สิบหลักการสำหรับการสถาปนาระบบอุดมการณ์เอกานุภาพ

สิบหลักการสำหรับการสถาปนาระบบอุดมการณ์เอกานุภาพ (เกาหลี: 당의 유일사상체계확립의 10 대 원칙; อาร์อาร์: Dangui yuilsasangchegyehwangnibui 10 dae wonchik; เอ็มอาร์: Tangŭi yuilsasangch'egyehwangnibŭi 10 tae wŏnch'ik; เรียกอีกชื่อว่า สิบหลักการแห่งระบบอุดมการณ์เดียว) คือชุดของหลักการ 10 ประการและ 65 มาตราที่กำหนดมาตรฐานสำหรับการปกครองและชี้นำพฤติกรรมของประชาชนชาวเกาหลีเหนือ[1] ตีพิมพ์ครั้งแรกใน ค.ศ. 1974 สิบหลักการกำหนดให้มีความจงรักภักดีและการเชื่อฟังอย่างไม่มีเงื่อนไขต่อแนวคิดของคิม อิล-ซ็อง และต่อมาคือคิม จ็อง-อิล ผู้สืบทอดตำแหน่ง ทำให้พวกเขากลายเป็นผู้มีอำนาจทางการเมืองสูงสุดของประเทศ
การพัฒนา
[แก้]หลักการเหล่านี้ได้รับการเสนอครั้งแรกใน ค.ศ. 1967 โดยคิม ย็อง-จู น้องชายของคิม อิล-ซ็อง ผู้นำเกาหลีเหนือ ภายหลังอุบัติการณ์ฝ่ายคัปซันที่พยายามท้าทายอำนาจของคิม อิล-ซ็องและตำแหน่งผู้สืบทอดอำนาจในเวลานั้นของคิม ย็อง-จู[2] ด้วยเหตุนี้ ระบบอุดมการณ์เอกานุภาพจึงเกิดขึ้นในบริบทของการอภิปรายนโยบายภายในพรรคแรงงานเกาหลีและความท้าทายภายนอกที่เกิดจากความแตกแยกระหว่างจีน–โซเวียตและการปฏิวัติวัฒนธรรมของจีน คิม อิล-ซ็องประกาศระบบนี้ต่อสาธารณชนในการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมสมัชชาประชาชนสูงสุดในวันที่ 16 ธันวาคม ค.ศ. 1967 ในหัวข้อ "ขอเราปลูกฝังจิตวิญญาณการปฏิวัติแห่งความเป็นเอกราช การพึ่งพาตนเอง และการป้องกันตนเองให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในทุกสาขาของกิจกรรมแห่งรัฐ" (เกาหลี: 국가활동의 모든 부문에서 자주, 자립, 자위의 혁명정신을 더욱 철저히 구현하자; อาร์อาร์: Gukgahwaldongui modeun bumuneseo jaju, jarip, jawiui hyeongmyeongjeongsineul deoung cheoljeohi guhyeonhaja; เอ็มอาร์: Kukkahwaltongŭi modŭn pumunesŏ chaju, charip, chawiŭi hyŏngmyŏngjŏngshinŭl tŏung ch'ŏlchŏhi kuhyŏnhaja)[3]
หลักการเหล่านี้ถูกเขียนใหม่เพื่อตีพิมพ์โดยคิม จ็อง-อิลโดยได้รับความช่วยเหลือจากฮวัง จัง-ย็อบ[3] หลังคิมกลายเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งที่ชัดเจนของคิม อิล-ซ็องในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1974 หลักการที่ได้รับการปรับปรุงนั้นยาวขึ้นและขยายลัทธิบูชาบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคิมให้กว้างขวางยิ่งขึ้น หลักการเหล่านี้ได้รับการยอมรับเป็นสถานะทางการในพรรคใน ค.ศ. 1974[4] หลักการเหล่านี้ได้รับการแก้ไขเป็นครั้งแรกในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2013 และแนวคิดใหม่หลายประการ เช่น ลัทธิคิมอิลซ็อง-คิมจ็องอิล การปฏิวัติซ็อนกุน และรัฐนิวเคลียร์ได้ถูกบรรจุไว้ในนั้น[5]
การนำไปปฏิบัติ
[แก้]สิบหลักการได้ก้าวขึ้นมาเหนือรัฐธรรมนูญเกาหลีเหนือและกฤษฎีกาต่าง ๆ ของพรรคแรงงานเกาหลี และในทางปฏิบัติ ทำหน้าที่เสมือนกฎหมายสูงสุดของประเทศ[6][7][8]
ในเกาหลีเหนือ สิบหลักการจะต้องถูกจดจำโดยพลเมืองทุกคน และหลักการเหล่านี้รับประกันความภักดีและการเชื่อฟังอย่างไม่มีเงื่อนไขต่อคิม อิล-ซ็อง คิม จ็อง-อิล และคิม จ็อง-อึน[9] แหล่งข่าวที่ไม่ระบุชื่อบอกกับวิทยุเอเชียเสรี (Radio Free Asia) ว่าหลักการเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญของชีวิตทางการเมืองและชีวิตประจำวันของผู้คนและจะต้องถูกปฏิบัติผ่านการประชุมวิพากษ์วิจารณ์ตนเองรายวัน ในการทำงาน ในโรงเรียน ฯลฯ ซึ่งเป็นรากฐานของลัทธิบูชาบุคคลเกาหลีเหนือ[10][11]
สิบหลักการถูกนิยามว่าเป็น "ระบบอุดมการณ์ที่ทั้งพรรคและประชาชนได้รับการติดอาวุธอย่างมั่นคงด้วยอุดมการณ์ปฏิวัติของซูรย็อง (ผู้นำผู้ยิ่งใหญ่) และรวมกันเป็นปึกแผ่นรอบตัวท่าน โดยดำเนินสงครามปฏิวัติและการก่อสร้างภายใต้การนำเพียงหนึ่งเดียวของซูรย็อง"[12]
เนื้อหา
[แก้]ฉบับ ค.ศ. 1974
[แก้]ได้รับการรับรองโดยคณะกรรมาธิการกลางพรรคใน ค.ศ. 1967 และประกาศใช้ใน ค.ศ. 1974[13]
- เราต้องทุ่มเททุกสิ่งอย่างในการต่อสู้เพื่อรวมสังคมทั้งหมดให้เป็นหนึ่งเดียวด้วยอุดมการณ์ปฏิวัติของท่านผู้นำที่ยิ่งใหญ่ สหายคิม อิล-ซ็อง
- เราต้องเทิดทูนท่านผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ สหายคิม อิล-ซ็อง ด้วยความจงรักภักดีอย่างสุดหัวใจ
- เราต้องทำให้เด็ดขาดซึ่งอำนาจของท่านผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ สหายคิม อิล-ซ็อง
- เราต้องทำให้อุดมการณ์ปฏิวัติของท่านผู้นำที่ยิ่งใหญ่ สหายคิม อิล-ซ็อง กลายเป็นความเชื่อมั่นของเราและทำให้คำสั่งสอนของท่านเป็นหลักปฏิบัติของเรา
- เราต้องเสริมสร้างอุดมการณ์ เจตจำนง และความสามัคคีปฏิวัติของพรรคทั้งหมด โดยมีท่านผู้นำที่ยิ่งใหญ่ สหายคิม อิล-ซ็อง เป็นศูนย์กลาง
- เราต้องเรียนรู้จากท่านผู้นำที่ยิ่งใหญ่ สหายคิม อิล-ซ็อง และนำเอาแบบอย่างคอมมิวนิสต์ วิธีการทำงานแบบปฏิวัติ และรูปแบบการทำงานที่มุ่งเน้นประชาชนมาใช้
- เราต้องเห็นคุณค่าของชีวิตทางการเมืองที่เราได้รับจากท่านผู้นำที่ยิ่งใหญ่ สหายคิม อิล-ซ็อง และตอบแทนความไว้วางใจและความเอาใจใส่ทางการเมืองอันยิ่งใหญ่ของท่านอย่างจงรักภักดี ด้วยจิตสำนึกทางการเมืองและทักษะที่สูงขึ้น
- เราต้องวางระเบียบองค์กรที่เข้มแข็ง เพื่อให้ทั้งพรรค ชาติ และกองทัพเคลื่อนไหวเป็นหนึ่งเดียวภายใต้การนำเพียงหนึ่งเดียวของท่านผู้นำที่ยิ่งใหญ่ สหายคิม อิล-ซ็อง
- เราต้องสืบทอดความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของการปฏิวัติโดยท่านผู้นำที่ยิ่งใหญ่ สหายคิม อิล-ซ็อง จากรุ่นสู่รุ่น โดยสืบทอดและทำให้สำเร็จลุล่วงจนถึงที่สุด
ฉบับละเอียด
[แก้]พันธมิตรพลเมืองเพื่อสิทธิมนุษยชนเกาหลีเหนือ (북한인권시민연합; Bughan-Ingwonsimin-Yeonhab) ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักการ[14]
- พลเมืองทุกคนต้องดิ้นรนตลอดชีวิตเพื่อวาดภาพสังคมทั้งหมดให้เป็นสีเดียวกับแนวคิดปฏิวัติอันยิ่งใหญ่ของสหายคิม อิล-ซ็อง ถือเป็นหลักคำสอนสูงสุดของพรรคแรงงานที่จะวาดภาพสังคมทั้งหมดให้เป็นสีเดียวกับแนวคิดปฏิวัติอันยิ่งใหญ่ของท่าน และภารกิจในระดับที่สูงขึ้นคือการสร้างระบบอุดมการณ์เอกภาพของพรรค
- ทุกคนต้องเคารพและให้ความเคารพอย่างสูงด้วยความจงรักภักดีและซื่อสัตย์ต่อท่านผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ สหายคิม อิล-ซ็อง การเคารพท่านผู้ซึ่งเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของเกาหลีคือหน้าที่อันสูงส่งที่สุดของนักรบปฏิวัติผู้จงรักภักดีต่อท่านอย่างไม่สิ้นสุด ภายในสิ่งนี้คือความรุ่งโรจน์ของชาติและความสุขนิรันดร์ของประชาชน
- เป็นความปรารถนาของพรรคที่ทุกคนต้องทำให้อำนาจของท่านผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ สหายคิม อิล-ซ็อง เหนือชาติเป็นสิ่งสัมบูรณ์ การยืนยันถึงลักษณะสัมบูรณ์ของอำนาจของท่านคือความต้องการสูงสุดของภารกิจปฏิวัติและเจตจำนงปฏิวัติของประชาชนชาวเกาหลีและพรรคแรงงานเกาหลี
- ทุกคนต้องยอมรับแนวคิดปฏิวัติของท่านผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ สหายคิม อิล-ซ็อง เป็นความเชื่อส่วนตัวและถือเอาคำสั่งของท่านเป็นหลักการ การยอมรับแนวคิดของท่านผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ สหายคิม อิล-ซ็อง เป็นความเชื่อของตนเองและถือเอาคำสั่งของท่านเป็นหลักการ เป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดที่จำเป็นเพื่อให้คน ๆ หนึ่งกลายเป็นนักรบคอมมิวนิสต์แห่งชูเชผู้จงรักภักดีอย่างไม่สิ้นสุด นอกจากนี้ยังเป็นเงื่อนไขเบื้องต้นสำหรับชัยชนะของการต่อสู้ปฏิวัติและการสร้างสรรค์
- ทุกคนต้องปฏิบัติตามหลักการของการปฏิบัติตามคำสั่งของท่านผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ สหายคิม อิล-ซ็อง โดยไม่มีเงื่อนไขอย่างเด็ดขาด การปฏิบัติตามคำสั่งของท่านโดยไม่มีเงื่อนไขในชีวิตประจำวันเป็นข้อกำหนดพื้นฐานสำหรับการพิสูจน์ความจงรักภักดีต่อผู้นำที่ยิ่งใหญ่ และเป็นเงื่อนไขสูงสุดสำหรับชัยชนะของการต่อสู้ปฏิวัติของพรรคและการสถาปนา
- ชาติจะต้องรวมกันภายใต้ความเป็นเอกภาพแห่งอุดมการณ์และเอกภาพแห่งการปฏิวัติรอบท่านผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ สหายคิม อิล-ซ็อง ความเป็นเอกภาพที่แข็งแกร่งดุจเหล็กกล้าของพรรคคือแหล่งพลังอันไร้เทียมทานของพรรค และเป็นการรับประกันอันมั่นคงถึงชัยชนะของการปฏิวัติ
- จำเป็นต้องมีการศึกษาจากท่านผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ สหายคิม อิล-ซ็อง และการเรียนรู้ศักดิ์ศรีแบบคอมมิวนิสต์ วิธีการบรรลุภารกิจปฏิวัติ และรูปแบบการทำงานของประชาชน การเรียนรู้ศักดิ์ศรีแบบคอมมิวนิสต์ของท่านผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ วิธีการบรรลุภารกิจปฏิวัติ และรูปแบบการทำงานของประชาชน เป็นหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ของสมาชิกพรรคทุกคนและแรงงานทุกคนในทุกอุตสาหกรรมและทุกภาคส่วน และเป็นเงื่อนไขเบื้องต้นสำหรับการเติมเต็มโชคชะตาอันมีเกียรติของนักรบปฏิวัติทุกคน
- ชีวิตทางการเมืองที่ท่านผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ สหายคิม อิล-ซ็อง ได้มอบให้แก่พลเมืองแต่ละคน จะต้องได้รับการปกป้องและรักษาไว้อย่างสุดหัวใจจนถึงที่สุด และทุกคนต้องตอบแทนด้วยความจงรักภักดีด้วยความตระหนักและความสามารถทางการเมืองที่สูงสำหรับความไว้วางใจและการพิจารณาทางการเมืองอันไร้ขอบเขตของท่านผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ การได้รับชีวิตทางการเมืองจากท่านผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ สหายคิม อิล-ซ็อง ถือเป็นเกียรติสูงสุดสำหรับชาวเกาหลีทุกคน และการตอบแทนความไว้วางใจของท่านด้วยความจงรักภักดีจะนำไปสู่อนาคตที่สดใสสำหรับชีวิตทางการเมือง
- ต้องสร้างระเบียบวินัยขององค์กรที่เข้มแข็ง เพื่อให้ทั้งพรรค ประชาชนทั้งปวง และกองทัพประชาชนดำเนินงานอย่างเป็นเอกภาพภายใต้การนำเพียงหนึ่งเดียวของท่านผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ สหายคิม อิล-ซ็อง นี่คือข้อกำหนดที่จำเป็นในการเสริมสร้างอุดมการณ์ส่วนรวม ภาวะผู้นำ และอำนาจการรบของพรรค นอกจากนี้ยังเป็นการรับประกันอันมั่นคงสำหรับชัยชนะของการต่อสู้ปฏิวัติและการสถาปนา
- ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของการปฏิวัติที่บุกเบิกโดยท่านผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ สหายคิม อิล-ซ็อง จะต้องได้รับการสืบทอดและทำให้สมบูรณ์แบบโดยการสืบทอดทางสายเลือดไปจนกระทั่งสิ้นกาลเวลา การสถาปนาระบบการนำเพียงหนึ่งเดียวอย่างมั่นคงคือการรับประกันอันสำคัญสำหรับการรักษาและพัฒนาความสำเร็จของการปฏิวัติของท่านผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ ขณะเดียวกันก็บรรลุชัยชนะขั้นสุดท้ายของการปฏิวัติในเกาหลีและช่วยในการเตรียมพร้อมสำหรับชัยชนะขั้นสุดท้ายในโลก
ฉบับ ค.ศ. 2013
[แก้]หลังอสัญกรรมของคิม จ็อง-อิลใน ค.ศ. 2011 หลักการได้รับการปรับปรุงให้รวมชื่อของเขาไว้เคียงข้างชื่อของคิม อิล-ซ็องโดยมีชื่อใหม่ว่า: "สิบหลักการสำหรับการสถาปนาระบบผู้นำเดียวของพรรค" (당의 유일적령도체계확립의 10대 원칙; Dang-ui Yuiljeoglyeongdochegyehwaglib-ui 10dae Wonchig)"[5]
- เราต้องทุ่มเททุกสิ่งอย่างในการต่อสู้เพื่อรวมสังคมทั้งหมดให้เป็นหนึ่งเดียวด้วยลัทธิคิมอิลซ็องและลัทธิคิมจองอิล
- เราต้องเทิดทูนสหายผู้ยิ่งใหญ่ คิม อิล-ซ็อง และคิม จ็อง-อิล ในฐานะผู้นำตลอดกาลของพรรคและประชาชนของเรา และในฐานะดวงอาทิตย์แห่งชูเช
- เราต้องปกป้องอย่างเด็ดเดี่ยวและถึงที่สุดซึ่งอำนาจของสหายผู้ยิ่งใหญ่ คิม อิล-ซ็อง และคิม จ็อง-อิล และอำนาจของพรรคแรงงาน
- เราต้องได้รับการติดอาวุธทางความคิดอย่างสมบูรณ์ด้วยแนวคิดปฏิวัติของสหายผู้ยิ่งใหญ่ คิม อิล-ซ็อง และคิม จ็อง-อิล และด้วยแนวทางและนโยบายของพรรคที่เป็นการทำให้แนวคิดเหล่านั้นเป็นจริง
- เราต้องยึดมั่นอย่างเคร่งครัดในหลักการของการเชื่อฟังโดยไม่มีเงื่อนไขในการปฏิบัติตามคำสั่งที่สืบทอดมาจากสหายผู้ยิ่งใหญ่ คิม อิล-ซ็อง และคิม จ็อง-อิล และในแนวทางและนโยบายของพรรค
- เราต้องเสริมสร้างอุดมการณ์ เจตจำนง และความเป็นเอกภาพแห่งการปฏิวัติของพรรคทั้งพรรค โดยมีท่านผู้นำเป็นศูนย์กลาง ด้วยทุกวิถีทางที่เป็นไปได้
- เราต้องเรียนรู้จากสหายผู้ยิ่งใหญ่ คิม อิล-ซ็อง และคิม จ็อง-อิล และนำมาใช้ซึ่งคุณธรรมและศีลธรรมอันสูงส่ง วิธีการทำงานแบบปฏิวัติ และรูปแบบการทำงานที่มุ่งเน้นประชาชน
- เราต้องเห็นคุณค่าของชีวิตทางการเมืองที่เราได้รับจากพรรคและท่านผู้นำ และตอบแทนความไว้วางใจและความเอาใจใส่ของพรรคด้วยความตระหนักทางการเมืองและผลการปฏิบัติงานที่สูงขึ้น
- เราต้องสร้างระเบียบองค์กรที่เข้มแข็ง เพื่อให้พรรค ชาติ และกองทัพทั้งหมดเคลื่อนไหวเป็นหนึ่งเดียวภายใต้การนำเพียงหนึ่งเดียวของพรรค
- เราต้องสืบทอดความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของการปฏิวัติชูเชและการปฏิวัติซอนกุน ซึ่งบุกเบิกโดยสหายผู้ยิ่งใหญ่ คิม อิล-ซ็อง และนำโดยสหายคิม อิล-ซ็อง และคิม จ็อง-อิล จากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดและทำให้สำเร็จลุล่วงจนถึงที่สุด
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ Namgung Min (October 13, 2008). "Kim Jong Il's Ten Principles: Restricting the People". Daily NK. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 8, 2020. สืบค้นเมื่อ January 20, 2014.
- ↑ Lim 2015, p. 48.
- 1 2 Person, James. "The 1967 Purge of the Gapsan Faction and Establishment of the Monolithic Ideological System". NKIDP e-Dossier no. 15. Woodrow Wilson Center. สืบค้นเมื่อ 5 March 2014.
- ↑ Lim 2015, p. 49.
- 1 2 "The Enshrinement of Nuclear Statehood in North Korean Law". Illinois Law Review (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 28 February 2021. สืบค้นเมื่อ March 2, 2021.
- ↑ "N. Korea revises leadership ideology to legitimize rule of Kim Jong-un". Yonhap News Agency. August 12, 2013. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 10, 2016. สืบค้นเมื่อ January 20, 2014.
- ↑ Lim, Jae-Cheon (2008). Kim Jong-il's Leadership of North Korea. United Kingdom: Routledge. ISBN 9780203884720. สืบค้นเมื่อ January 20, 2014.
- ↑ Green, Christopher. "Wrapped in a Fog: On the North Korean Constitution and the Ten Principles," Sino-NK, June 5, 2012. Retrieved January 3, 2016.
- ↑ Cha, John (2012). Exit Emperor Kim Jong-il. United States: Abbott Press. ISBN 978-1-4582-0216-1.
- ↑ "What Are the 'Ten Principles'?". Daily NK. September 9, 2013. สืบค้นเมื่อ January 20, 2014.
- ↑ Moon, Sung Hui (December 17, 2013). "North Korea Steps Up Ideological Campaign Amid Tensions". Radio Free Asia. สืบค้นเมื่อ January 20, 2014.
- ↑ Kang Mi Jin (September 13, 2013). "NK Adds Kim Jong Il to 'Ten Principles'". Daily NK. สืบค้นเมื่อ January 20, 2014.
- ↑ Roh, Jeong-Ho (2006). "Ten Principles for the Establishment of the One-Ideology System". Columbia Law School. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-10-22. สืบค้นเมื่อ January 20, 2014.
- ↑ "Archived copy" (PDF). www.internationallawbureau.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 6 September 2017. สืบค้นเมื่อ 17 January 2022.
{{cite web}}: CS1 maint: archived copy as title (ลิงก์)
บรรณานุกรม
[แก้]- Lim, Jae-Cheon (2015). Leader Symbols and Personality Cult in North Korea: The Leader State. New York: Taylor & Francis. ISBN 978-1-317-56740-0.
- Juliana Dowling & Dae Un Hong (2021). The Enshrinement of Nuclear Statehood in North Korean Law: Its Implications for Future Denuclearization Talks with North Korea. Illinois Law Review Online. 2021 Spring: 48–62. online
หนังสืออ่านเพิ่ม
[แก้]- Kim, Il-sung (1967). Let Us Embody More Thoroughly the Revolutionary Spirit of Independence, Self-sustenance and Self-defence in All Fields of State Activity: Political Programme of the Government of the Democratic People's Republic of Korea, Announced at the First Session of the Fourth Supreme People's Assembly of the D.P.R.K., December 16, 1967. Pyongyang: Foreign Languages Publishing House. OCLC 712082791.