ข้ามไปเนื้อหา

พายุโซนร้อนกำลังแรงวิภา (พ.ศ. 2568)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พายุโซนร้อนกำลังแรงวิภา
พายุโซนร้อนกำลังแรงกรีซิง
พายุโซนร้อนกำลังแรงวิภาขณะมีกำลังแรงสูงสุด
เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
ประวัติทางอุตุนิยมวิทยา
ก่อตัว16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
สลายตัว23 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
พายุโซนร้อนกำลังแรง
10-นาที ของเฉลี่ยลม (JMA)
ความเร็วลมสูงสุด110 กม./ชม. (70 ไมล์/ชม.)
ความกดอากาศต่ำสุด970 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์)
; 28.64 นิ้วปรอท
พายุโซนร้อน
10-นาที ของเฉลี่ยลม (TMD)
ความเร็วลมสูงสุด110 กม./ชม. (70 ไมล์/ชม.)
ความกดอากาศต่ำสุด970 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์)
; 28.64 นิ้วปรอท
พายุไต้ฝุ่นระดับ 1
1-นาที ของเฉลี่ยลม (SSHWS/JTWC)
ความเร็วลมสูงสุด120 กม./ชม. (75 ไมล์/ชม.)
ความกดอากาศต่ำสุด970 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์)
; 28.64 นิ้วปรอท
ผลกระทบ
ผู้เสียชีวิต60 ราย
ความเสียหาย$1.12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
(ค่าเงินปี พ.ศ. 2568 USD)
พื้นที่ได้รับผลกระทบฟิลิปปินส์, ไต้หวัน, จีน,
ฮ่องกง, มาเก๊า, เวียดนาม,
ไทย, ลาว, พม่า
IBTrACS

ส่วนหนึ่งของ ฤดูพายุไต้ฝุ่นแปซิฟิก พ.ศ. 2568

พายุโซนร้อนกำลังแรงวิภา[nb 1] หรือที่ในประเทศฟิลิปปินส์เรียกว่า พายุโซนร้อนกำลังแรงกรีซิง (ตากาล็อก: Crising)[nb 2] เป็นพายุหมุนเขตร้อนลูกที่หกในบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันตกในช่วงปี พ.ศ. 2568 ก่อตัวขึ้นจากหย่อมความกดอากาศต่ำเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 อยู่บริเวณทางตะวันออกของทะเลฟิลิปปินห่างจากทางตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ไปประมาณ 1,040 กิโลเมตร (646 ไมล์)[1] พายุได้กลายเป็นพายุดีเปรสชันเขตร้อน เนื่องจากลักษณะของพายุมีโครงสร้างหมุนกว้าง และแผ่กว้างอย่างผิดปกติ[2] ก่อนที่จะตรวจพบการสะสมตัวของกลุ่มเมฆหนาแน่นมากขึ้นในวันที่ 16 กรกฎาคม[3] ต่อมาพายุก็ได้กลายเป็นพายุโซนร้อน และเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือผ่านใกล้จังหวัดคากายัน และเกาะบาบูยัน ก่อนที่พายุจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ทางตอนเหนือของทะเลจีนใต้เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม[4] พายุโซนร้อนวิภาได้กลายเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรงในขณะที่พายุเคลื่อนตัวผ่านพื้นที่ทางตอนเหนือของเกาะลูซอน และเคลื่อนตัวเข้าสู่ทะเลจีนใต้ พายุได้ทวีกำลังแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นพายุไต้ฝุ่นจากสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาอย่างเด่นชัด[5] พายุโซนร้อนกำลังแรงวิภามีกำลังแรงสูงสุดด้วยความเร็วลมสูงสุด 1 นาทีที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (75 ไมล์ต่อชั่วโมง) และด้วยความเร็วลมสูงสุด 10 นาทีที่ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (70 ไมล์ต่อชั่วโมง)[nb 3] ความกดอากาศที่ 970 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 28.64 นิ้วของปรอท) ในวันที่ 20 กรกฎาคม หลังจากนั้นพายุได้เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งบริเวณเจียงเหมินในมณฑลกวางตุ้ง และเริ่มอ่อนกำลังลงอย่างช้า ๆ ในขณะที่เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้เข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ต่อมาพายุได้เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งอีกครั้งบริเวณจังหวัดฮึงเอียน และจังหวัดนิญบิ่ญ ในฐานะพายุโซนร้อนที่อ่อนกำลังลง หลังจากนั้นพายุได้เคลื่อนตัวเข้าสู่แผ่นดินจนกระทั่งสลายตัวในวันที่ 23 กรกฎาคม[6]

พายุโซนร้อนกำลังแรงวิภามีอิทธิพลต่อการเสริมกำลังของมรสุมทางตะวันตกเฉียงใต้ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักทั่วหลายพื้นที่ของประเทศประเทศฟิลิปปินส์โดยเฉพาะทางตอนบนกับตอนกลางของเกาะลูซอน จึงทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และดินถล่มเป็นวงกว้าง ส่งผลกระทบต่อประชาชนประมาณมากกว่า 420,000 คน ทั่วประเทศ[7] รัฐบาลรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย และมีผู้สูญหายอีก 4 ราย จากเหตุน้ำท่วม และดินถล่ม จากอิทธิพลของพายุ[8] รัฐบาลท้องถิ่นในเซบู อูมิงกัน และจังหวัดปังกาซีนัน ได้ประกาศสถานการณ์ภัยพิบัติเพื่อระดมความช่วยเหลือจากภาครัฐ และเอกชน พร้อมทั้งสั่งอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงสูงออกจากพื้นที่ในทันที[9]

จากการที่ศูนย์กลางของพายุเคลื่อนตัวเข้าใกล้ฮ่องกงอย่างมากในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม และทำให้หอดูดาวฮ่องกง (HKO) ได้ประกาศสัญญาณเตือนภัยพายุหมุนเขตร้อนหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของระบบเตือนภัยพายุหมุนเขตร้อนของฮ่องกง นี่ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ที่มีการออกสัญญาณเตือนภัยพายุหมุนเขตร้อนหมายเลข 10 นับตั้งแต่พายุไต้ฝุ่นเซาลาในปี พ.ศ. 2566 ที่เคยพัดถล่มฮ่องกงในลักษณะที่ใกล้เคียงกัน[10] มีประชาชนอย่างน้อย 14 ราย ได้เข้ารับการรักษาพยาบาลจากอาการบาดเจ็บ มีรายงานต้นไม้โค่นล้มลงประมาณมากกว่า 240 ต้น ทั่วเมือง และมีผู้อพยพเข้าสู่ศูนย์พักพิงชั่วคราวประมาณ 234 คน[11] ในมาเก๊าก็ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนัก และลมกระโชกแรง เช่นเดียวกัน โดยหน่วยฉุกเฉินได้มีการระดมเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตามแนวชายฝั่ง และพื้นที่ต่ำ พร้อมจัดตั้งศูนย์อพยพรองรับประชาชนในเขตเมืองชั้นใน พายุโซนร้อนกำลังแรงวิภาได้ช่วยเพิ่มความแรงของลมมรสุมทางตะวันตกเฉียงใต้ จึงส่งผลกระทบให้เกิดน้ำท่วม และดินถล่ม ที่สร้างความเสียหายอย่างกว้างขวางในประเทศฟิลิปปินส์ทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 40 ราย และมีผู้สูญหายอีกประมาณ 8 ราย[12]

ประวัติทางอุตุนิยมวิทยา

[แก้]
แผนที่แสดงเส้นทาง และความรุนแรงของพายุตามมาตราส่วนแซฟเฟอร์–ซิมป์สัน
ความรุนแรงของพายุ
  พายุดีเปรสชันเขตร้อน (≤62 กม./ชม.)
  พายุโซนร้อน (63–117 กม./ชม.)
  พายุเฮอริเคนระดับ 1 (118–153 กม./ชม.)
  พายุเฮอริเคนระดับ 2 (154–177 กม./ชม.)
  พายุเฮอริเคนระดับ 3 (178–208 กม./ชม.)
  พายุเฮอริเคนระดับ 4 (209–251 กม./ชม.)
  พายุเฮอริเคนระดับ 5 (≥252 กม./ชม.)
  พายุที่ไม่ทราบความเร็วลม
ประเภทของพายุ
■ พายุหมุนกึ่งเขตร้อน
▲ พายุหมุนนอกเขตร้อน / หย่อมความกดอากาศต่ำที่หลงเหลือ / รบกวนของเขตร้อน / ลมมรสุมพายุดีเปรสชันเขตร้อน

ประวัติทางอุตุนิยมวิทยาของพายุโซนร้อนกำลังแรงวิภา

  • วันที่ 15 กรกฎาคม หลังจากที่พายุไต้ฝุ่นดานัสส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประเทศไต้หวัน และทางตอนใต้ของประเทศจีน บริเวณเขตรวมตัวของลมมรสุมยังคงมีกำลังแรง จึงทำให้เกิดร่องมรสุมขึ้นจากทะเลจีนใต้จนถึงมหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันตกเฉียงเหนือ ต่อมาหย่อมความกดอากาศต่ำก่อตัวขึ้นในทางตะวันออกของทะเลฟิลิปปิน และห่างจากประเทศฟิลิปปินส์ไปทางตะวันออกประมาณ 1,040 กิโลเมตร (646 ไมล์) ศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางแห่งยุโรป (ECMWF) ใช้แบบจำลองปัญญาประดิษฐ์หลายแหล่งเริ่มคาดการณ์การพัฒนาของหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณนี้ที่จะเคลื่อนตัวเข้าสู่ทางตอนบนของทะเลจีนใต้ในไม่กี่วันข้างหน้า และศูนย์เตือนไต้ฝุ่นร่วม (JTWC)[nb 4] ได้ระบุพื้นที่ดังกล่าวเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ และประเมินความเป็นไปได้ของการพัฒนาเป็นพายุในระดับต่ำ
  • วันที่ 16 กรกฎาคม สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA)[nb 5] ได้ยกระดับหย่อมความกดอากาศต่ำให้กลายเป็นพายุดีเปรสชันเขตร้อนพร้อมออกคำเตือนลมแรงในเวลา 07:00 น. (00:00 น. เวลาสากลเชิงพิกัด) และในขณะเดียวกันสำนักงานบริหารบรรยากาศ ธรณีฟิสิกส์ และดาราศาสตร์แห่งฟิลิปปินส์ (PAGASA) ได้กำหนดชื่อท้องถิ่นว่า กรีซิง และเริ่มออกสัญญาณเตือนภัยในบางพื้นที่ทางตอนเหนือของเกาะลูซอนในเวลา 22:00 น. (15:00 น. เวลาสากลเชิงพิกัด)
  • วันที่ 17 กรกฎาคม พายุลูกนี้ยังมีลักษณะเป็นลมมรสุมพายุดีเปรสชันเขตร้อนตามการประเมินของศูนย์เตือนไต้ฝุ่นร่วม (JTWC) ด้วยลักษณะวงกว้างของพายุ ก่อตัวค่อนข้างช้า และยังเกิดปรากฏการศูนย์กลางของพายุมีสองจุดชั่วคราว แต่พายุเริ่มจัดโครงสร้างมากขึ้นในช่วงค่ำ
  • วันที่ 18 กรกฎาคม สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) ได้ยกระดับพายุดีเปรสชันเขตร้อนให้กลายเป็นพายุโซนร้อน และกำหนดให้ชื่อว่า วิภา ซึ่งต่อมาพายุก็เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือผ่านใกล้จังหวัดคากายัน และเกาะบาบูยัน พร้อมกับทวีกำลังแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว ต่อมาศูนย์เตือนไต้ฝุ่นร่วม (JTWC) ได้ยกระดับลมมรสุมพายุดีเปรสชันเขตร้อนให้กลายเป็นพายุโซนร้อนเช่นกัน และกำหนดหมายเลขอย่างเป็นทางการว่า 09W เมื่อเวลา 22:00 น. (15:00 น. เวลาสากลเชิงพิกัด)
  • วันที่ 19 กรกฎาคม พายุโซนร้อนวิภาได้เคลื่อนตัวผ่านบริเวณใกล้จังหวัดคากายัน และเกาะบาบูยัน หลังจากนั้นพายุก็เคลื่อนตัวเข้าสู่ช่องแคบลูซอน ซึ่งมีสภาพแวดล้อมเอื้อต่อการพัฒนา สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) ได้ยกระดับพายุโซนร้อนให้กลายเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรง หลังจากนั้นไม่นานศูนย์เตือนไต้ฝุ่นร่วม (JTWC) รายงานว่าพายุโซนร้อนวิภามีแนวโน้มพัฒนาจนกลายเป็นพายุไต้ฝุ่น เนื่องจากสภาพแวดล้อมเอื้ออำนวย เช่น น้ำทะเลอุ่น และลมเฉือนต่ำ เป็นต้น ประเทศจีนกับฮ่องกงเริ่มจับตามองการเคลื่อนตัวเข้าใกล้ของพายุ
  • วันที่ 20 กรกฎาคม พายุโซนร้อนกำลังแรงวิภาเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วเข้าใกล้พื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำจูเมื่อเวลา 16:50 น. (09:50 น. เวลาสากลเชิงพิกัด) พายุเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งบริเวณไถชานในมณฑลกวางตุ้งด้วยความรุนแรงระดับพายุไต้ฝุ่น แม้สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) ยังประเมินให้อยู่ที่ระดับพายุโซนร้อนกำลังแรง แต่หลายสถานีตรวจวัดรายงานความเร็วลมอยู่ที่ระดับพายุไต้ฝุ่น หลังจากนั้นพายุก็เคลื่อนตัวผ่านมณฑลกวางตุ้งอย่างช้า ๆ เริ่มอ่อนกำลังลงจนกลายเป็นพายุโซนร้อนอยู่บริเวณเป๋ย์ไห่ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง และก่อนที่จะเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย
  • วันที่ 21 กรกฎาคม แม้พายุโซนร้อนวิภาจะอ่อนกำลังลง แต่ข้อมูลดาวเทียมยังแสดงให้เห็นว่าโครงสร้างของพายุมีแนวเมฆรวมตัวกันรอบศูนย์กลางที่ยังชัดเจน และสำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) ได้ยกระดับพายุโซนร้อนให้กลายเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรงอีกครั้ง
  • วันที่ 23 กรกฎาคม สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) ได้ลดระดับพายุดีเปรสชันเขตร้อนให้กลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ และยืนยันว่าพายุได้เคลื่อนตัวเข้าสู่แผ่นดินอย่างสมบูรณ์ เศษซากของพายุได้เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้โดยอยู่ภายใต้อิทธิพลของแนวสันเขาสูงกึ่งเขตร้อนในทางทิศเหนือ

การเตรียมการ

[แก้]

ประเทศฟิลิปปินส์

[แก้]

เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม คณะกรรมการลดและจัดการความเสี่ยงภัยพิบัติแห่งชาติ (NDRRMC) ได้ยกระดับสถานการณ์เป็นระดับสีน้ำเงินเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับพายุโซนร้อนวิภา[15] และในขณะเดียวกันกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศระดับเตือนภัยสีขาวเพื่อเตรียมบุคลากร และทรัพยากรทางการแพทย์ ในพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบจากพายุ[16] เมื่อพายุเริ่มทวีกำลังแรงขึ้นจนกลายเป็นพายุโซนร้อนเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม สำนักงานบริหารบรรยากาศ ธรณีฟิสิกส์ และดาราศาสตร์แห่งฟิลิปปินส์ (PAGASA) ได้ออกสัญญาณเตือนภัยพายุเขตร้อนหมายเลข 2 สำหรับพื้นที่ เช่น จังหวัดอาปาเยา เกาะบาบูยัน จังหวัดคากายัน ทางตะวันออกของจังหวัดอีฟูเกา จังหวัดบูลูบุนดูคิน จังหวัดอีโลโคสนอร์เต จังหวัดอีซาเบลา จังหวัดคาลิงกา ทางตอนเหนือกับตอนกลางของจังหวัดอาบรา และทางตอนเหนือของจังหวัดอีโลโคสซูร์ เป็นต้น[17] พร้อมกันนี้สำนักงานบริหารบรรยากาศ ธรณีฟิสิกส์ และดาราศาสตร์แห่งฟิลิปปินส์ ยังได้ออกสัญญาณเตือนภัยพายุเขตร้อนหมายเลข 1 สำหรับพื้นที่ เช่น จังหวัดเบงเก็ต จังหวัดคามารีเนสนอร์เต จังหวัดคาตันดัวเนส จังหวัดลาอูนยอน จังหวัดนูเอวาวิซคายา หมู่เกาะโปลิลโล จังหวัดคีรีโน ทางตอนเหนือของจังหวัดเอาโรรา จังหวัดคามารีเนสซูร์ จังหวัดปังกาซีนัน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดนูเอวาเอซีฮา เป็นต้น[18]

รัฐบาลท้องถิ่นในหลายพื้นที่ได้ประกาศปิดโรงเรียนชั่วคราวในวันที่ 18 กรกฎาคม จนถึงวันที่ 19 กรกฎาคม[19] เพื่อความปลอดภัยของนักเรียน และบุคลากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ประมาณกว่า 3,000 นาย สำหรับปฏิบัติการค้นหา และกู้ภัย และเตรียมกำลังสำรองอีกประมาณ 7,000 นาย เพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจากฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง[20] คณะกรรมการลดและจัดการความเสี่ยงภัยพิบัติแห่งชาติได้ยกระดับเตือนภัยเป็นระดับสีเหลืองสำหรับแม่น้ำชิโกในตาบุก และจังหวัดคาลิงกา[21] ในขณะที่สำนักงานรักษาความปลอดภัยทางทะเลได้ประกาศระงับการค้นหาผู้สูญหายไปจากกรณีการหายตัวของนักชนไก่ในช่วงปี พ.ศ. 2564–2565 บริเวณทะเลสาบตาอัลในจังหวัดบาตังกัส[22] เขื่อนอิโป เขื่อนอัมบุกลาว และเขื่อนบิงกา ได้ทำการเปิดประตูระบายน้ำ หลังจากระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจากฝนที่ตกลงมา[23] รัฐบาลท้องถิ่นในตูเกกาเรา และจังหวัดอีซาเบลา ได้ออกคำสั่งห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงพายุ และในจังหวัดคากายันได้มีการประกาศระดับเตือนภัยสีแดงพร้อมกับสั่งอพยพประชาชนในพื้นที่ชายฝั่งออกจากจุดเสี่ยงทันที[24][25]

ประเทศไต้หวัน

[แก้]

จากการที่พายุโซนร้อนวิภาเคลื่อนตัวเบี่ยงไปทางทิศเหนือกว่าที่คาดการณ์ไว้ จึงส่งผลให้เกิดภัยคุกคามต่อทางตอนบนของช่องแคบลูซอน หมู่เกาะซีชา และน่านน้ำทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศไต้หวัน สำนักงานอุตุนิยมวิทยากลาง (CWB) ได้ออกประกาศเตือนภัยทางทะเลเมื่อเวลา 12:30 น. (05:30 น. เวลาสากลเชิงพิกัด) ของวันที่ 18 กรกฎาคม โดยในขณะนั้นศูนย์กลางของพายุตั้งอยู่ห่างจากแหลมเอ๋อล่วนปี้ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 560 กิโลเมตร (347 ไมล์)[26] สำนักงานอุตุนิยมวิทยากลางยังได้ประกาศการเตือนฝนตกหนักสำหรับพื้นที่ชายฝั่งทางตะวันออกของประเทศไต้หวันทั้งหมดโดยเฉพาะพื้นที่ภูเขาในเทศมณฑลฮวาเหลียน และเทศมณฑลไถตง ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากลมมรสุมทางตะวันตกเฉียงใต้ที่เสริมกำลังแรงขึ้นจากพายุจนอาจเกิดฝนตกหนักจนถึงหนักมากจากการยกตัวของอากาศจากสภาพภูเขาในพื้นที่[27]

ฮ่องกง

[แก้]

เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม หอดูดาวฮ่องกง (HKO) ได้ออกประกาศสภาพอากาศพิเศษในเวลา 11:15 น. (04:15 น. เวลาสากลเชิงพิกัด) และเตือนว่าพายุโซนร้อนกำลังแรงวิภาจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ระยะประมาณ 800 กิโลเมตร (497 ไมล์) จากฮ่องกงในช่วงค่ำของวันที่ 18 กรกฎาคม จนถึงเช้ามืดของวันที่ 19 กรกฎาคม[28][29] พายุจะทวีกำลังแรงขึ้นในขณะที่เคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งทางตะวันตกของมณฑลกวางตุ้ง และพร้อมเตือนว่าระหว่างวันที่ 19 กรกฎาคม จนถึงวันที่ 21 กรกฎาคม[30] ฮ่องกงจะเผชิญกับลมกระโชกแรง ฝนตกหนัก คลื่นทะเลสูง และน้ำทะเลปั่นป่วน โดยแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงกิจกรรมริมชายฝั่ง และงดกิจกรรมทางน้ำทั้งหมด[31][32] หอดูดาวฮ่องกงได้ประกาศโดยคาดการณ์ว่าพายุโซนร้อนกำลังแรงวิภาจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ฮ่องกงในระยะประมาณ 50 กิโลเมตร (31 ไมล์) ในวันที่ 20 กรกฎาคม และเตือนว่าฮ่องกงจะได้รับผลกระทบรุนแรงจากพายุในวันดังกล่าวเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม[33] หอดูดาวฮ่องกงได้ออกประกาศสัญญาณเตือนภัยพายุหมุนเขตร้อนหมายเลข 1 และต่อมาก็ได้ยกระดับเป็นสัญญาณเตือนภัยพายุหมุนเขตร้อนหมายเลข 3 ในขณะที่พายุเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ในระยะประมาณ 520 กิโลเมตร (323 ไมล์) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของฮ่องกงเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม[34][35] ต่อมาหอดูดาวฮ่องกงได้มีการประกาศสัญญาณเตือนภัยพายุหมุนเขตร้อนหมายเลข 8 ลมแรงจากทางตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อเวลา 00:20 น. (17:20 น. เวลาสากลเชิงพิกัด) ของวันที่ 20 กรกฎาคม[36]

หอดูดาวฮ่องกงได้มีการยกระดับเป็นสัญญาณเตือนภัยพายุหมุนเขตร้อนหมายเลข 9 ลมแรงเพิ่มขึ้นเมื่อเวลา 06:20 น. (23:20 น. เวลาสากลเชิงพิกัด) และต่อมาก็ได้ยกระดับเป็นสัญญาณเตือนภัยพายุหมุนเขตร้อนหมายเลข 10[37] ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการประกาศสัญญาณสูงสุดนี้อีกครั้ง หลังจากพายุไต้ฝุ่นเซาลาในปี พ.ศ. 2566[38][39] โดยสัญญาณนี้คงอยู่นานกว่า 6 ชั่วโมง ส่งผลให้โรงเรียน และหน่วยงานราชการ ที่ไม่จำเป็นทั้งหมดปิดทำการ[40] ที่พักพิงฉุกเฉินเปิดให้บริการ และประชาชนได้รับคำแนะนำให้อยู่ภายในอาคาร ปิดหน้าต่าง และระมัดระวังฝนตกหนัก[41][42] ระหว่างเวลา 14:10 น. (07:10 น. เวลาสากลเชิงพิกัด) จนถึงเวลา 17:10 น. (10:10 น. เวลาสากลเชิงพิกัด) มีการออกคำเตือนฝนตกหนักระดับสีเหลือง และสีแดง เนื่องจากแนวฝนตกจากพายุยังคงส่งผลต่อฮ่องกงอย่างต่อเนื่อง และต่อมาพายุโซนร้อนกำลังแรงวิภาเริ่มเคลื่อนตัวออกจากฮ่องกง[43] หอดูดาวฮ่องกงได้ลดระดับสัญญาณเตือนภัยพายุหมุนเขตร้อนหมายเลข 10 ให้กลายเป็นสัญญาณเตือนภัยพายุหมุนเขตร้อนหมายเลข 8 ลมแรงจากทางตะวันตกเฉียงใต้ในเวลา 15:10 น. (08:10 น. เวลาสากลเชิงพิกัด)[44][45] และลดเหลือเป็นสัญญาณเตือนภัยพายุหมุนเขตร้อนหมายเลข 3 ก่อนจะยกเลิกคำเตือนทั้งหมดในเวลาต่อมา[46]

มาเก๊า

[แก้]

เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม สำนักงานอุตุนิยมวิทยา และธรณีฟิสิกส์มาเก๊า (SMG) ได้ออกประกาศสภาพอากาศพิเศษในเวลา 10:00 น. (03:00 น. เวลาสากลเชิงพิกัด) และเตือนว่าหย่อมความกดอากาศต่ำในมหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันตกเฉียงเหนืออาจทวีกำลังแรงขึ้นจนกลายเป็นพายุดีเปรสชันเขตร้อน[47] และเคลื่อนตัวเข้าสู่ทะเลจีนใต้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า[48][49] โดยมีแนวโน้มเคลื่อนตัวผ่านทางตอนใต้ของปากแม่น้ำจูอย่างใกล้ชิดจากผลกระทบของกระแสอากาศจมจากพายุ จึงทำให้มาเก๊ามีสภาพอากาศร้อนจัด ฝนตกหนัก และมีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นระยะ พร้อมกับแนะนำให้ประชาชนติดตามข้อมูลล่าสุดอย่างใกล้ชิด[50] สำนักงานอุตุนิยมวิทยา และธรณีฟิสิกส์มาเก๊า ได้ออกประกาศเพิ่มเติมว่าพายุเริ่มทวีกำลังแรงขึ้น และคาดว่าจะเข้าสู่รัศมีประมาณ 800 กิโลเมตร (497 ไมล์) จากมาเก๊า เมื่อเวลา 16:00 น. (09:00 น. เวลาสากลเชิงพิกัด) ของวันที่ 17 กรกฎาคม[51][52] สำนักงานอุตุนิยมวิทยา และธรณีฟิสิกส์มาเก๊า ได้มีการยืนยันว่าพายุดีเปรสชันเขตร้อนได้กลายเป็นพายุโซนร้อนโดยอาจมีแนวโน้มเคลื่อนตัวเข้าใกล้ปากแม่น้ำจูมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ พร้อมทั้งระบุถึงความเป็นไปได้ที่จะออกสัญญาณพายุหมุนเขตร้อนหมายเลข 8 และคำเตือนคลื่นพายุซัดฝั่ง เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม[53] สำนักงานอุตุนิยมวิทยา และธรณีฟิสิกส์มาเก๊า ได้ออกสัญญาณพายุหมุนเขตร้อนหมายเลข 1 ในขณะที่พายุโซนร้อนวิภาอยู่ห่างไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของมาเก๊าราวประมาณ 770 กิโลเมตร (478 ไมล์)[54][55] ต่อมาในช่วงบ่ายจนถึงค่ำมีแนวโน้มสูงที่จะออกสัญญาณพายุหมุนเขตร้อนหมายเลข 3 และอาจมีโอกาสปานกลางจนถึงสูงที่จะออกสัญญาณพายุหมุนเขตร้อนหมายเลข 8 โดยมีแนวโน้มสูงที่จะประกาศคำเตือนคลื่นพายุซัดฝั่งระดับสีน้ำเงิน และระดับสีเหลืองในระดับปานกลาง เมื่อเวลา 04:00 น. (21:00 น. เวลาสากลเชิงพิกัด) ของวันที่ 19 กรกฎาคม[56]

การก่อตัวของพายุโซนร้อนกำลังแรงวิภา และเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งประเทศจีนเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

สำนักงานอุตุนิยมวิทยา และธรณีฟิสิกส์มาเก๊า ได้ยืนยันว่าพายุโซนร้อนกำลังแรงวิภากำลังเคลื่อนตัวเข้ามาทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ความเสี่ยงต่อมาเก๊าเพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน และจะออกสัญญาณพายุหมุนเขตร้อนหมายเลข 3 ในช่วงเวลา 16:00 น. (09:00 น. เวลาสากลเชิงพิกัด) จนถึงเวลา 19:00 น. (12:00 น. เวลาสากลเชิงพิกัด)[57][58] พร้อมประกาศคำเตือนคลื่นพายุซัดฝั่งระดับสีน้ำเงินในเวลา 13:00 น. (06:00 น. เวลาสากลเชิงพิกัด) เนื่องจากเกิดปรากฏการณ์ระดับน้ำสูงขึ้นโดยพายุ คลื่นสูงอาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำ และเขตท่าเรือ เมื่อเวลา 10:00 น. (03:00 น. เวลาสากลเชิงพิกัด)[59] สำนักงานอุตุนิยมวิทยา และธรณีฟิสิกส์มาเก๊า ได้มีการประกาศคำเตือนคลื่นพายุซัดฝั่งระดับสีน้ำเงินอย่างเป็นทางการโดยคาดว่าระดับน้ำท่วมอาจสูงถึง 0.5 เมตร ในเวลา 13:00 น. (06:00 น. เวลาสากลเชิงพิกัด) และได้มีการยกระดับเป็นสัญญาณพายุหมุนเขตร้อนหมายเลข 3 ในขณะที่พายุอยู่ห่างมาเก๊าราวประมาณ 550 กิโลเมตร (341 ไมล์) เมื่อเวลา 16:30 น. (09:30 น. เวลาสากลเชิงพิกัด)[60][61] สำนักงานอุตุนิยมวิทยา และธรณีฟิสิกส์มาเก๊า ได้คาดการณ์ว่าจะมีการออกสัญญาณพายุหมุนเขตร้อนหมายเลข 8 ในช่วงเวลา 02:00 น. (19:00 น. เวลาสากลเชิงพิกัด) จนถึงเวลา 05:00 น. (22:00 น. เวลาสากลเชิงพิกัด) ของวันที่ 20 กรกฎาคม[62] และอาจมีโอกาสปานกลางจนถึงสูงที่จะออกสัญญาณเตือนระดับที่สูงขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เช่น เขตท่าเรือตอนใน และพื้นที่ลุ่มต่ำ อาจเกิดน้ำท่วมในระดับรุนแรง จึงได้เพิ่มระดับความเสี่ยงของคำเตือนคลื่นพายุซัดฝั่งระดับสีเหลืองให้กลายเป็นระดับปานกลางจนถึงสูง[63][64]

สำนักงานอุตุนิยมวิทยา และธรณีฟิสิกส์มาเก๊า ได้ระบุว่าจะมีการออกคำเตือนคลื่นพายุซัดฝั่งระดับสีเหลืองในเวลา 23:00 น. (16:00 น. เวลาสากลเชิงพิกัด) เพื่อเตือนถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจรุนแรงขึ้น[65] และได้มีการประกาศคำเตือนฝนตกหนักระดับสีเหลืองในเวลา 19:45 น. (12:45 น. เวลาสากลเชิงพิกัด)[66][67] ซึ่งถูกยกเลิกไปในเวลา 21:00 น. (14:00 น. เวลาสากลเชิงพิกัด)[68][69] สุดท้ายก็ได้มีการออกคำเตือนคลื่นพายุซัดฝั่งระดับสีเหลืองพร้อมประกาศว่าจะมีการออกสัญญาณพายุหมุนเขตร้อนหมายเลข 8 ลมแรงจากทางตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อเวลา 03:00 น. (20:00 น. เวลาสากลเชิงพิกัด) ของวันที่ 20 กรกฎาคม[70][71]

ประเทศไทย

[แก้]

กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนภัยเกี่ยวกับอิทธิพลของพายุโซนร้อนวิภาโดยคาดว่าจะส่งผลให้เกิดฝนตกหนักจนถึงหนักมากใน 41 จังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงกรุงเทพมหานคร และบริเวณปริมณฑล โดยเฉพาะในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ซึ่งอาจมีฝนตกสะสมจนเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ในหลายพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมีการประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่ชายฝั่งทะเลทั้งฝั่งอ่าวไทย และทะเลอันดามัน ให้ระมัดระวังอันตรายจากคลื่นสูงประมาณ 2 ถึง 4 เมตร โดยเฉพาะบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนองอาจมีคลื่นสูงกว่านี้ เรือเล็กในพื้นที่เสี่ยงภัยควรงดออกจากฝั่งจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายในขณะที่หน่วยงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยประจำจังหวัด ได้เร่งจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ อุปกรณ์ และศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่เสี่ยง[72][73]

ผลกระทบ

[แก้]

ประเทศไทย

[แก้]

แม้จะอยู่ห่างจากศูนย์กลางของพายุ แต่จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดกระบี่ ที่อยู่ใกล้เคียงก็ได้รับผลกระทบจากลมกระโชกแรง และฝนตกหนัก ที่มีสาเหตุมาจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนกำลังแรงวิภา[74] ในจังหวัดภูเก็ตมีรายงานผู้เสียชีวิต 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย จากต้นไม้โค่นล้มลง นอกจากนี้ ยังมีนักท่องเที่ยวชายอีก 1 ราย ถูกกระแสน้ำพัดจมหายไปในขณะลงเล่นน้ำทะเล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยทั้ง 2 ราย เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน[75] นอกจากพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามัน และฝั่งอ่าวไทยอย่างเกาะสมุยก็ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักกับลมแรงเช่นกัน[76] อิทธิพลจากเศษซากของพายุโซนร้อนกำลังแรงวิภายังทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดน่าน จังหวัดเชียงราย และจังหวัดอุดรธานี เป็นต้น[77] โดยเฉพาะที่จังหวัดน่านมีรายงานว่าบ้านเรือนได้รับความเสียหายอย่างน้อยประมาณ 130 หลัง[78]

ประเทศลาว

[แก้]

พายุโซนร้อนกำลังแรงวิภาได้ส่งผลกระทบน้ำท่วมรุนแรงในแขวงหลวงพระบาง แขวงพงสาลี แขวงเชียงขวาง แขวงเวียงจันทน์ แขวงหัวพัน และอีกหลายพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศลาว[79]

ประเทศพม่า

[แก้]

ฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนวิภาส่งผลให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในเมียวดี ระดับน้ำในแม่น้ำตะนาวศรีได้เพิ่มสูงขึ้นประมาณกว่า 1 เมตร ทำให้เกิดความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนในพื้นที่[80] นอกจากนี้ เขื่อนแห่งหนึ่งในแม่น้ำสะโตงได้พังถล่มลง เนื่องจากระดับน้ำที่เพิ่มขึ้น และส่งผลให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในมะดอว์ก[81] ในขณะเดียวกันน้ำท่วมยังคร่าชีวิตผู้คนไปประมาณ 4 ราย และสร้างความเสียหายอย่างหนักในเมืองป๊อก[82]

ประเทศอินเดีย

[แก้]

หลังจากพายุโซนร้อนวิภาได้เคลื่อนตัวเข้าสู่มหาสมุทรอินเดียเหนือทำให้เศษซากของพายุได้ทวีกำลังแรงขึ้นอีกครั้งจนกลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ และส่งผลให้โกลกาตาได้บันทึกปริมาณน้ำฝนได้สูงถึงประมาณ 186 มิลลิเมตร (7.3 นิ้ว) ภายในระยะเวลา 15 ชั่วโมง ระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม จนถึงวันที่ 25 กรกฎาคม ในขณะที่อาลีปอร์มีปริมาณน้ำฝนสะสมอยู่ที่ประมาณ 120 มิลลิเมตร (4.7 นิ้ว) ภายใน 24 ชั่วโมง พายุยังส่งผลให้เกิดกระแสลมแรงถึง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (30 ไมล์ต่อชั่วโมง) และเกิดน้ำท่วมในพื้นที่เขตเมือง[83]

ดูเพิ่ม

[แก้]

หมายเหตุ

[แก้]
  1. "วิภา" เป็นชื่อพายุหมุนเขตร้อนในรายชื่อชุดที่ 2 ลำดับที่ 12 ของมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกฝั่งเหนือ และส่งโดยประเทศไทย
  2. พายุโซนร้อนกำลังแรง "กรีซิง" (16 ถึง 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2568) จากรายงานของสำนักงานบริหารบรรยากาศ ธรณีฟิสิกส์ และดาราศาสตร์แห่งฟิลิปปินส์ (PAGASA)
  3. ความเร็วลมเฉลี่ยนี้ใช้ความเร็วลมเฉลี่ยใน 10 นาที เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอื่น ๆ
  4. ศูนย์เตือนไต้ฝุ่นร่วม เป็นหน่วยงานเฉพาะกิจร่วมระหว่างกองทัพเรือสหรัฐ กองทัพอากาศสหรัฐ ซึ่งจะออกประกาศเตือนภัยพายุหมุนเขตร้อนในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก และภูมิภาคอื่น ๆ[13]
  5. สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นเป็นศูนย์อุตุนิยมวิทยาชำนัญพิเศษประจำภูมิภาคอย่างเป็นทางการในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก[14]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "PAGASA warns of rain from new LPA, southwest monsoon in coming days" (ภาษาอังกฤษ). Rappler. 2025-07-15. สืบค้นเมื่อ 16 July 2025.
  2. "LPA develops into Tropical Depression Crising" (ภาษาอังกฤษ). Rappler. 2025-07-16. สืบค้นเมื่อ 16 July 2025.
  3. Tropical Cyclone Formation Alert (Invest 96W) (Report) (ภาษาอังกฤษ). Joint Typhoon Warning Center. 2025-07-18. สืบค้นเมื่อ 18 July 2025.
  4. "'Crising' maintains strength while passing close to Santa Ana, Cagayan". Philippine News Agency (ภาษาอังกฤษ). 2025-07-19. สืบค้นเมื่อ 18 July 2025.
  5. Sigales, Jason (2025-07-19). "Crising intensifies into severe tropical storm as it exits PAR". ABS-CBN (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 19 July 2025.
  6. "Typhoon Wipha makes landfall in South China's Guangdong" (ภาษาอังกฤษ). China Daily. 2025-07-20. สืบค้นเมื่อ 20 July 2025.
  7. "Ilang parte ng Bicol binaha dahil sa habagat na pinalakas ng Bagyong Crising" [Some parts of Bicol flooded due to strong monsoon of Typhoon Crising] (ภาษาตากาล็อก). ABS-CBN. 2025-07-17. สืบค้นเมื่อ 17 July 2025.
  8. "4 reported dead, over 420,000 affected by 'Crising' and Habagat – NDRRMC" (ภาษาตากาล็อก). ABS-CBN. 2025-07-20. สืบค้นเมื่อ 20 July 2025.
  9. Cordova, Calvin (2025-07-18). "Cebu City under state of calamity". Manila Bulletin (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 18 July 2025.
  10. Austria, Hilda (2025-07-19). "Pangasinan town declares state of calamity due to flooding". Philippine News Agency (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 19 July 2025.
  11. Hung, Emily; Mycroft, Connor (2025-07-20). "Typhoon Wipha: Hong Kong emerges with dozens hurt, travellers frustrated". South China Morning Post (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 20 July 2025.
  12. "Developing: T10 signal to remain in force until 3pm in Hong Kong as Wipha starts to depart" (ภาษาอังกฤษ). South China Morning Post. 2025-07-20. สืบค้นเมื่อ 20 July 2025.
  13. "Joint Typhoon Warning Center Mission Statement". Joint Typhoon Warning Center. United States Navy. 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 26, 2007. สืบค้นเมื่อ December 25, 2011.
  14. "Annual Report on Activities of the RSMC Tokyo – Typhoon Center 2000" (PDF). Japan Meteorological Agency. February 2001. p. 3. สืบค้นเมื่อ December 25, 2011.
  15. Sampang, Diane (2025-07-16). "NDRRMC raises 'blue alert' for Tropical Depression Crising". Philippine Daily Inquirer (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 21 July 2025.
  16. "DOH on Code White Alert due to Crising". GMA News (ภาษาอังกฤษ). 2025-07-19. สืบค้นเมื่อ 21 July 2025.
  17. Daguno-Bersamina, Kristine (2025-07-18). "Signal No. 2 up in parts of Northern Luzon as 'Crising' intensifies into tropical storm". The Philippine Star (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 20 July 2025.
  18. "Class suspensions for Friday, July 18, 2025" (ภาษาอังกฤษ). GMA News. 2025-07-17. สืบค้นเมื่อ 17 July 2025.
  19. Delizo, Michael (2025-07-21). "PNP rescues 276, assists 35,000 evacuees amid habagat, Crising". ABS-CBN (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 21 July 2025.
  20. Rafales, April (2025-07-19). "Chico River in Kalinga reaches yellow warning level". ABS-CBN (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 21 July 2025.
  21. Marcelo, Elizabeth (2025-07-19). "PCG Suspends Taal Search Due To Bad Weather". One News (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 21 July 2025.
  22. "PAGASA: Three Luzon dams open gates to release water". GMA News (ภาษาอังกฤษ). 2025-07-20. สืบค้นเมื่อ 21 July 2025.
  23. "Crising nagdala ng malakas ng ulan, pagbaha sa mga lalawigan". ABS-CBN (ภาษาตากาล็อก). 2025-07-18. สืบค้นเมื่อ 21 July 2025.
  24. "Isabela nagpatupad ng liquor ban dahil sa bagyo". Abante (ภาษาตากาล็อก). 2025-07-18. สืบค้นเมื่อ 21 July 2025.
  25. "Cagayan residents brace as Crising nears landfall". GMA News (ภาษาอังกฤษ). 2025-07-17. สืบค้นเมื่อ 21 July 2025.
  26. 王馨儀 (2025-07-18). "薇帕颱風路徑北修更靠近台灣 11:30海警" (ภาษาจีน). TVBS. สืบค้นเมื่อ 18 July 2025.
  27. 報天氣-中央氣象署 (2025-07-18). "中央氣象署颱風警報單——編號第6號颱風警報:第1報" (ภาษาจีน). 交通部中央氣象署. สืบค้นเมื่อ 18 July 2025.
  28. "T3 signal looms for daytime on Saturday". RTHK (ภาษาอังกฤษ). 2025-07-18. สืบค้นเมื่อ 18 July 2025.
  29. "Tropical Storm Wipha set to pass 50km south of Hong Kong on Sunday, Observatory to consider T8 signal". Dimsum Daily (ภาษาอังกฤษ). 2025-07-18. สืบค้นเมื่อ 20 July 2025.
  30. "T8 signal to remain in force most of Sunday". RTHK (ภาษาอังกฤษ). 2025-07-20. สืบค้นเมื่อ 20 July 2025.
  31. "Over 280 flights cancelled, vehicular movement disrupted as Typhoon Wipha approaches Hong Kong". Mint (ภาษาอังกฤษ). 2025-07-19. สืบค้นเมื่อ 20 July 2025.
  32. "Developing: T10 signal to remain in force until 3pm in Hong Kong as Wipha starts to depart" (ภาษาอังกฤษ). South China Morning Post. 2025-07-20. สืบค้นเมื่อ 20 July 2025.
  33. "Typhoon Wipha: Hong Kong hoists T10 hurricane warning – highest signal – as residents urged to stay home". Mint (ภาษาอังกฤษ). 2025-07-19. สืบค้นเมื่อ 20 July 2025.
  34. "Typhoon Wipha Nears Hong Kong: T10 Warning Issued, Flights Grounded and Ports Closed". mkweather.com (ภาษาอังกฤษ). 2025-07-20. สืบค้นเมื่อ 20 July 2025.
  35. "T8 in effect as Typhoon Wipha moves away - RTHK". news.rthk.hk (ภาษาอังกฤษ). 2025-07-22. สืบค้นเมื่อ 22 July 2025.
  36. "T3 signal to be issued at 7.40pm - RTHK". news.rthk.hk (ภาษาอังกฤษ). 2025-07-22. สืบค้นเมื่อ 22 July 2025.
  37. "T3 to stay until Wipha's threat drops further - RTHK". news.rthk.hk (ภาษาอังกฤษ). 2025-07-22. สืบค้นเมื่อ 22 July 2025.
  38. "T1 issued as Wipha moves away from Hong Kong - RTHK". news.rthk.hk (ภาษาอังกฤษ). 2025-07-22. สืบค้นเมื่อ 22 July 2025.
  39. "Observatory cancels all cyclone warning signals - RTHK". news.rthk.hk (ภาษาอังกฤษ). 2025-07-22. สืบค้นเมื่อ 22 July 2025.
  40. 香港天文台 (2025-07-17). "天氣稿第81號-每小時溫度濕度報告" (ภาษาจีน). สืบค้นเมื่อ 17 July 2025.
  41. 香港天文台 (2025-07-18). "天氣稿第180號-每小時溫度濕度報告" (ภาษาจีน). สืบค้นเมื่อ 18 July 2025.
  42. 香港天文台 (2025-07-19). "天氣稿第17號-發出/取消熱帶氣旋警告信號" (ภาษาจีน). สืบค้นเมื่อ 19 July 2025.
  43. 香港天文台 (2025-07-19). "天氣稿第21號-熱帶氣旋警告" (ภาษาจีน). สืบค้นเมื่อ 19 July 2025.
  44. 香港天文台 (2025-07-19). "天氣稿第67號-熱帶氣旋警告" (ภาษาจีน). สืบค้นเมื่อ 19 July 2025.
  45. 香港天文台 (2025-07-19). "天氣稿第135號-發出/取消熱帶氣旋警告信號" (ภาษาจีน). สืบค้นเมื่อ 19 July 2025.
  46. 香港天文台 (2025-07-19). "天氣稿第151號-熱帶氣旋警告" (ภาษาจีน). สืบค้นเมื่อ 19 July 2025.
  47. "Tempestade tropical "Wipha" pode passar a 80 quilómetros de Macau". Teledifusão de Macau (ภาษาอังกฤษ). 2025-07-18. สืบค้นเมื่อ 18 July 2025.
  48. "Macau hoists No 10 signal as Saola threatens the city, all casinos closed". Macau Post (ภาษาอังกฤษ). 2025-07-21. สืบค้นเมื่อ 21 July 2025.
  49. "Typhoon Wipha has been downgraded to signal no. 3". Macao News (ภาษาอังกฤษ). 2025-07-20. สืบค้นเมื่อ 21 July 2025.
  50. "打風仍有懸念?週末至下週初風雨大". 地球物理氣象局(DSMG) (ภาษาจีน). 2025-07-16. สืบค้นเมื่อ 18 July 2025.
  51. "氣象局:週六料發出1號風球". 澳廣視 (ภาษาจีน). 2025-07-17. สืบค้นเมื่อ 18 July 2025.
  52. "菲東熱帶低壓移近 本澳周六掛一號波". 澳門日報 (ภาษาจีน). 2025-07-17. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 December 2020. สืบค้นเมื่อ 18 July 2025.
  53. "氣象局:週六稍後發3號風球機會高". 澳廣視 (ภาษาจีน). 2025-07-18. สืบค้นเมื่อ 18 July 2025.
  54. "氣象局:明掛三號波機會高". 澳門日報 (ภาษาจีน). 2025-07-18. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 December 2020. สืบค้นเมื่อ 18 July 2025.
  55. "【5:00】氣象局發出一號風球". 澳門日報 (ภาษาจีน). 2025-07-19. สืบค้นเมื่อ 19 July 2025.
  56. "1號風球生效 明晨發8號機會中等至較高". 澳廣視 (ภาษาจีน). 2025-07-19. สืบค้นเมื่อ 19 July 2025.
  57. "受熱帶風暴韋帕影響可能發佈之警告(更新時間:2025-07-19 05:00)". 地球物理氣象局 (DSMG) (ภาษาจีน). 澳門新聞局(GCS). 2025-07-19. สืบค้นเมื่อ 19 July 2025.
  58. "受熱帶氣旋「韋帕」影響可能發佈之警告(更新時間:2025-07-19 08:55)". 地球物理氣象局 (DSMG) (ภาษาจีน). 澳門新聞局(GCS). 2025-07-19. สืบค้นเมื่อ 19 July 2025.
  59. "下午5時至8時改發3號風球". 澳廣視 (ภาษาจีน). 2025-07-19. สืบค้นเมื่อ 19 July 2025.
  60. "氣象局:下午五至八時改三號波". 澳門日報 (ภาษาจีน). 2025-07-19. สืบค้นเมื่อ 19 July 2025.
  61. "受熱帶氣旋「韋帕」影響可能發佈之警告(更新時間:2025-07-19 11:00)". 地球物理氣象局(DSMG) (ภาษาจีน). 澳門新聞局(GCS). 2025-07-19. สืบค้นเมื่อ 19 July 2025.
  62. ""韋帕"或正面襲澳 明9號風球機會中等至較高". 澳廣視 (ภาษาจีน). 2025-07-19. สืบค้นเมื่อ 19 July 2025.
  63. "3號風球生效". 澳廣視 (ภาษาจีน). 2025-07-19. สืบค้นเมื่อ 19 July 2025.
  64. "三號風球生效 最快凌晨三時掛八號波". 澳門日報 (ภาษาจีน). 2025-07-19. สืบค้นเมื่อ 19 July 2025.
  65. "受熱帶氣旋「韋帕」影響可能發佈之警告(更新時間:2025-07-19 17:30)". 地球物理氣象局(DSMG) (ภาษาจีน). 澳門新聞局(GCS). 2025-07-19. สืบค้นเมื่อ 19 July 2025.
  66. "韋帕距澳460公里 黃色風暴潮晚11時生效". 澳門日報 (ภาษาจีน). 2025-07-19. สืบค้นเมื่อ 19 July 2025.
  67. "黃色暴雨警告生效(20:45)". 澳廣視 (ภาษาจีน). 2025-07-19. สืบค้นเมื่อ 19 July 2025.
  68. "所有暴雨警告信號取消(22:00)". 澳廣視 (ภาษาจีน). 2025-07-19. สืบค้นเมื่อ 19 July 2025.
  69. "受熱帶氣旋「韋帕」影響可能發佈之警告(更新時間:2025-07-19 23:00)". 地球物理氣象局(DSMG) (ภาษาจีน). 2025-07-19. สืบค้นเมื่อ 19 July 2025.
  70. "明凌晨4時改發8號東北風球". 澳廣視 (ภาษาจีน). 2025-07-19. สืบค้นเมื่อ 19 July 2025.
  71. "凌晨4時改掛八號風球". 澳門日報 (ภาษาจีน). 2025-07-19. สืบค้นเมื่อ 19 July 2025.
  72. "Storm Wipha batters buildings on Thai island Koh Samui". MSN (ภาษาอังกฤษ). 2025-07-20. สืบค้นเมื่อ 20 July 2025.
  73. "อัปเดตพายุโซนร้อนกำลังแรง "วิภา" กระทบเหนือ-อีสาน-กลาง เสี่ยงน้ำท่วม". Thai PBS. 2025-07-20. สืบค้นเมื่อ 14 August 2025.
  74. ข่าวสด (2025-07-20). "กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ2 เปิดฤทธิ์พายุโซนร้อน "วิภา" ฝนตกหนักมาก". ข่าวสด. สืบค้นเมื่อ 14 August 2025.
  75. "台风"韦帕"给泰国带来狂风暴雨 两名中国游客身亡" (ภาษาจีน). China News. 2025-07-21. สืบค้นเมื่อ 21 July 2025.
  76. "Storm Wipha batters buildings on Thai island Koh Samui". MSN (ภาษาอังกฤษ). 2025-07-20. สืบค้นเมื่อ 20 July 2025.
  77. "พายุ "วิภา" และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย ฉบับที่ 14 (200/2568)". กรมอุตุนิยมวิทยา. 2025-08-14. สืบค้นเมื่อ 14 August 2025.
  78. "Philippines: 2 cyclones stir up Luzon weather, flood hits northern Thailand". Gulf News (ภาษาอังกฤษ). 2025-07-23. สืบค้นเมื่อ 23 July 2025.
  79. Chanlivong, Kheuakham (2025-07-23). "Widespread Flooding Hits Laos in an Early Monsoon Season". Laotian Times (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 23 July 2025.
  80. "မိုးအဆက်မပြတ်ရွာသွန်းပြီး သောင်ရင်းမြစ်ရေ တစ်နာရီ ၂၀ စင်တီမီတာ မြင့်တက်နေခြင်းကြောင့် မြဝတီမြို့ အနိမ့်ပိုင်းနေသူများ အချိန်မီရွှေ့ပြောင်းရန်လိုဟု ဆို". News Eleven (ภาษาพม่า). 2025-07-23. สืบค้นเมื่อ 23 July 2025.
  81. "စစ်တောင်းမြစ်ရေကြောင့် ရေကာတာကျိုးပြီး မဒေါက်မြို့ ရေစတင်ဝင်ရောက်". Democratic Voice of Burma (ภาษาพม่า). 2025-07-23. สืบค้นเมื่อ 23 July 2025.
  82. "မိုင်းပေါက်မြို့ ရေကြီးမှု ကယ်ဆယ်ရေးဆောင်ရွက်နေသည့် " ဝ" ရဲအရာရှိ အပါအဝင် သေဆုံးသူ လေးဦးအထိရှိလာ". News Eleven (ภาษาพม่า). 2025-07-23. สืบค้นเมื่อ 23 July 2025.
  83. "Bay system triggers downpour" (ภาษาอังกฤษ). The Telegraph (India). 2025-07-26. สืบค้นเมื่อ 26 July 2025.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]