พายุโซนร้อนกำลังแรงทุเรียน (พ.ศ. 2544)
พายุโซนร้อนกำลังแรงทุเรียนขณะมีกำลังแรงสูงสุด เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2544 | |
| ประวัติทางอุตุนิยมวิทยา | |
|---|---|
| ก่อตัว | 29 มิถุนายน พ.ศ. 2544 |
| สลายตัว | 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2544 |
| พายุโซนร้อนกำลังแรง | |
| 10-นาที ของเฉลี่ยลม (JMA) | |
| ความเร็วลมสูงสุด | 110 กม./ชม. (70 ไมล์/ชม.) |
| ความกดอากาศต่ำสุด | 970 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์) ; 28.64 นิ้วปรอท |
| พายุโซนร้อน | |
| 10-นาที ของเฉลี่ยลม (TMD) | |
| ความเร็วลมสูงสุด | 110 กม./ชม. (70 ไมล์/ชม.) |
| ความกดอากาศต่ำสุด | 970 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์) ; 28.64 นิ้วปรอท |
| พายุไต้ฝุ่นระดับ 1 | |
| 1-นาที ของเฉลี่ยลม (SSHWS/JTWC) | |
| ความเร็วลมสูงสุด | 140 กม./ชม. (85 ไมล์/ชม.) |
| ความกดอากาศต่ำสุด | 967 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์) ; 28.56 นิ้วปรอท |
| ผลกระทบ | |
| ผู้เสียชีวิต | 97 ราย |
| ความเสียหาย | $449 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ค่าเงินปี พ.ศ. 2544 USD) |
| พื้นที่ได้รับผลกระทบ | จีน, เวียดนาม |
| IBTrACS | |
ส่วนหนึ่งของ ฤดูพายุไต้ฝุ่นแปซิฟิก พ.ศ. 2544 | |
พายุโซนร้อนกำลังแรงทุเรียน (อักษรโรมัน: Durian)[nb 1] เป็นพายุหมุนเขตร้อนลูกที่สามในบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันตกในช่วงปี พ.ศ. 2544 พายุโซนร้อนกำลังแรงทุเรียนเป็นพายุดีเปรสชันเขตร้อนลูกที่ 7 และพายุโซนร้อนลูกที่ 3 ในฤดูพายุไต้ฝุ่นแปซิฟิก พ.ศ. 2544 ก่อตัวขึ้นจากหย่อมความกดอากาศต่ำเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2544 อยู่บริเวณร่องมรสุมทางตะวันตกของเกาะลูซอน[1] หลังจากนั้นพายุเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือภายใต้อิทธิพลของสันเขากึ่งเขตร้อน และพายุก็ได้ทวีกำลังแรงขึ้นอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นพายุโซนร้อน ต่อมาในวันที่ 30 มิถุนายน พายุโซนร้อนทุเรียนได้ทวีกำลังแรงขึ้นจนกลายเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรงโดยมีกำลังแรงสูงสุดด้วยความเร็วลมสูงสุด 1 นาทีที่ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (85 ไมล์ต่อชั่วโมง) และด้วยความเร็วลมสูงสุด 10 นาทีที่ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (70 ไมล์ต่อชั่วโมง)[nb 2] ความกดอากาศที่ 970 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 28.64 นิ้วของปรอท)[2] ก่อนที่พายุจะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งบริเวณคาบสมุทรเหล่ยโจวของประเทศจีนในวันที่ 1 กรกฎาคม ในขณะมีความรุนแรงสูงสุด หลังจากนั้นพายุเริ่มอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็ว และสลายตัวบริเวณเทือกเขาทางตอนเหนือของประเทศเวียดนามในวันที่ 3 กรกฎาคม[3]
พายุโซนร้อนกำลังแรงทุเรียนได้สร้างความเสียหายอย่างหนักในประเทศจีนโดยเฉพาะในพื้นที่มณฑลกวางตุ้ง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง และมณฑลไหหลำ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยประมาณ 65 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่าประมาณ 500 คน บ้านเรือนได้พังเสียหายประมาณกว่า 13,000 หลัง และมีประชาชนได้รับผลกระทบมากกว่าประมาณ 4.3 ล้านคน เกิดความเสียหายต่อพื้นที่เกษตรกรรมประมาณกว่า 180,000 เฮกตาร์ โดยเฉพาะไร่อ้อย และสวนกล้วย ในจั้นเจียงที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก อีกทั้งมีสัตว์เลี้ยงประมาณกว่า 52,000 ตัว ได้เสียชีวิตลงในเขตชายฝั่งของมณฑลกวางตุ้ง พบผู้สูญหายจากพายุอีกประมาณ 21 ราย ในขณะอยู่ในทะเล เขตปริมณฑลของเมืองได้รับผลกระทบจากฝนตกหนัก และลมแรง ทำให้เกิดน้ำท่วมหลายจุด และมีรายงานความเสียหายสะสมคิดเป็นมูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณ 4.5 พันล้านหยวนจีน (449 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)[4][nb 3] นอกจากนี้ ยังมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ในฮ่องกง[5]
หลังจากพายุโซนร้อนกำลังแรงทุเรียนได้เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งทางตอนใต้ของประเทศจีน และพายุก็ได้เคลื่อนตัวเข้าไปทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม จึงทำให้เกิดฝนตกหนักในระดับรุนแรง นับว่าเป็นน้ำท่วมที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 40 ปี ของทางตอนเหนือของประเทศเวียดนามโดยเฉพาะช่วงวันที่ 2 กรกฎาคม จนถึงวันที่ 4 กรกฎาคม มีปริมาณน้ำฝนสะสมสูงสุดได้ถึงประมาณ 430 มิลลิเมตร (17 นิ้ว) อิทธิพลของพายุได้ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และดินถล่ม คร่าชีวิตประชาชนในทางตอนเหนือของประเทศเวียดนามไปอย่างน้อยประมาณ 32 ราย มีผู้สูญหายอีกประมาณ 3 ราย และบ้านเรือนได้รับความเสียหายมากกว่าประมาณ 20,000 หลัง โดยเฉพาะที่จังหวัดทัญฮว้า ซึ่งมีรายงานผู้เสียชีวิตมากที่สุด และมีมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจสูงถึงประมาณ 1.36 หมื่นล้านด่ง (5.86 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เลวร้ายกว่าน้ำท่วมปกติ กองทัพเวียดนามได้ส่งยานพาหนะสะเทินน้ำสะเทินบกเพื่อช่วยเหลือในภารกิจการค้นหา และกู้ภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ท้ายเงวียน[6]
ประวัติทางอุตุนิยมวิทยา
[แก้]
พายุโซนร้อน (63–117 กม./ชม.)
พายุเฮอริเคนระดับ 1 (118–153 กม./ชม.)
พายุเฮอริเคนระดับ 2 (154–177 กม./ชม.)
พายุเฮอริเคนระดับ 3 (178–208 กม./ชม.)
พายุเฮอริเคนระดับ 4 (209–251 กม./ชม.)
พายุเฮอริเคนระดับ 5 (≥252 กม./ชม.)
พายุที่ไม่ทราบความเร็วลม

ประวัติทางอุตุนิยมวิทยาของพายุโซนร้อนกำลังแรงทุเรียน
- วันที่ 29 มิถุนายน ศูนย์เตือนไต้ฝุ่นร่วม (JTWC)[nb 4] ได้สังเกตบริเวณที่เริ่มมีการพาความร้อนในตอนกลางของทะเลจีนใต้ และประเมินว่าหย่อมความกดอากาศต่ำนี้มีโอกาสก่อตัวเป็นพายุดีเปรสชันเขตร้อนจากภาพดาวเทียมช่วงเช้า พบแนวเมฆที่โค้งหมุนตามลมหมุนวน และการหมุนเวียนลมภายในร่องมรสุม แม้จะมีแรงลมเฉือนแนวตั้งในระดับปานกลางที่ส่งผลยับยั้งการพัฒนาอยู่บ้างก็ตาม ต่อมาสำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA)[nb 5] ได้ยกระดับหย่อมความกดอากาศต่ำให้กลายเป็นพายุดีเปรสชันเขตร้อน และทางศูนย์เตือนไต้ฝุ่นร่วมก็ได้ออกประกาศการแจ้งเตือนการก่อตัวของพายุหมุนเขตร้อนภายในไม่กี่ชั่วโมงถัดมา หลังได้รับรายงานการลดลงของความกดอากาศ และความเร็วลมที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่ เมื่อเวลา 13:00 น. (06:00 น. เวลาสากลเชิงพิกัด) ศูนย์เตือนไต้ฝุ่นร่วมได้ยกระดับหย่อมความกดอากาศต่ำให้กลายเป็นพายุดีเปรสชันเขตร้อน และกำหนดหมายเลขอย่างเป็นทางการว่า 05W
- วันที่ 30 มิถุนายน ศูนย์เตือนไต้ฝุ่นร่วม (JTWC) ได้ยกระดับพายุดีเปรสชันเขตร้อนให้กลายเป็นพายุโซนร้อน และสำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) ได้ยกระดับพายุดีเปรสชันเขตร้อนให้กลายเป็นพายุโซนร้อนเช่นกัน และกำหนดให้ชื่อว่า ทุเรียน ในเวลา 13:00 น. (06:00 น. เวลาสากลเชิงพิกัด) พายุโซนร้อนทุเรียนได้เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เนื่องจากอิทธิพลของสันเขาสูงกึ่งเขตร้อนที่แผ่ลงมาจากทางตอนใต้ของเกาะคีวชู และเมื่อถึงเวลา 01:00 น. (18:00 น. เวลาสากลเชิงพิกัด) ทางสำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นก็ได้ยกระดับพายุโซนร้อนให้กลายเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรง
- วันที่ 1 กรกฎาคม ศูนย์เตือนไต้ฝุ่นร่วม (JTWC) ได้ยกระดับพายุโซนร้อนให้กลายเป็นพายุไต้ฝุ่น หลังจากที่พายุอยู่ห่างไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮ่องกงอยู่ประมาณ 370 กิโลเมตร (230 ไมล์) และข้อมูลดาวเทียมก็ได้พบว่าตาพายุเริ่มปรากฏชัด และมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 20 กิโลเมตร (12 ไมล์) สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) รายงานว่าพายุโซนร้อนกำลังแรงทุเรียนมีกำลังแรงสูงสุดด้วยความเร็วลมสูงสุด 10 นาทีที่ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (70 ไมล์ต่อชั่วโมง) และความกดอากาศที่ 970 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 28.64 นิ้วของปรอท) เมื่อเวลา 01:00 น. (18:00 น. เวลาสากลเชิงพิกัด) โดยพื้นที่ที่มีลมแรงครอบคลุมรัศมีประมาณ 280 กิโลเมตร (170 ไมล์) พายุได้เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งบริเวณมณฑลกวางตุ้งในขณะที่ยังมีความรุนแรงเต็มที่ หลังจากเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งพายุเริ่มอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็ว และลดระดับจากพายุไต้ฝุ่นเมื่อเคลื่อนตัวเข้าสู่ทางตอนบนของอ่าวตังเกี๋ย และเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง
- วันที่ 2 กรกฎาคม ศูนย์เตือนไต้ฝุ่นร่วม (JTWC) ได้ออกคำเตือนเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อเวลา 01:00 น. (18:00 น. เวลาสากลเชิงพิกัด)
- วันที่ 3 กรกฎาคม สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) ได้ลดระดับพายุโซนร้อนให้กลายเป็นพายุดีเปรสชันเขตร้อนเมื่อพายุเคลื่อนตัวอยู่ใกล้หนานหนิง และพายุก็ได้สลายตัวลงอย่างสมบูรณ์ หลังเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่ภูเขาในทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม
การเตรียมการ
[แก้]ประเทศจีน
[แก้]ในมณฑลไหหลำมีการยกเลิกเที่ยวบินประมาณกว่า 30 เที่ยวบิน มีรายงานว่าการคมนาคม และระบบขนส่งสาธารณะ ในบางพื้นที่ถูกจำกัดการเดินทางชั่วคราวเพื่อเตรียมรับมือกับพายุ[9]
ฮ่องกง
[แก้]เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน หอดูดาวฮ่องกง (HKO) ได้ประกาศสัญญาณเตือนภัยพายุหมุนเขตร้อนหมายเลข 1 หลังจากพายุโซนร้อนกำลังแรงทุเรียนก่อตัวขึ้นทางตอนเหนือของทะเลจีนใต้ในขณะนั้นพายุอยู่ห่างจากฮ่องกงไปทางตอนใต้ประมาณ 650 กิโลเมตร (400 ไมล์) ทำให้พื้นที่มีสภาพอากาศมืดครึ้ม มีฝนตกเป็นระยะ และมีพายุฝนฟ้าคะนอง เมื่อเวลา 08:40 น. (01:40 น. เวลาสากลเชิงพิกัด) ต่อมาหอดูดาวฮ่องกงได้ยกระดับเป็นสัญญาณเตือนภัยพายุหมุนเขตร้อนหมายเลข 3 ซึ่งถือเป็นการออกสัญญาณหมายเลข 3 ครั้งแรกของปี พ.ศ. 2544 ในขณะนั้นพายุโซนร้อนกำลังแรงทุเรียนอยู่ห่างจากฮ่องกงไปทางตอนใต้ประมาณ 470 กิโลเมตร (290 ไมล์) โดยบริเวณเขตชายฝั่ง และพื้นที่ที่มีความสูง ในฮ่องกงเริ่มได้รับลมแรงระดับพายุในเวลา 23:20 น. (16:20 น. เวลาสากลเชิงพิกัด) พายุได้เคลื่อนตัวเข้าใกล้ฮ่องกงมากที่สุดโดยอยู่ห่างจากฮ่องกงไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 330 กิโลเมตร (205 ไมล์) หอดูดาวฮ่องกงรายงานว่าในเวลา 16:30 น. (09:30 น. เวลาสากลเชิงพิกัด) ได้มีการบันทึกความกดอากาศอยู่ที่ 1,000.7 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 29.55 นิ้วของปรอท) และในขณะเดียวกันลมแรงได้เริ่มลดระดับลง เนื่องจากพายุเริ่มอ่อนกำลังลงหลังขึ้นฝั่งในวันที่ 1 กรกฎาคม หอดูดาวฮ่องกงได้ประกาศยกเลิกสัญญาณเตือนภัยพายุหมุนเขตร้อนทั้งหมดในเวลา 10:20 น. (03:20 น. เวลาสากลเชิงพิกัด) ของวันที่ 2 กรกฎาคม[10]
มาเก๊า
[แก้]เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน สำนักงานอุตุนิยมวิทยา และธรณีฟิสิกส์มาเก๊า (SMG) ได้ออกประกาศสัญญาณพายุหมุนเขตร้อนหมายเลข 1 หลังจากพายุโซนร้อนกำลังแรงทุเรียนก่อตัวขึ้นทางตอนเหนือของทะเลจีนใต้ในขณะนั้นพายุอยู่ห่างจากมาเก๊าไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 630 กิโลเมตร (390 ไมล์) เมื่อเวลา 17:45 น. (10:45 น. เวลาสากลเชิงพิกัด) ต่อมาในช่วงเช้าของวันที่ 1 กรกฎาคม สำนักงานอุตุนิยมวิทยา และธรณีฟิสิกส์มาเก๊า ได้ออกประกาศสัญญาณพายุหมุนเขตร้อนหมายเลข 3 เนื่องจากพายุกำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้ในขณะนั้นพายุอยู่ห่างจากมาเก๊าไปทางตอนใต้ประมาณ 350 กิโลเมตร (220 ไมล์) และในขณะที่อิทธิพลของพายุเริ่มส่งผลให้มีลมแรง และฝนตกหนักเป็นช่วง ๆ ในพื้นที่ พายุโซนร้อนกำลังแรงทุเรียนได้เคลื่อนตัวเข้าใกล้มาเก๊าในช่วงเย็นโดยมีจุดใกล้ที่สุดอยู่ห่างจากมาเก๊าไปทางตอนใต้ประมาณ 280 กิโลเมตร (170 ไมล์) หลังจากนั้นพายุเริ่มอ่อนกำลังลง เนื่องจากขึ้นฝั่ง สำนักงานอุตุนิยมวิทยา และธรณีฟิสิกส์มาเก๊า ได้ประกาศยกเลิกสัญญาณเตือนภัยพายุหมุนเขตร้อนทั้งหมดในเวลา 18:00 น. (11:00 น. เวลาสากลเชิงพิกัด) ของวันที่ 2 กรกฎาคม[11]
ผลกระทบ
[แก้]ประเทศจีน
[แก้]พายุโซนร้อนกำลังแรงทุเรียนได้เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งประเทศจีนส่งผลกระทบต่อพื้นที่หลายมณฑลของประเทศจีน เช่น มณฑลกวางตุ้ง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง และมณฑลไหหลำ ซึ่งมีประชาชนประมาณกว่า 4.3 ล้านคน ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง และมีบ้านเรือนอย่างน้อยประมาณ 13,000 หลัง ได้รับความเสียหายอย่างหนัก มีปริมาณน้ำฝนสูงถึงประมาณ 305 มิลลิเมตร (12 นิ้ว) และมีพื้นที่การเกษตรเสียหายราวประมาณ 18,000 เฮกตาร์ โดยเฉพาะไร่อ้อย และสวนกล้วย ซึ่งได้รับความเสียหายจำนวนมาก ในขณะที่ระบบสาธารณูปโภค เช่น น้ำประปา ไฟฟ้า และระบบการสื่อสาร เป็นต้น ในพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจนต้องหยุดชะงักชั่วคราวในจั้นเจียง นอกจากนี้ ยังมีสัตว์เลี้ยงประมาณกว่า 52,000 ตัว ได้เสียชีวิตลง มีรายงานผู้สูญหายประมาณ 21 ราย ในบริเวณชายฝั่งของมณฑลกวางตุ้ง และในมณฑลไหหลำมีเที่ยวบินถูกยกเลิกประมาณกว่า 30 เที่ยวบิน ส่งผลให้ผู้โดยสารมากกว่าประมาณ 2,000 คน ไม่สามารถเดินทางออกจากพื้นที่ได้ตามกำหนด มีรายงานปริมาณน้ำฝนสูงถึงประมาณ 209 มิลลิเมตร (8.2 นิ้ว) ส่งผลให้หลายพื้นที่เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และดินถล่มในหนานหนิง โดยรวมของพายุโซนร้อนกำลังแรงทุเรียนได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตในประเทศจีนทั้งหมดประมาณ 65 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่าประมาณ 500 คน คิดเป็นความเสียหายทางเศรษฐกิจประมาณ 4.5 พันล้านหยวนจีน (449 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ฮ่องกง
[แก้]
ในฮ่องกงได้เกิดปรากฏการณ์พายุงวงช้างอยู่บริเวณช่องแคบทาทงในเวลา 13:50 น. (06:50 น. เวลาสากลเชิงพิกัด) ก่อนที่จะสลายตัวหลังพัดขึ้นฝั่งโดยมีรายงานว่าหญิงชาวฮ่องกงได้รับบาดเจ็บจากแผ่นไม้ที่ปลิวมาจากแรงลมพายุ นอกจากนี้ ยังมีรายงานต้นไม้โค่นล้มลง และโครงนั่งร้านพังถล่ม ในหลายเขตของเมืองรวมถึงเขตจอร์แดนวัลเลย์ที่มีปริมาณน้ำฝนสะสมสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 190.5 มิลลิเมตร (7.5 นิ้ว) ในขณะที่ระดับน้ำสูงขึ้นโดยพายุถูกบันทึกไว้ที่ 0.56 เมตร ในวันที่ 1 กรกฎาคม แม้พายุโซนร้อนกำลังแรงทุเรียนจะไม่เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งโดยตรงในฮ่องกง แต่ก็ส่งผลให้เกิดสภาพอากาศเลวร้ายชั่วคราว และก่อให้เกิดความเสียหายในบางพื้นที่ โดยเฉพาะจากแรงลม และฝนตกหนักที่มาพร้อมกับพายุ[12]
มาเก๊า
[แก้]แม้พายุโซนร้อนกำลังแรงทุเรียนจะไม่ได้เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งโดยตรงที่มาเก๊า แต่อิทธิพลของฝนตก และลมแรงจากพายุ ส่งผลให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองในหลายพื้นที่โดยเฉพาะในวันที่ 1 กรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงที่พายุอยู่ใกล้ที่สุด สภาพอากาศมีความปั่นป่วนจากวงนอกของพายุที่ทำให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง และลมแรง ในพื้นที่ใกล้เคียง อย่างไรก็ตาม ไม่มีรายงานความเสียหาย หรือผู้เสียชีวิตในมาเก๊า[13]
ประเทศเวียดนาม
[แก้]พายุโซนร้อนกำลังแรงทุเรียนได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อบริเวณทางตอนเหนือของประเทศเวียดนามโดยเฉพาะในช่วงระหว่างวันที่ 2 กรกฎาคม จนถึงวันที่ 4 กรกฎาคม ส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก และน้ำท่วมในวงกว้าง ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในเหตุการณ์น้ำท่วมที่รุนแรงที่สุดในรอบ 40 ปี ของภูมิภาคนี้[14] จากรายงานของศูนย์พยากรณ์อุทกวิทยาแห่งชาติของเวียดนาม (NCHMF) ระบุว่ามีปริมาณน้ำฝนสะสมสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 432 มิลลิเมตร (17 นิ้ว) ภายในระยะเวลาเพียง 3 วัน อิทธิพลของพายุได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยประมาณ 32 ราย และมีผู้สูญหายประมาณ 3 ราย บ้านเรือนมากกว่าประมาณ 20,000 หลัง ได้รับความเสียหาย หรือพังทลาย จากน้ำท่วมฉับพลันโดยเป็นพื้นที่ราบลุ่ม และที่อยู่อาศัยตามแม่น้ำสายหลักต่าง ๆ ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง กองทัพเวียดนามได้ส่งยานพาหนะสะเทินน้ำสะเทินบกเข้าไปให้การช่วยเหลือประชาชนที่ติดค้างในพื้นที่น้ำท่วมโดยในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบพบว่าร้อยละ 80 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่ทั้งหมดที่มีน้ำท่วมขังบางส่วนในท้ายเงวียน และระดับน้ำในแม่น้ำโลสูงเกินระดับเตือนภัยขั้นที่ 3 อยู่ที่ประมาณ 2.6 เมตร[15]
ดูเพิ่ม
[แก้]- ฤดูพายุไต้ฝุ่นแปซิฟิก พ.ศ. 2544
- รายชื่อของพายุทุเรียน
- พายุหมุนเขตร้อนที่มีเส้นทางที่คล้ายกัน
หมายเหตุ
[แก้]- ↑ "ทุเรียน" เป็นชื่อพายุหมุนเขตร้อนในรายชื่อชุดที่ 1 ลำดับที่ 26 ของมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกฝั่งเหนือ และส่งโดยประเทศไทย
- ↑ ความเร็วลมเฉลี่ยนี้ใช้ความเร็วลมเฉลี่ยใน 10 นาที เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอื่น ๆ
- ↑ ตัวเลขความเสียหายในบทความนี้เป็นค่าเงินในปี พ.ศ. 2544 เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอื่น ๆ
- ↑ ศูนย์เตือนไต้ฝุ่นร่วม เป็นหน่วยงานเฉพาะกิจร่วมระหว่างกองทัพเรือสหรัฐ – กองทัพอากาศสหรัฐ ซึ่งจะออกประกาศเตือนภัยพายุหมุนเขตร้อนในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก และภูมิภาคอื่น ๆ[7]
- ↑ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นเป็นศูนย์อุตุนิยมวิทยาชำนัญพิเศษประจำภูมิภาคอย่างเป็นทางการในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก[8]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Padgett, Gary (June 2001). "Monthly Global Tropical Cyclone Summary June 2001". Summaries and Track Data (ภาษาอังกฤษ). Australiansevereweather.com.
- ↑ Annual Report on Activities of the RSMC Tokyo – Typhoon Center 2001 (PDF) (Report) (ภาษาอังกฤษ). Tokyo, Japan: Japan Meteorological Agency. สืบค้นเมื่อ 3 May 2023.
- ↑ Joint Typhoon Warning Center. Annual Tropical Cyclone Report (PDF) (Report) (ภาษาอังกฤษ). United States Navy. สืบค้นเมื่อ 3 May 2023.
- ↑ "HKO Tropical Cyclones in 2001" (PDF) (ภาษาอังกฤษ). 2019-11-04. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 4 November 2019. สืบค้นเมื่อ 6 March 2021.
- ↑ "Meaning of Tropical Cyclone Names". www.hko.gov.hk (ภาษาอังกฤษ). 2023-01-30. สืบค้นเมื่อ 30 January 2023.
- ↑ "Typhoon Utor claims 40 lives" (ภาษาอังกฤษ). 2001-07-05. สืบค้นเมื่อ 7 March 2021.
- ↑ "Joint Typhoon Warning Center Mission Statement". Joint Typhoon Warning Center. United States Navy. 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 26, 2007. สืบค้นเมื่อ December 25, 2011.
- ↑ "Annual Report on Activities of the RSMC Tokyo – Typhoon Center 2000" (PDF). Japan Meteorological Agency. February 2001. p. 3. สืบค้นเมื่อ December 25, 2011.
- ↑ "Monthly Global Tropical Cyclone Summary June 2001". australiasevereweather.com (ภาษาอังกฤษ). 2021-03-06. สืบค้นเมื่อ 6 March 2021.
- ↑ "HKO Tropical Cyclones in 2001" (PDF) (ภาษาอังกฤษ). 2019-11-04. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 4 November 2019. สืบค้นเมื่อ 6 March 2021.
- ↑ "2001年香港天文台熱帶氣旋年刊" (PDF) (ภาษาจีน). 2013-08-29. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 30 September 2013. สืบค้นเมื่อ 29 August 2013.
- ↑ "The Weather of July 2001". www.info.gov.hk (ภาษาอังกฤษ). 2021-03-06. สืบค้นเมื่อ 6 March 2021.
- ↑ 2001 Annual Tropical Cyclone Report (PDF) (Report) (ภาษาอังกฤษ). 2021-03-06. สืบค้นเมื่อ 6 March 2021.
- ↑ "Typhoon Utor claims 40 lives" (ภาษาอังกฤษ). 2001-07-05. สืบค้นเมื่อ 7 March 2021.
- ↑ "Vietnam Floods Information Bulletin" (PDF). ifrc.org (ภาษาอังกฤษ). 2021-03-07. สืบค้นเมื่อ 7 March 2021.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- พายุหมุนเขตร้อนระบบดิจิทัล (Digital Typhoon) ข้อมูลของพายุโซนร้อนกำลังแรงทุเรียน (0103)
- สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) ข้อมูลเส้นทางของพายุโซนร้อนกำลังแรงทุเรียน (0103)
- สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไทย (TMD) ข้อมูลเส้นทางของพายุโซนร้อนทุเรียน (0103)
- ศูนย์เตือนไต้ฝุ่นร่วม (JTWC) ข้อมูลเส้นทางของพายุไต้ฝุ่นทุเรียน (05W)