ข้ามไปเนื้อหา

ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2014

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2014
ไฟล์:2014 UCL Final Visual Identity.jpg
รายการยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2013–14
หลังต่อเวลาพิเศษ
วันที่24 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
สนามอิชตาดีอูดาลุช, ลิสบอน
ผู้เล่นยอดเยี่ยม
ประจำนัด ยูฟ่า
อังเคล ดี มารีอา (เรอัลมาดริด)[1]
ผู้เล่นยอดเยี่ยม
ประจำนัด ผู้ชม
เซร์คีโอ ราโมส (เรอัลมาดริด)[2]
ผู้ตัดสินบีเยิร์น เกยเปิร์ส (เนเธอร์แลนด์)
ผู้ชม60,976 คน[3]
สภาพอากาศมีเมฆเป็นบางส่วน
17 องศาเซลเซียส (63 องศาฟาเรนไฮต์)
51% ความชื้นสัมพัทธ์[4]
2013
2015

ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2014 เป็นการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศของ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2013–14, และเป็นครั้งที่ 59 ของการแข่งขันชิงแชมป์สโมสรในทวีปยุโรป โดย ยูฟ่า, และเป็นฤดูกาลที่ 22 นับตั้งแต่การเปลี่ยนชื่อ จาก ยูโรเปียนแชมเปียนคลับ เป็น ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก.

การแข่งขันจะมึข้นในวันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม ค.ศ. 2014, ที่สนาม อิชตาดีอูดาลุช ในกรุง ลิสบอน, ประเทศโปรตุเกส, ระหว่างสองฝั่งจากสเปน เรอัลมาดริด และ อัตเลติโกเดมาดริด. มันเป็นทัวร์นาเมนต์นัดชิงชนะเลิศครั้งที่ห้าที่สองทีมจากสมาคมเดียวกัน, และเป็นครั้งที่สองที่สองทีมจากสเปนชิงชนะเลิศกันเองและถือเป็นครั้งแรกที่มาจากเมืองเดียวกัน. เรอัลมาดริด ชนะไปได้ด้วยสกอร์ 4–1 หลังต่อเวลาพิเศษ, มาจากการทำประตูของ แกเร็ธ เบล, มาร์เซลู และ คริสเตียโน โรนัลโด ประกอบกับลูกโหม่งนาทีที่ 93 จาก เซร์คีโอ ราโมส, ซึ่งก็ถูกยกเลิกไปโดยประตูในช่วงครึ่งแรกของ เดียโก โกดิน. ในขณะเดียวกันนั้น, เรอัลมาดริดได้บันทึกสถิติแชมป์สมัยที่ 10 ได้ในรายการนี้, 12 ปี หลังจากที่ได้แชมป์รายการนี้มาครองถึง 9 สมัย.

ในฐานะทีมชนะเลิศ, เรอัลมาดริด จะต้องไปพบกับ เซบิยา ในยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2014 และจะเป็นทีมของยูฟ่า เข้าแข่งขันในรอบรองชนะเลิศของ ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2014 ในฐานะทีมตัวแทนจากยูฟ่า.

สนามแข่งขัน

[แก้]

สนามอิชตาดีอูดาลุช ในกรุง ลิสบอน, ประเทศโปรตุเกส, ได้รับการยืนยันให้เป็นสังเวียนนัดชิงชนะเลิศ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2555 โดยผ่านวาระการประชุมคณะกรรมการ ยูฟ่าที่กรุง อิสตันบูล, ประเทศตุรกี.[5][6]

สนามเหย้าของฝั่งทีมจากโปรตุกีส พรีเมรา ลีกา เบนฟิก้า ตั้งแต่ปี 2003, ได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ในฐานะเจ้าภาพ ยูฟ่า ยูโร 2004 5 นัด, รวมถึง ชิงชนะเลิศ. ก่อนที่จะมีการรื้อถอนในปี 2003, เพื่ปรับทางให้สนามรองรับความจุใหม่ถึง 65,000 คน, อิสตาจีอูดาลุซแบบดั้งเดิม เคยได้รับเป็นเจ้าภาพในการแข่งขันฟุตบอลยูโรเปียนคัพวินเนอร์สคัพ นัดชิงชนะเลิศ 1992, ที่ทีม แวร์เดอร์ เบรเมิน เอาชนะ อาแอส โมนาโก 2–0, และนัดที่สองของ ยูฟ่าคัพ นัดชิงชนะเลิศ 1983, ที่ทีม อันเดอร์เลชท์ รักษาสกอร์เสมอกับเบนฟิกา a 1–1 จนคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ.[7]

ครั้งสุดท้ายของถ้วยยุโรปที่ได้จัดขึ้นในเกมนัดชิงชนะเลิศที่กรุงลิสบอนเกิดขึ้นใน 1967, เมื่องทีมจากสกอตแลนด์ เซลติก เอาชนะ อินเตอร์ จากอิตาลี 2–1 ที่สนาม อิสตาดีอู นาซีอูนาล. เมืองหลวงของโปรตุเกสยังเคยเป็นเจ้าภาพ ยูฟ่าคัพ 2005 นัดชิงชนะเลิศ ที่สนาม อิสตาดีอู โชเซ อัลวาลาเด, บ้านของทีมคู่ปรับตัวฉกาจสำคัญและเป็นทีมที่เข้าชิงชนะเลิศอย่าง สปอร์ติง ลิสบอน, ที่พ่ายแพ้ไปด้วยสกอร์ 3–1 ต่อ ซีเอสเคเอ มอสโก.[7]

การแข่งขัน

[แก้]

รายละเอียด

[แก้]
เรอัลมาดริด
อัตเลติโกเดมาดริด
GK1ประเทศสเปน อีเกร์ กาซียัส (c)
RB15ประเทศสเปน ดาเนียล การ์บาคัล
CB4ประเทศสเปน เซร์คีโอ ราโมสโดนใบเหลือง ใน 27 นาที 27'
CB2ประเทศฝรั่งเศส ราฟาแอล วารานโดนใบเหลือง ใน 120+3 นาที 120+3'
LB5ประเทศโปรตุเกส ฟาบีอู กูเองเตราSubstituted off in the 59 นาที 59'
RM19ประเทศโครเอเชีย ลูคา โมดริช
CM6ประเทศเยอรมนี ซามี เคดีราโดนใบเหลือง ใน 45+1 นาที 45+1'Substituted off in the 59 นาที 59'
LM22ประเทศอาร์เจนตินา อังเคล ดี มารีอา
RF11ประเทศเวลส์ แกเร็ธ เบล
CF9ประเทศฝรั่งเศส คาริม เบนเซมาSubstituted off in the 79 นาที 79'
LF7ประเทศโปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโดโดนใบเหลือง ใน 120+1 นาที 120+1'
ตัวสำรอง:
GK25ประเทศสเปน เดียโก โลเปซ
DF3ประเทศโปรตุเกส เปปี
DF12ประเทศบราซิล มาร์เซลูโดนใบเหลือง ใน 118 นาที 118'Substituted on in the 59 minute 59'
DF17ประเทศสเปน อัลบาโร อาร์เบโลอา
MF23ประเทศสเปน อิสโกSubstituted on in the 59 minute 59'
MF24ประเทศสเปน อาเซียร์ อียาร์ราเมนดี
FW21ประเทศสเปน อัลบาโร โมราตาSubstituted on in the 79 minute 79'
ผู้จัดการทีม:
ประเทศอิตาลี การ์โล อันเชลอตตี
GK13ประเทศเบลเยียม ตีโบ กูร์ตัว
RB20ประเทศสเปน ควนฟรันโดนใบเหลือง ใน 74 นาที 74'
CB23ประเทศบราซิล มีรังดาโดนใบเหลือง ใน 53 นาที 53'
CB2ประเทศอุรุกวัย เดียโก โกดินโดนใบเหลือง ใน 120 นาที 120'
LB3ประเทศบราซิล ฟีลีปี ลูอิสSubstituted off in the 83 นาที 83'
RM8ประเทศสเปน ราอูล การ์ซีอาโดนใบเหลือง ใน 27 นาที 27'Substituted off in the 66 นาที 66'
CM5ประเทศโปรตุเกส ตีอากู
CM14ประเทศสเปน กาบี (c)โดนใบเหลือง ใน 100 นาที 100'
LM6ประเทศสเปน โกเกโดนใบเหลือง ใน 86 นาที 86'
CF19ประเทศสเปน เดียโก โกสตาSubstituted off in the 9 นาที 9'
CF9ประเทศสเปน ดาบิด บียาโดนใบเหลือง ใน 72 นาที 72'
ตัวสำรอง:
GK1ประเทศสเปน ดาเนียล อารานซูเบีย
DF12ประเทศเบลเยียม โทบี อัลเดอร์เวเรลด์Substituted on in the 83 minute 83'
MF4ประเทศสเปน มารีโอ ซัวเรซ
MF11ประเทศอุรุกวัย คริสเตียน โรดรีเกซ
MF24ประเทศอาร์เจนตินา โชเซ เออร์เนสโต โซซาSubstituted on in the 66 minute 66'
MF26ประเทศบราซิล เดียโก
FW7ประเทศสเปน อาเดรียน โลเปซSubstituted on in the 9 minute 9'
ผู้จัดการทีม:
ประเทศอาร์เจนตินา เดียโก ซีเมโอเน Red card 120'

ยูฟ่า แมน ออฟ เดอะ แมตช์:
ประเทศอาร์เจนตินา อังเคล ดี มารีอา (เรอัลมาดริด)[1]
แฟนส์' แมน ออฟ เดอะ แมตช์:
ประเทศสเปน เซร์คีโอ ราโมส (เรอัลมาดริด)[2]
ผู้ช่วยผู้ตัดสิน:
ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซานเดอร์ ฟาน โรเออเคล
ประเทศเนเธอร์แลนด์ เออร์วิน เซออินสตรา
ผู้ตัดสินที่สี่:
ประเทศตุรกี คูเนย์ต ชาคีร์
ผู้ช่วยผู้ตัดสินสำรอง:
ประเทศเนเธอร์แลนด์ โปล ฟาน โบเอเคิล
ประเทศเนเธอร์แลนด์ ริชาร์ด ไลส์เวลด์

ข้อมูลในการแข่งขัน[8]

  • แข่งขันครบ 90 นาที (นับช่วงทดเวลาบาดเจ็บ)
  • ต่อเวลาพิเศษไปอีก 30 นาที เมื่อทั้งสองทีมเกิดผลการแข่งขันเสมอกัน
  • ตัดสินด้วยการดวลลูกจุดโทษ เพื่อหาผู้ชนะ
  • รายชื่อนักฟุตบอล 7 คนที่จะต้องยิงจุดโทษ

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1 2 Rodríguez, Alfredo (25 May 2014). "Madrid's Casillas pays tribute to 'kings of Europe'". UEFA.com (Union of European Football Associations). สืบค้นเมื่อ 26 May 2014.
  2. 1 2 "Madrid finally fulfil Décima dream". UEFA.com (Union of European Football Associations). 24 May 2014. สืบค้นเมื่อ 24 May 2014.
  3. 1 2 "Full-time report" (PDF). UEFA.com (Union of European Football Associations). 24 May 2014. สืบค้นเมื่อ 24 May 2014.
  4. "Tactical lineups" (PDF). UEFA.com (Union of European Football Associations). 24 May 2014. สืบค้นเมื่อ 24 May 2014.
  5. "UEFA Executive Committee agenda for Istanbul meeting". UEFA.org (Union of European Football Associations). 9 March 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-04-24. สืบค้นเมื่อ 2014-05-29.
  6. "Lisbon to stage 2014 UEFA Champions League final". UEFA.com (Union of European Football Associations). 20 March 2012.
  7. 1 2 "Finals in Lisbon". UEFA.com (Union of European Football Associations). 1 April 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-05-02. สืบค้นเมื่อ 2014-05-29.
  8. "Regulations of the UEFA Champions League 2013/14" (PDF). Nyon: UEFA. March 2013. สืบค้นเมื่อ 1 May 2013.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]