ข้ามไปเนื้อหา

เจ้าจอมประคอง ในรัชกาลที่ 5

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เจ้าจอมประคอง ในรัชกาลที่ 5
เจ้าจอมประคอง ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
เกิดคุณประคอง อมาตยกุล
พ.ศ. 2408
สยาม
เสียชีวิตช่วงสงครามเกาหลี พ.ศ. 2494
 ไทย
คู่สมรสพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
บุพการีพระยาธรรมสารนิติพิพิธภักดี (ตาด อมาตยกุล)
คุณหญิงอิ่ม ธรรมสารนิติ

เจ้าจอมประคอง ในรัชกาลที่ 5 ต.จ. กำเนิดในสกุลอมาตยกุล เมื่อปี พ.ศ. 2408 เป็นธิดาคนที่ 5 ของพระยาธรรมสารนิติพิพิธภักดี (ตาด อมาตยกุล) อธิบดีศาลต่างประเทศ กับคุณหญิงอิ่ม ธรรมสารนิติ มีพี่น้องร่วมมารดา 6 คน มีชื่อคล้องจองในวัยเยาว์อันไพเราะว่า "แสนถนอม-จอมถวิล-ปิ่นอนงค์-พงษ์ประวัติ-ถัดประคอง-รองจรูญ"

ท่านเหล่านี้ภายหลังมีชื่อและบรรดาศักดิ์ในภายหลังว่า

  1. คุณหญิงถนอม เพชรพิไชย
  2. พระยาอภัยรณฤทธิ์ (จอมถวิล อมาตยกุล)
  3. คุณหญิงอนงค์ อภิรักษ์ราชอุทยาน
  4. หลวงพิเทศพิไสย (ประวัติ อมาตยกุล)
  5. เจ้าจอมประคอง ต.จ.
  6. คุณจรูญ อมาตยกุล

ประวัติ

[แก้]

ตามประเพณีไทยในวงศ์สกุลใหญ่สมัยนั้น ถือกันว่ามีบุตรก็ให้ถวายตัวรับราชการฝ่ายหน้า มีธิดาให้ถวายตัวรับราชการฝ่ายใน ด้วยเหตุนี้ ธิดาของพระยาธรรมสารนิติ ที่มีชื่อว่า "ถัดประคอง" จึงถูกเตรียมนำเข้าถวายตัว ตั้งแต่อายุ 11 ปี เมื่อ พ.ศ. 2419 โดยพำนักอยู่กับท้าวทรงกันดาล (วรรณ อมาตยกุล) ผู้ว่าราชการพระคลังฝ่ายใน เพื่อฝึกระเบียบชาววัง จนอายุ 14 ปี ใน พ.ศ. 2422 จึงถวายตัวรับราชการฝ่ายใน เป็นเจ้าจอมรุ่นแรก ๆ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

โดยที่พระยาธรรมสารนิติ ผู้บิดา จัดเจนในซอสามสาย และได้แนะนำตัวท่านเจ้าจอมประคอง ให้ฝึกเล่นมาก่อนจะถวายตัว รับกลเด็ดเม็ดพรายในการสีซอจากเจ้าคุณบิดาไว้มาก ดังนั้นเมื่อเข้าไปเป็นเจ้าจอม ท่านจึงเล่นซอสามสายได้เป็นเอก และได้เข้าร่วมอยู่ในวงมโหรีหลวง ร่วมกับเจ้าจอมมารดาชั้นผู้ใหญ่ คือ เจ้าจอมมารดาวาด ในรัชกาลที่ 5 และ เจ้าจอมมารดาเหม ในรัชกาลที่ 5 มีผู้เล่าว่าท่านเป็นผู้มีบุคลิกเป็นสง่างาม ตัวใหญ่ เวลานั่งสีซอจะตัวตรงอกผาย หน้าที่ของท่านนอกจากจะสีซอแล้ว ยังได้รับไว้วางพระราชหฤทัย ให้เป็นผู้อบร่ำผ้าเช็ดพระพักตร์ ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวด้วย

เจ้าจอมประคอง ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตติยจุลจอมเกล้า ณ ท้องพระโรงกลาง พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2439 กับหีบหมากทองคำเป็นเกียรติยศ และได้รับพระราชทานเบี้ยหวัดปีละ 7 ชั่ง

ในด้านการครองชีพในพระบรมมหาราชวัง เจ้าจอมประคองคงไม่รับเพียงเบี้ยหวัดเงินปีเท่านั้น แต่ยังได้ทำอุตสาหกรรมในเรือน เป็นต้นว่า รับจ้างย้อมผ้าสไบสีต่าง ๆ ตลอดจนย้อมด้วยลูกคำ ซึ่งสมัยนั้นหาคนทำได้ดียาก โดยเฉพาะสีเกสรชมพู่นั้นท่านทำได้อย่างดี ในกระบวนคุณจอมทั้งหลายต้องมาให้ท่านทำทั้งสิ้น พร้อมกับจีบ อบร่ำ ปรุงน้ำอบ ปรุงน้ำมันอย่างดี ทำขายดีมาก

นอกจากนี้ยังทำขนมต่าง ๆ ให้คนใช้ไปเร่ขายตามตำหนักต่าง ๆ เช่น ขนมตาล สมัยนั้นเป็นที่เลื่องลือ, ขนมอินเวนต์ ที่ท่านคิดทำขึ้นเอง, ขนมผิงที่รับประทานแล้วละลายทันที, ขนมเรือ ฯลฯ สรุปแล้วกำไรตกราวเดือนละ 400-500 บาท นับเป็นเจ้าจอมที่มีฐานะท่านหนึ่ง

เมื่อสิ้นรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แล้วเจ้าจอมประคองได้กราบถวายบังคมลาออกมาพำนักนอกวัง มาอาศัยกับคุณหญิงทรามสงวน อภัยรณฤทธิ์ ผู้เป็นพี่สะใภ้ ที่บ้านชื่อ "สงวนสุข" ถนนพระราม 5 ซึ่งในเวลาต่อมาได้ใช้เป็นที่ทำการ พรรคสหภูมิ และ พรรคชาติสังคม โดยก่อนหน้านั้นท่านได้รับหลานสาว 2 คน เป็นธิดาของน้องชาย หลวงพิเทศพิไสย อันเกิดกับพระนมร่ำ (บุนนาค) คือ คุณสุนีย์สาย อมาตยกุล (คุณหญิงสุนีย์สาย สีหราชเดโชไชย) และ สำนึง อมาตยกุล (ภรรยา ร้อยโทจงกล ไกรฤกษ์) มาเป็นบุตรบุญธรรม ภายหลังท่านก็ได้ปลูกบ้านเป็นของตนเองใกล้ ๆ กับบ้านสงวนสุขนั้น

เจ้าจอมประคองในรัชกาลที่ 5 ถึงแก่อนิจกรรม ระหว่างสงครามเกาหลีหรือหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิริอายุได้ 86 ปี แต่บรรดาหลาน ๆ ยังคงเก็บศพไว้ จนได้นำมาประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุวัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2509

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

[แก้]

ลำดับสาแหรก

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์รัชกาลปัตยุบันฝ่ายใน" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 25 (39): 1154. 23 ธันวาคม พ.ศ. 2451. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-11-20. สืบค้นเมื่อ 2014-10-22. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)