 3 ที่มียอดผู้ชมในระบบไอแมกซ์สูงที่สุด เป็นรองจาก ธี่หยด 2 และ อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ
เนื้อเรื่องย่อ
[แก้]องก์ที่ 1 - การกลับมาของอาคาสะ
[แก้]ขณะที่สมาชิกหน่วยพิฆาตอสูรและเหล่าเสาหลักกำลังเข้ารับการฝึกฝนเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการฝึกของเสาหลักเพื่อเตรียมตัวสำหรับศึกใหญ่กับเหล่าอสูร จู่ ๆ คิบุซึจิ มุซัน ก็ปรากฏตัวขึ้นที่คฤหาสน์อุบุยาชิกิ ในขณะที่ผู้นำกลุ่มนักล่าอสูรกำลังตกอยู่ในอันตราย ทันจิโร่และเหล่าเสาหลักรีบรุดไปยังสำนักงานใหญ่เพื่อเตรียมการป้องกันทันที แต่ระหว่างทางกลับถูกดึงลงไปในสถานที่ลึกลับโดยฝีมือของมุซัน ปลายทางที่พวกเขาตกลงไปคือ ฐานที่มั่นของเหล่าอสูรที่เรียกว่า ปราสาทไร้ขอบเขต และสนามรบสุดท้ายระหว่างหน่วยพิฆาตอสูรกับเหล่าอสูรก็ได้เริ่มต้นขึ้น[a]
ชิโนบุไม่รอช้า เริ่มเดินเกมไล่ล่าอสูรไปจนถึงวังของโดมะ อสูรข้างขึ้นลำดับที่ 2 เกมการไล่ล่าจึงเปลี่ยนเป็นเกมการแก้แค้นอสูรที่ฆ่าคานาเอะแทน ชิโนบุงัดทุกกระบวนท่าใส่โดมะอย่างไม่ยั้ง แต่ก็ทำอะไรอสูรข้างขึ้นลำดับที่ 2 ไม่ได้ สุดท้ายโดมะจึงลงมือฆ่าชิโนบุอย่างเลือดเย็นและดูดกลืนร่างของเธอต่อหน้าต่อตาคานาโอะ คานาโอะจึงระเบิดความโกรธเกรี้ยวและเข้าโจมตีโดมะทันที อีกด้านเซนอิตสึหมายมั่นมุ่งหน้าเข้าหาไคงาคุ อดีตศิษย์พี่ร่วมสำนักที่ปัจจุบันมาเป็นอสูรข้างขึ้นลำดับที่ 6 พริบตาที่เซนอิตสึเจอกับไคงาคุ เซนอิตสึได้ระเบิดความโกรธเกรี้ยวที่ คุวาจิมะ จิโกโร่ อดีตเสาหลักอัสนี ได้ตัดสินใจคว้านท้องตัวเองตามลำพัง หลังจากที่รู้ว่าไคงาคุได้กลายเป็นอสูรไป เซนอิตสึไม่ให้อภัยต่อการกระทำอันต่ำช้าของไคงาคุ และปลดปล่อยกระบวนท่าที่ 7 เข้าโจมตีไคงาคุทันที พริบตาที่เซนอิตสึสามารถพิชิตชัยไคงาคุได้ เซนอิตสึได้พบกับวิญญาณของจิโกโร่เป็นครั้งสุดท้าย พร้อมสั่งเสียให้เซนอิตสึเดินหน้าใช้ชีวิตได้เต็มภาคภูมิต่อไป
ท่ามกลางศึกที่ทั้งสับสน อลหม่าน และดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ณ สำนักงานใหญ่ของหน่วยพิฆาตอสูร อุบุยาชิกิ คิริยะ ได้เดินหน้าทำตามแผนของ อุบุยาชิกิ คางายะ โดยการร่วมมือกับอสูรยูชิโร่ให้ใช้มนต์อสูรโลหิตในการมองเห็นภายในปราสาทไร้ขอบเขตผ่านมุมมองของอีกาคาสุไก คางายะรู้แน่วแน่ว่าถ้าใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อมุซัน มีโอกาสที่มุซันจะดูดกลืนเหล่านักล่าอสูรทั้งหมดให้ติดกับอยู่ภายในปราสาทไร้ขอบเขตแห่งนี้ ทางเดียวที่จะเอาชนะมุซันและออกไปจากที่นี่ได้ คือต้องตามหาผู้ควบคุมปราสาทไร้ขอบเขตซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นอสูรตนหนึ่ง เพื่อสังหารอสูรตนนั้นและปลดปล่อยทุกคนออกสู่โลกภายนอก รวมถึงหาแหล่งกบดานของมุซันเพื่อสังหารให้สงครามจบลง แต่ไม่ว่าจะใช้วิธีไหน คำนวณแบบใด คิริยะก็ยังหาแหล่งกบดานของมุซันไม่เจออยู่ดี
แต่ระหว่างที่คิริยะกำลังไล่ล่าหามุซัน ทั้งคิริยะและยูชิโร่ต่างรับรู้ได้ว่ากำลังมีอะไรบางอย่างมุ่งหน้าไปทางนักล่าอสูรสองคน และนั่นก็คือ อาคาสะ อสูรข้างขึ้นลำดับที่ 3 ที่ต้องการเด็ดหัวทันจิโร่เพื่อล้างแค้นในสิ่งที่ทันจิโร่ได้เคยทำเอาไว้[b] ทั้งกิยู และทันจิโร่ จึงต้องลุยต่อสู้กับอาคาสะอย่างไม่มีทางเลือก ระหว่างต่อสู้ กิยู สามารถเปิดใช้งานปานต่อสู้ได้สำเร็จ ในขณะที่ทันจิโร่เองก็สามารถใช้การซ่อนจิตสังหารเพื่อหลบหลีกวงจรเวทของอาคาสะได้ พริบตาที่ทันจิโร่พิชิตชัยอาคาสะได้สำเร็จ และกำลังจะกู่ร้องดีใจ อาคาสะกลับได้ยินเสียงเรียกปริศนาว่า "ฮาคุจิ" ดังขึ้นอยู่ในหัว และทำให้ความทรงจำสมัยยังเป็นมนุษย์ของอาคาสะเริ่มตื่นขึ้น
หลายร้อยปีก่อน ฮาคุจิ เป็นชื่อของอาชญากรที่ใช้ชีวิตแบบปากกัดตีนถีบจนถูกตราบาปด้วยรอยสักแขนทั้งสองข้าง พริบตาที่ฮาคุจิกำลังจะยอมแพ้ต่อโลก หลังสูญเสียผู้เป็นพ่อไปอย่างไม่มีวันกลับ เคย์โซ เจ้าสำนักโซริว ได้ปรากฎตัวขึ้นและชักชวนให้ฮาคุจิมาเป็นลูกศิษย์ในสำนักของตน ฮาคุจิจึงยอมเดินทางไปเป็นลูกศิษย์ของเคย์โซ โดยหารู้ไม่ว่าอีกนัยหนึ่ง เคย์โซอยากให้ฮาคุจิช่วยดูแล โคยูกิ ลูกสาวของตนที่ป่วยไข้ได้ง่าย ฮาคุจิจึงวางทิฐิและเริ่มใช้ชีวิตอย่างสงบ จนเวลาผ่านล่วงเลยไปจนถึงวัย 18 ปี เคย์โซตัดสินใจให้ฮาคุจิสืบต่อสำนักโซริว พร้อมยกโคยูกิให้เป็นภรรยาของฮาคุจิด้วย ฮาคุจิดีใจมากที่เคย์โซยอมรับตนเป็นคนธรรมดาไม่ใช่ในฐานะอาชญากรกลับใจ จึงยอมรับการเป็นเจ้าสำนักโซริวคนถัดไป และจะคอยดูแลโคยูกิอยู่ไม่ห่าง แต่แล้วโชคชะตากลับเล่นตลกเมื่อฮาคุจิเดินทางออกไปกราบไหว้หลุมศพของบิดา ขากลับมาฮาคุจิได้รับข่าวร้ายว่าทั้งเคย์โซและโคยูกิเสียชีวิตลงแล้วทั้งคู่เพราะถูกวางยาพิษในบ่อน้ำ ฮาคุจิจึงระเบิดความโกรธเกรี้ยว บุกทำลายสำนักดาบทุกสำนักที่ตั้งตนเป็นศัตรูกับสำนักโซริว จนทางการต้องประกาศให้เขตรอบ ๆ สำนักโซริว เป็นพื้นที่ที่กำลังมีอสูรร้ายไล่ฆ่าคนอย่างเลือดเย็น มุซันที่ได้ยินดังนั้นจึงได้เดินทางมาดูกับตาว่าทำไมถึงมีอสูรปรากฎขึ้นในเขตที่ไม่ได้ปล่อยอสูรไว้จนได้พบกับฮาคุจิ ฮาคุจิที่กำลังอ่อนแรงจึงถูกมุซันทะลวงเข้าที่หัวและบังคับถ่ายเลือดให้กลายเป็นอสูร พริบตานั้นฮาคุจิได้สูญเสียความทรงจำทั้งหมด และตื่นขึ้นอีกครั้งในฐานะอสูรร้าย อาคาสะ สิ่งเดียวที่เขามีคือการตามหาคนที่แข็งแกร่งเพื่อขัดเกลาฝีมืออย่างไม่ลดละ และอาคาสะก็ได้ทำแบบนั้นมาตลอดกว่าหลายร้อยปีจนถึงปัจจุบัน
เมื่อความทรงจำของฮาคุจิเริ่มกลับคืน อาคาสะจึงเริ่มได้สติและเริ่มเรียนรู้ที่จะยอมแพ้ต่อการดวลที่เขาพ่ายแพ้ลงแล้ว แต่มุซันยังคงใช้มนต์อสูรบังคับให้อาคาสะไล่ล่าความแข็งแกร่งต่อไป อาคาสะจึงรู้ว่าสิ่งที่เขาต้องทำลายคือคนอ่อนแอที่อยู่ตรงนี้ อาคาสะจึงระเบิดพลังทำลายและต่อยเข้าที่ตัวเองอย่างไม่ยั้ง บัดนี้ อาคาสะ ได้ยอมรับความพ่ายแพ้ และพอแล้วกับการตามหาความแข็งแกร่งที่เขาตามหามาตลอด เขายิ้มให้กับทันจิโร่เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนเลือกเดินทางไปใช้ชีวิตในโลกหลังความตายกับโคยูกิ และมอดไหม้กลายเป็นธุลีในที่สุด
พริบตานั้นเหล่าอีกาคาสุไกได้ป่าวร้องถึงชัยชนะของทันจิโร่ และกิยู ที่สามารถเอาชนะอสูรข้างขึ้นลำดับ 3 ได้สำเร็จ และในขณะเดียวกัน โคคุชิโบ อสูรข้างขึ้นลำดับที่ 1 และโดมะ ต่างก็รับรู้ถึงการเสียชีวิตของอาคาสะ การสูญเสียครั้งนี้ทำให้ทั้งคู่พร้อมเดินหน้าไล่ล่าเหล่านักล่าอสูรต่อไป
และในจุดที่มืดที่สุดของปราสาท มุซัน กำลังดูดกลืนร่างของอสูรทามาโยะกลับเข้ามาเป็นของตน พร้อมทั้งป่าวร้องว่า "ไม่ว่าจะใช้วิธีได เหล่านักล่าอสูรก็จะไม่มีวันชนะ"
รายชื่อนักพากย์
[แก้]รายชื่อนักพากย์ตามลำดับการให้เครดิต[2]
| ตัวละคร | ญี่ปุ่น | ไทย |
|---|---|---|
| คามาโดะ ทันจิโร่ (竈門 炭治郎 Kamado Tanjirō) | นัตสึกิ ฮานาเอะ | เฉลิมพล แพทย์คดี |
| คามาโดะ เนซึโกะ (竈門 禰豆子 Kamado Nezuko) | อาการิ คิโต | ลักขณา นาคศิริ |
| อากาสึมะ เซ็นอิตสึ (我妻 善逸 Agatsuma Zenitsu) | ฮิโระ ชิโมโนะ | กิตติธร พันธ์โคกกรวด |
| ฮาชิบิระ อิโนะสึเกะ (嘴平 伊之助 Hashibira Inosuke) | โยชิตสึงุ มัตสึโอกะ | พัฒน์เตชินท์ ศศิพัฒนธาดา |
| ทสึยุริ คานาโอะ (栗花落 カナヲ Tsuyuri Kanao) | เรนะ อูเอดะ | นาราริน รัตนปราณี |
| ชินาซุกาวะ เก็นยะ (不死川 玄弥 Shinazugawa Gen'ya) | โนบูฮิโกะ โอกาโมโตะ | ประภัฒน์ สินธพวรกุล |
| โทมิโอกะ กิยู (富岡 義勇 Tomioka Giyū) | ทากาฮิโระ ซากูราอิ | ภัทรวุฒิ สมุทรนาวี |
| อุซุย เท็นเง็น (宇髄 天元 Uzui Tengen) | คัตสึยูกิ โคนิชิ | พิชาภพ ภัทรกูลนิยม |
| โทคิโตะ มุอิจิโร่ (時透 無一郎 Tokitō Muichirō) | เค็งโงะ คาวานิชิ | พิพัฒน์ บุญสิทธิเลิศ |
| โคโจ ชิโนบุ (胡蝶 しのぶ Kochō Shinobu) | ซาโอริ ฮายามิ | นันทนาพร ประสมศรี |
| อิงุโระ โอบาไน (伊黒 小芭内 Iguro Obanai) | เค็นอิจิ ซูซูมูระ | ไชยยงค์ กนกคุณ |
| ชินาซุกาวะ ซาเนมิ (不死川 実弥 Shinazugawa Sanemi) | โทโมกาซุ เซกิ | ฎาวิล วิศาลบรรณวิทย์ |
| คันโรจิ มิตสึริ (甘露寺 蜜璃 Kanroji Mitsuri) | คานะ ฮานาซาวะ | นภัสวรรณ์ วัชรีวงศ์ ณ อยุธยา |
| ฮิเมจิมะ เกียวเม (悲鳴嶼 行冥 Himejima Gyōmei) | โทโมกาซุ ซูงิตะ | ประภัฒน์ สินธพวรกุล |
| อาคาสะ / อสูรข้างขึ้นที่ 3 (猗窩座 Akaza) | อากิระ อิชิดะ | อภิชิต ลิขิตลิ้มปรีชา |
| ไคงาคุ / อสูรข้างขึ้นที่ 6 (獪嶽 Kaigaku) | โยชิมาซะ โฮโซยะ | อภิชาติ สมุทคีรี |
| โดมะ / อสูรข้างขึ้นที่ 2 (童磨 Dōma) | มาโมรุ มิยาโนะ | ศักราช อ่ำส้ม |
| โคคุชิโบ / อสูรข้างขึ้นที่ 1 (黑死牟 Kokushibō) | เรียวตาโร โอกิอายุ | คมสรร รัตนากรบดี |
| คิบุซึจิ มุซัน (鬼舞辻 無惨 Kibutsuji Muzan) | โทชิฮิโกะ เซกิ | อิทธิพล มามีเกตุ |
| เคย์โซ (慶蔵 Keizō) | ยูอิจิ นากามูระ | |
| โคยูกิ (恋雪 Koyuki) | ลินน์ | รตา ชินกระจ่างกิจ |
Koyuki (恋雪, ) Lynn Rebecca Wang[8]
กำหนดฉาย
[แก้]ฉายในโรงภาพยนตร์
[แก้]ภาพยนตร์มีกำหนดเข้าฉายในญี่ปุ่นโดย Toho ในวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ขณะที่ อะนิเพล็กซ์ และ ครันชีโรล จะจัดจำหน่ายภาพยนตร์ในตลาดต่างประเทศผ่าน Sony Pictures Releasing[3] ภาพยนตร์มีกำหนดฉายในโรงภาพยนตร์ 443 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น[4] และเป็นภาคแรกของภาพยนตร์ไตรภาคที่วางแผนไว้[5]
การตลาด
[แก้]ยูโฟเทเบิล สตูดิโอผู้ผลิตภาพยนตร์ได้ร่วมมือกับ เมเจอร์ลีกเบสบอล ปล่อยภาพยนตร์สั้นเพื่อโปรโมตภาพยนตร์และซีรีส์ รวมถึงการแข่งขันเปิดฤดูกาลของ เมเจอร์ลีกเบสบอล ฤดูกาล 2025 ระหว่างทีม Los Angeles Dodgers และ Chicago Cubs ที่ โตเกียวโดม ในวันที่ 18 มีนาคม โดยในภาพยนตร์สั้นดังกล่าว โฮจู โอตสึกะ ให้เสียงบรรยายเป็น ซาคอนจิ อุโรโคดากิ (鱗滝 左近次 Urokodaki Sakonji) ตัวละครจากซีรีส์ และเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติของกีฬาเบสบอลและซีรีส์เรื่องนี้[6]
นอกจากนี้ Toho ยังเตรียมปล่อยเวอร์ชันพิเศษที่ตัดต่อใหม่ของทั้งซีรีส์เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2568[7]
หมายเหตุ
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba – The Movie: Infinity Castle". Box Office Mojo. IMDb. สืบค้นเมื่อ September 22, 2025.
- ↑ "スタッフ/キャスト|劇場版「鬼滅の刃」無限城編 公式サイト". Shueisha, Aniplex, ufotable. สืบค้นเมื่อ 6 มีนาคม พ.ศ. 2568.
{{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|access-date=(help) - ↑ Cardine, Kyle (March 6, 2025). "Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba Infinity Castle First Movie International Release Dates Announced". Crunchyroll. สืบค้นเมื่อ March 6, 2025.
- ↑ "『劇場版「鬼滅の刃」無限城編』第一章、2025年7月18日 (金) 公開決定! プロモーションリール2025やキービジュアルを公開!" [The first chapter of "Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba the Movie: Mugen Castle" will be released on Friday, July 18, 2025! Promotional reel 2025 and key visuals have been released!] (ภาษาญี่ปุ่น). Shueisha, Aniplex, ufotable. March 6, 2025. สืบค้นเมื่อ March 1, 2025.
- ↑ Hicap, Jonathan (March 6, 2025). "Film 'Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba Infinity Castle' to be released in PH, North America". Manila Bulletin. สืบค้นเมื่อ March 6, 2025.
- ↑ Andres, Patrick (March 6, 2025). "MLB Partnered With 'Demon Slayer' to Produce Epic Anime Trailer for Tokyo Series". Sports Illustrated. Authentic Brands Group. สืบค้นเมื่อ March 6, 2025.
- ↑ "4月4日 (金) より『鬼滅シアター -「鬼滅の刃」特別編集版 劇場上映-』を開催決定!" ["Demon Slayer Theater - Specially Edited Movie Screening of "Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba"" will be held from Friday, April 4th!] (ภาษาญี่ปุ่น). Shueisha, Aniplex, ufotable. March 6, 2025. สืบค้นเมื่อ March 1, 2025.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- เว็บไซต์ทางการ (ในภาษาญี่ปุ่น)
- ดาบพิฆาตอสูร: ภาคปราสาทไร้ขอบเขต ที่อินเทอร์เน็ตมูวีเดตาเบส
- ภาพยนตร์ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2568
- ภาพยนตร์อนิเมะที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2568
- ภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2568
- ภาพยนตร์ภาษาญี่ปุ่น
- ภาพยนตร์ญี่ปุ่น
- ดาบพิฆาตอสูร
- โยไกในอนิเมะและมังงะ
- ปีศาจในภาพยนตร์
- ฆาตกรรมหมู่ในบันเทิงคดี
- อนิเมะและมังงะดาร์กแฟนตาชี
- ภาพยนตร์แอนิเมชันโตโฮ
- ภาพยนตร์อนิเมะที่สร้างจากมังงะ
- ภาพยนตร์ที่มีฉากในปราสาท
- ภาพยนตร์ที่มีฉากในชั้นใต้ดิน
- ภาพยนตร์ที่มีฉากในยุคไทโช
- ภาพยนตร์อนิเมะที่มีผลต่อเนื้อเรื่องหลัก
- ภาพยนตร์ไอแมกซ์
- อะนิเพล็กซ์
- ยูโฟเทเบิล
- บทความเกี่ยวกับ ภาพยนตร์ ที่ยังไม่สมบูรณ์