การเลือกตั้งสมาชิกสมัชชาแห่งชาติของฝรั่งเศส ค.ศ. 2024
| |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ทั้ง 577 ที่นั่งในสมัชชาแห่งชาติ ต้องการ 289 ที่นั่งจึงเป็นฝ่ายข้างมาก | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| ลงทะเบียน | 49,332,709 (รอบที่ 1) 43,328,540 (รอบที่ 2) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| ผู้ใช้สิทธิ | รอบที่ 1 : 66.7% รอบที่ 2 : 66.6% | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
แผนที่แสดงผลการเลือกตั้งรอบที่หนึ่ง | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
แผนที่แสดงผลการเลือกตั้งรอบที่สอง | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
องศ์ประกอบของสมัชชาแห่งชาติหลังการเลือกตั้ง | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
การเลือกตั้งสมาชิกสมัชชาแห่งชาติของฝรั่งเศส ค.ศ. 2024 จัดขึ้นรอบแรกในวันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน ค.ศ. 2024 และรอบที่ 2 ในวันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ. 2024 เพื่อเลือกตั้งทั้ง 577 ที่นั่งของสมัชชาแห่งชาติของฝรั่งเศส
การเลือกตั้งครั้งนี้ได้จัดขึ้นหลังจากแอมานุแอล มาครง ประธานาธิบดี ประกาศยุบสภาชุดที่แล้วในวันที่ 9 มิถุนายน ค.ศ. 2024 ซึ้งเกิดขึ้นจากพ่ายแพ้อย่างหนักของพันธมิตรฝ่ายประธานาธิบดีในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภายุโรปในวันเดียวกัน
นับเป็นครั้งที่ 6 ในสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 5 ที่มีกฤษฎีกายุบสภาล่างโดยใช้มาตรา 12 ของรัฐธรรมนูญฝรั่งเศส การยุบสภาล่าสุดเกิดขึ้นในปีค.ศ. 1997 ในช่วงสมัยแรกของประธานาธิบดีฌัก ชีรัก ซึ้งผลการเลือกตั้งครั้งนั้นปรากฎว่าพันธมิตรฝ่ายซ้ายหลายพรรคที่นำโดย ลียอแนล ฌ็อสแป็ง เลขาธิการแรกพรรคสังคมนิยมในขณะนั้น ได้ชัยชนะที่นั่งส่วนใหญ่จึงกลายเป็นฝ่ายข้างมาก และต่อจากนั้น ฌ็อสแป็งก็ได้เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีดังกล่าว
ในรอบแรกของการเลือกตั้ง พรรคฝ่ายขวาจัด พรรคแนวร่วมแห่งชาติ (Rassemblement national, RN) และพันธมิตรนำด้วยคะแนนเสียง 33.21% ตามมาด้วยพันธมิตรฝ่ายซ้าย แนวร่วมประชาชนใหม่ (Nouveau Front populaire, NFP) ด้วยคะแนนเสียง 28.14% ส่วนพันธมิตรฝ่ายสนับสนุนประธานาธิบดี ร่วมกันเพื่อสาธารณรัฐ (Ensemble pour la République, ENS) ได้รับคะแนนเสียง 21.28% และพรรคเลเรปูว์บลีแก็งและผู้สมัครฝ่ายขวาต่าง ๆ ด้วยคะแนนเสียง 10.17% ในรอบนี้มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์โดยรวม 66.71% ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ค.ศ. 1997
ในรอบที่ 2 ของการเลือกตั้ง พันธมิตรแนวร่วมประชาชนใหม่ได้ครองอันดับหนึ่งเนื่องจากได้รับที่นั่งมากกว่าคาดหวัง ต่อจากพันธมิตรร่วมกันเพื่อสาธารณรัฐที่ครอบอันดับสอง ส่วนพรรคแนวร่วมแห่งชาติและพันธมิตรครองแค่อันดับที่สามเท่านั้น
หลังจากการเลือกตั้งสิ้นสุด กาบรีแยล อาตาล นายกรัฐมนตรี ประกาศว่าจะยืนหนังสือลาออกจากตำแหน่งในวันที่ต่อมาซึ้งมาครงปฎิเสธในขั้นต้นแต่มีผลในวันที่ 16 กรกฎาคม ทำให้รัฐบาลกลายเป็นรักษาการและรัฐมนตรีได้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงโหวดให้ประธานสมัชชาแห่งชาติ
หลังจากนั้น พันธมิตรแนวร่วมประชาชนใหม่เสนอชื่อนางลูซี กัสแตทซ์ ผู้อำนวยงานด้านการเงินและการจัดซื้อของกรุงปารีส แต่มาครงกลับไม่ได้ส่งความตั้งใจที่จะแต่งตั้งเธอเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยอ้างว่าต้องรอแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่จัดขึ้นในกรุงปารีสให้สิ้นสุดลง จากนั้น มาครงก็เริ่มมีการปรึกษาหารือมากมายจากฝ่ายการเมืองต่าง ๆ แล้วในที่สุดก็ได้แต่งตั้งนายมีแชล บาร์เนียร์ สมาชิกพรรคเลเรปูว์บลีแก็งและอดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป
เบื้องหลัง
[แก้]การเลือกตั้งสมาชิกสมัชชาแห่งชาติ ค.ศ. 2022
[แก้]หลังจากแอมานุแอล มาครง ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีฝรั่งเศสเป็นสมัยที่ 2 การเลือกตั้งสมาชิกสมัชชาแห่งชาติก็ตามมาในเดือนมิถุนายนของปีเดียวกัน ผลการเลือกตั้งครั้งนั้นปรากฎว่าพันธมิตร อ็องซ็องบล์ (Ensemble) ซึ้งเป็นพันธมิตรฝ่ายสนับสนุนเสียงข้างมากของประธานาธิบดีและนำโดยพรรคของประธานาธิบดี พรรคลาเรปูว์บลีก็องมาร์ช (LREM) (ต่อมาพรรคได้เปลี่ยนชื่อเป็น เรอแนซ็องส์) ได้สูญเสียเสียงข้างมากในสภาล่าง ซึ้งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ค.ศ. 1997 ที่ประธานาธิบดีอยู่ในตำแหน่งไม่สามารถครองเสียงข้างมากโดยสมบูรณ์ในสมัชชาแห่งชาติได้
ในขณะเดียวกัน กลุ่มฝ่ายค้านหลัก 2 กลุ่ม ได้แก่ พันธมิตรทางฝ่ายซ้าย สหภาพประชาชนนิเวศน์วิทยาและสังคมใหม่ (Nouvelle Union Populaire écologique et sociale, นูแวลยูนียงโป๊บปูแลร์เอโกโลชีกเอโซเซียล หรือย่อเป็น NUPES, นูเพส) ซึ้งนำโดยพรรคลาฟร็องแซ็งซูมีซ (LFI) และทางฝ่ายขวาจัด พรรคแนวร่วมแห่งชาติ (RN) ซึ้งนำโดยมารีน เลอ แปน ก็ได้มีนั่งเพิ่มขึ้นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ไม่มีกลุ่มใดที่ได้รับเสียงข้างมากโดยสมบูรณ์
การเลือกตั้งสมาชิกฝรั่งเศสในรัฐสภายุโรป ค.ศ. 2024
[แก้]ฝรั่งเศสมีการเลือกตั้งสมาชิกฝรั่งเศสเป็นผู้แทนราษฎรในรัฐสภายุโรปในวันที่ 9 มิถุนายน ค.ศ. 2024 เพื่อเลือก 81 คนจากทั้งหมด 720 สมาชิกในรัฐสภานั้น
ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการปรากฎว่าพรรคแนวร่วมแห่งชาตินำโดยจอร์ดัน บาร์เดลลา ได้รับ 30 ที่นั่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ หรือคะแนนกว่า 31.3% ขณะที่ทางฝ่ายประธานาธิบดีด้วยพันธมิตรเบอซวงโดโรป (Besoin d'Europe) ซึ้งนำโดยพรรคของประธานาธิบดี พรรคเรอแนซ็องส์ (RE) นั้น ได้รับ 13 ที่นั่งเท่านั้น ซึ้งเป็นความพ่ายแพ้อย่างหนักจากฝ่ายนั้น
ผลการเลือกตั้งยังไม่ได้มีการรับรองจากกระทรวงมหาดไทยของฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม แอมานุแอล มาครง ออกแถลงการในทีวีประกาศยุบสมัชชาแห่งชาติชุดที่ได้รับเลือกตั้งในปีค.ศ. 2022 และจัดขึ้นการเลือกตั้งครั้งใหม่ด้วยรอบที่หนึ่งในวันที่ 30 มิถุนายน และรอบที่สองในวันที่ 7 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้[1][2][3][4]
ระบบการเลือกตั้ง
[แก้]สมาชิกสมัชชาแห่งชาติจำนวน 577 คน ซึ้งเทียบกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ ได้รับการเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี โดยระบบสองรอบในเขตเลือกตั้งที่มีสมาชิกเดียว
ผู้สมัครที่ได้รับคะแนนเสียงส่วนใหญ่คะแนนเสียงรวมมากกว่า 25% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ลงทะเบียนจะได้รับการเลือกตั้งในรอบแรก แต่หากไม่มีผู้สมัครคนใดได้รับเสียงข้างมากก็จัดขึ้นรอบที่สองระหว่างผู้สมัครสองคนอันดับต้น ๆ บวกกับผู้สมัครคนอื่นที่ได้รับคะแนนเสียงรวมมากกว่า 12.5% ของผู้ลงคะแนนที่ลงทะเบียน
อย่างไรก็ตาม ผู้สมัครที่ได้รับคะแนนเสียงมากที่สุดในรอบที่สองจะได้รับเลือก
ผลสำรวจ
[แก้]
ผลการเลือกตั้ง
[แก้]ภาพร่วม
[แก้]| ↓ | ||||||||||
| 180 | 12 | 9 | 1 | 6 | 159 | 1 | 39 | 27 | 142 | 1 |
| NFP | DVG | REG | ECO | DVC | ENS | อื่น ๆ | LR | DVD | RN-UXD | DVXD |
| พรรค/พันธมิตร | รอบที่ 1 | รอบที่ 2 | รวมที่นั่ง | +/- | |||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| คะแนนเสียง | % | ที่นั่ง | คะแนนเสียง | % | ที่นั่ง | ||||
| แนวร่วมประชาชนใหม่ | 9,042,485 | 28.21 |
32 | 7,040,232 | 25.81 |
148 | 180 / 577 |
||
| ร่วมกันเพื่อสาธารณรัฐ | 6,820,446 | 21.28 |
2 | 6,692,365 | 24.53 |
157 | 159 / 577 |
||
| แนวร่วมแห่งชาติ | 9,379,092 | 29.26 |
37 | 8,745,063 | 32.05 |
88 | 125 / 577 |
||
| เลเรปูว์บลีแก็ง | 2,106,166 | 6.57 |
1 | 1,474,723 | 5.41 |
38 | 39 / 577 |
||
| ผู้สมัครพรรคขวาต่าง ๆ | 1,154,785 | 3.60 |
2 | 980,548 | 3.59 |
25 | 27 / 577 |
||
| สหภาพขวาจัด | 1,268,822 | 3.96 |
1 | 1,364,950 | 5.00 |
16 | 17 / 577 |
ใหม่ | |
| ผู้สมัครพรรคซ้ายต่าง ๆ | 490,898 | 1.53 |
0 | 401,063 | 1.47 |
12 | 12 / 577 |
||
| ผู้สมัครฝ่ายลัทธิภูมิภาค | 310,727 | 0.97 |
0 | 288,201 | 1.06 |
9 | 9 / 577 |
||
| ผู้สมัครพรรคกลางต่าง ๆ | 391,423 | 1.22 |
0 | 177,164 | 0.65 |
6 | 6 / 577 |
||
| อื่น ๆ | 142,871 | 0.45 |
0 | 38,025 | 0.14 |
1 | 1 / 577 |
||
| ผู้สมัครนักนิเวศวิทยา | 182,478 | 0.57 |
0 | 37,808 | 0.14 |
1 | 1 / 577 |
||
| ผู้สมัครพรรคขวาจัดต่าง ๆ | 59,679 | 0.19 |
1 | 23,216 | 0.09 |
0 | 1 / 577 |
||
| ผู้สมัครขวาสิทธิอธิปไตย | 90,110 | 0.28 |
0 | 18,672 | 0.07 |
0 | 0 / 577 |
||
| ผู้สมัครพรรคซ้ายจัดต่าง ๆ | 366,594 | 1.14 |
0 | 0 / 577 |
|||||
| พิชิตชัยอีกครั้ง | 238,934 | 0.75 |
0 | 0 / 577 |
|||||
| พรรคซ้ายหัวรุนแรง | 12,434 | 0.04 |
0 | 0 / 577 |
|||||
| คะแนนสมบูรณ์ | 32,057,944 | 97.41 | 76 | 27,282,030 | 94.50 | 501 | 577 | ||
| คะแนนเสีย | 267,803 | 0.81 | 395,302 | 1.37 | |||||
| ไม่ประสงค์ลงคะแนน | 582,908 | 1.77 | 1,193,011 | 4.13 | |||||
| จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง | 32,908,655 | 66.71 | 28,870,343 | 66.63 | |||||
| จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง | 49,332,709 | 100.00 | 43,328,540 | 100.00 | |||||
| ที่มา : กระทรวงมหาดไทย (Ministère de l'Intérieur)[5] | |||||||||
หลังการเลือกตั้ง
[แก้]
หลังจากการเลือกตั้งสิ้นสุด กาบรีแยล อาตาล นายกรัฐมนตรี ประกาศว่าจะยืนหนังสือลาออกจากตำแหน่งในวันที่ต่อมา แต่มาครงกลับให้อยู่ในตำแหน่งต่อเพื่อ"เสถียรภาพประเทศ"[6]
ในวันที่ 10 กรกฎาคม ค.ศ. 2024 ประธานาธิบดี แอมานุแอล มาครง ได้กล่าวภายในจดหมายที่ถูกเผยแพร่ในสื่อว่า "ไม่มีกองกำลังทางการเมืองใดที่ได้รับเสียงข้างมากเพียงพอด้วยของตัวเองและกลุ่มหรือแนวร่วมที่เกิดจากการเลือกตั้งเหล่านี้ล้วนแต่เสียงข้างน้อย" และขอให้มี "เจรจาอย่างจริงใจและด้วยความภักดี" ระหว่างพรรคและแนวรวมการเมืองเพื่อ "สร้างเสียงข้างมากที่มั่นคง ซึ่งจำเป็นต้องมีพหูพจน์เพื่อประเทศ"[7] ต่อมา บุคคลสำคัญทางฝ่ายซ้ายประณามจดหมายดังกล่าวว่าเป็นการ "ปฎิเสธที่จะรับรองผลการเลือกตั้ง" ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามาครง "ไม่ยอมรับความจริง" และพยายามส่งสัญญาณว่าเขาไม่อนุญาติให้แนวร่วมประชาชนใหม่เป็นผู้นำรัฐบาลหากมีสมาชิกพรรคลาฟร็องแซ็งซูมีซเข้าร่วม
ในวันที่ 16 กรกฎาคม มาครงรับหนังสือลาออกของรัฐบาลของอาตาลและรักษาการตำแหน่งจนถึงมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่[8] ทำให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีดังกล่าวไปลงคะแนนเสียงเลือกประธานสมัชชาแห่งชาติได้ ในขณะที่ยังคงดำรงตำแหน่งเป็นรัฐบาลรักษาการ[9]
ในวันที่ 25 กรกฎาคม วันก่อนที่จะมีการเปิดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่จัดขึ้นในกรุงปารีส พันธมิตรแนวร่วมประชาชนใหม่ได้ตกลงกันในชื่อบุคคลคนหนึ่งที่จะเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ้งเป็นนางลูซี กัสแตทซ์ ผู้อำนวยงานด้านการเงินและการจัดซื้อของกรุงปารีส แต่มาครงกลับปฎิเสธการเสนอชื่อนี้ในครั้งแรก โดยอ้างว่า "ไม่มีใครชนะ" การเลือกตั้งในครั้งนี้[10] และจะจัดขี้นการปรึกษาและหารือระหว่างฝ่ายต่าง ๆ เพื่อจัดตั้งรัฐบาล
ในวันที่ 23 สิงหาคม หลังจากการหารือกับผู้นำพรรคต่าง ๆ มาครงประกาศอีกครั้งใน 3 วันต่อมาว่าจะไม่แต่งตั้งลูซี กัสแตทซ์ เป็นนายกรัฐมนตรีเนื่องจากมีความเสี่ยงจากการลงมติไม่ไว้วางใจของรัฐบาลจากพันธมิตรฝ่ายซ้าย[11]
ต่อมา ในวันที่ 2 กันยายน แอมานุแอล มาครงได้รับการเสนอชื่อของแบร์นาร์ กาซเนิฟว์ อดีตนายกรัฐมนตรีจากพรรคสังคมนิยม และซาเวียร์ เบอร์ทรองด์ ประธานสภาแคว้นโอดฟร็องส์ แต่สองบุคคลนี้มีการเสี่ยงจากมติไม่ไว้วางใจจากสมาชิกสมัชชาแห่งชาติเช่นกัน[12] จึงหันมาที่มีแชล บาร์เนียร์ อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวงภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีนีกอลา ซาร์กอซี ฌัก ชีรัก และฟร็องซัว มีแตร็องเป็นต้น ซึ่งได้มีความสนใจเป็นอย่างมากจากมาครงในวันที่ 4 กันยายน[13]
ในที่สุด ในวันที่ 5 กันยายน มาครงตัดสิ้นใจแต่งตั้งมีแชล บาร์เนียร์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป[14][15][16]
หมายเหตุ
[แก้]- ↑ วันก่อตั้งพันธมิตร
- ↑ เอริก ซีอ็อตติเป็นประธานพรรคเลเรปูว์บลีแก็งแต่ได้มีการเสนอกลุ่มคู่แข่งที่มีผู้สมัครประมาณ 60 คนที่เป็นพันธมิตรกับพรรคแนวร่วมแห่งชาติโดยต่อต้านผู้สมัครประมาณ 400 คนที่คัดเลือกโดยคณะกรรมการการลงทุนแห่งชาติพรรคเลเรปูว์บลีแก็งภายใต้การกำกับดูแลของอานนี่ เจนวาร์ด, ฟร็องซัว-ซาเวียร์ เบลลามี และดาเนียล ฟาสแคล ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานพรรคชั่วคราว ก่อนที่ซีอ็อตติจะกลับคืนสู่ตำแหน่งประธานและสมาชิกพรรค
- ↑ เป็นคำเรียกที่ใช้โดยกระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศสเพื่ออ้างถึงผู้สมัครที่ร่วมลงโดยฝ่ายค้ดค้านพรรคเลเรปูว์บลีแก็งที่นำโดยเอรีก ซีอ็อตติ และที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคแนวร่วมแห่งชาติ
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "ประธานาธิบดีฝรั่งเศสยุบสภา เตรียมเลือกตั้งใหม่ หลังแพ้ศึกชิงเก้าอี้รัฐสภายุโรป". www.thairath.co.th. 2024-06-10.
- ↑ ""มาครง" ประกาศยุบสภา หลังแพ้ศึกเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภายุโรป". Thai PBS.
- ↑ "มาครงจี้ชาวฝรั่งเศส 'เลือกให้ถูกต้อง' หลังยุบสภา". bangkokbiznews. 2024-06-10.
- ↑ "มาครงประกาศยุบสภา ฝรั่งเศสเตรียมเลือกตั้งฝ่ายนิติบัญญัติทันทีหลังการเลือกตั้งสหภาพยุโรป". 2024-06-09.
{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "France entière - Elections Législatives 2024 - Publication des résultats des élections en France". www.resultats-elections.interieur.gouv.fr.
- ↑ "'มาครง' ขอ 'แอตตาล' นั่งนายกฯฝรั่งเศต่อ เพื่อเสถียรภาพปท. ระหว่างรอรบ.ใหม่". MATICHON ONLINE. 2024-07-08.
{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "Lettre du Président Emmanuel Macron aux Français". elysee.fr (ภาษาฝรั่งเศส). 2024-07-10.
- ↑ "Macron accepts French PM Attal's resignation but asks him to stay as caretaker". www.bbc.com (ภาษาอังกฤษแบบบริติช).
- ↑ "L'argument comptable de la gauche pour contester l'élection étriquée de Braun-Pivet". Le HuffPost (ภาษาฝรั่งเศส). 2024-07-18.
- ↑ "Résultats législatives 2024 : Emmanuel Macron lance les grandes manœuvres (et assure que « personne n'a gagné »)". 20 Minutes (ภาษาฝรั่งเศส). 10 July 2024. สืบค้นเมื่อ 5 September 2024.
- ↑ "Nouveau gouvernement : Emmanuel Macron refuse de nommer Lucie Castets et lance de nouvelles consultations". Les Echos (ภาษาฝรั่งเศส). 26 August 2024. สืบค้นเมื่อ 5 September 2024.
- ↑ "Matignon: Macron "test" Cazeneuve and Bertrand, the Beaudet surprise emerges". TV5 Monde (ภาษาฝรั่งเศส). 2 September 2024. สืบค้นเมื่อ 5 September 2024.[ลิงก์เสีย].
- ↑ "Nouveau Premier ministre: Michel Barnier, nouvelle "piste sérieuse" d'Emmanuel Macron?". BFMTV (ภาษาฝรั่งเศส). 4 September 2024. สืบค้นเมื่อ 5 September 2024.
- ↑ "Live blog: Macron names Michel Barnier new prime minister". France24 (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 5 September 2024. สืบค้นเมื่อ 5 September 2024.
- ↑ "มาครงแต่งตั้งมีแชล บาร์นีเย อดีตผู้เจรจาเบร็กซิต เป็นนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส". ไทยโพสต์. 2024-09-05. สืบค้นเมื่อ 2024-09-07.
{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ ""มาครง" เลือกนักการเมืองอนุรักษ์นิยมเป็นนายกฯ ฝรั่งเศสคนใหม่". PPTV HD 36. 2024-09-06. สืบค้นเมื่อ 2024-09-07.
{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)