พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชาวนาไทย
การจัดแสดงภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชาวนาไทย | |
![]() | |
| ก่อตั้ง | พ.ศ. 2532[1] พ.ศ. 2552 (ย้ายที่ตั้งมาบริเวณศูนย์ราชการแห่งใหม่)[2] |
|---|---|
| ที่ตั้ง | ศูนย์ราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ถนนสุพรรณบุรี-ชัยนาท ตำบลสนามชัย อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี |
| พิกัดภูมิศาสตร์ | 14°30′46″N 100°07′52″E / 14.5128601°N 100.1309924°E |
| ประเภท | พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ, การเกษตร |
| ผลงานสำคัญ | รวงข้าว 9 รวงแรกที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเกี่ยวเป็นปฐมฤกษ์, เคียวเกี่ยวข้าวด้ามทองคำที่จังหวัดสุพรรณบุรีจัดทำขึ้นถวาย[1] |
| เจ้าของ | สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร |
| เว็บไซต์ | www |
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชาวนาไทย เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ภายในศูนย์ราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ถนนสุพรรณบุรี-ชัยนาท (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 340) ตำบลสนามชัย อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี จัดแสดงเกี่ยวกับการทำนาโดยเฉพาะ
ประวัติ
[แก้]ในช่วง พ.ศ. 2528-2529 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งทรงดำรงพระราชอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารเสด็จพระราชดำเนินมายังจังหวัดสุพรรณบุรีด้วยพระราชกรณียกิจด้านการเกษตรรวม 4 ครั้ง[2][3]:
- ครั้งที่ 1: วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2528 เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเป็นประธานในพิธีทำปุ๋ยหมักธรรมชาติที่บ้านแหลมสะแก ตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี
- ครั้งที่ 2: วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2528 ทรงทำปุ๋ยหมักจากผักตบชวาและวัชพืชต่าง ๆ เป็นปฐมฤกษ์เพื่อเป็นตัวอย่างแก่เกษตรกรตามโครงการรณรงค์จัดทำปุ๋ยหมักที่บ้านแหลมสะแก
- ครั้งที่ 3: วันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2529 เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเป็นประธานในการทำนาสาธิตโดยใช้ปุ๋ยหมักที่บึงไผ่แขก อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี
- ครั้งที่ 4: วันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2529 เสด็จพระราชดำเนินมาทรงนำการเกี่ยวข้าวที่พระองค์ทรงปลูกไว้ในนาสาธิตที่บึงไผ่แขกและพระราชทานข้าวที่ทรงเกี่ยวแก่เกษตรกรที่เข้าเฝ้ารับเสด็จ
เมื่อ พ.ศ. 2532 อารีย์ วงศ์อารยะซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรีมีความคิดจะจัดตั้งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชาวนาไทยเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารเนื่องด้วยพระราชกรณียกิจด้านการเกษตรในจังหวัดสุพรรณบุรี และเพื่อให้เป็นสถานที่รวบรวมความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการทำนา รวมไปถึงประเพณีและวิถีชีวิตของชาวนาไทยตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน งานโบราณคดีเกี่ยวข้องกับข้าวและการเกษตรในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ จึงมีการจัดตั้งโครงการจัดสร้างพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชาวนาไทยจากความร่วมมือโดยจังหวัดสุพรรณบุรีร่วมด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนหลายฝ่าย จังหวัดสุพรรณบุรีเป็นผู้จัดสรรงบประมาณในการก่อสร้างเป็นหลัก ส่วนกรมศิลปากรรับผิดชอบการออกแบบและก่อสร้างอาคารของพิพิธภัณฑ์ โดยมีแนวทางการออกแบบจากเรือนไทยภาคกลางที่มีใต้ถุนสูง[4]
อาคารของพิพิธภัณฑ์หลังแรกตั้งอยู่บริเวณศาลากลางจังหวัดสุพรรณบุรีหลังเดิม ถนนพระพันวษา ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี อาคารของพิพิธภัณฑ์เป็นอาคาร 2 ชั้น กว้าง 19.20 เมตร ยาว 25.20 เมตร มีลักษณะสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์ที่ผสมผสานระหว่างเรือนไทยและยุ้งฉางของชาวนา การก่อสร้างอาคารแล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2532 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารเสด็จพระราชดำเนินมาทรงวางศิลาฤกษ์พิพิธภัณฑ์เมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2532[4]
กระทรวงศึกษาธิการ (เวลานั้นกรมศิลปากรสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ) ออกประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การจัดตั้งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชาวนาไทย จังหวัดสุพรรณบุรี ในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 117 ตอนที่ 112 เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2533 ลงประกาศ ณ วันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2533[4]
วันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2537 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเป็นประธานในพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์อย่างเป็นทางการ[4]
เมื่อ พ.ศ. 2539 ศาลากลางจังหวัดสุพรรณบุรีย้ายที่ตั้งไปอยู่บริเวณศูนย์ราชการจังหวัดสุพรรณบุรีแห่งใหม่บนถนนสุพรรณบุรี-ชัยนาท (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 340) ตำบลสนามชัย อำเภอเมืองสุพรรณบุรี[5] ส่วนอาคารของศาลากลางจังหวัดสุพรรณบุรีหลังเดิมถูกใช้เป็นที่ว่าการอำเภอเมืองสุพรรณบุรี ทางจังหวัดสุพรรณบุรีมีความเห็นว่าสถานที่ตั้งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชาวนาไทยมีสภาพภูมิทัศน์ไม่สวยงาม จึงขอพระราชทานพระราชานุญาตในการดำเนินการย้ายและก่อสร้างพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ เสนอกรมศิลปากรให้พิจารณาและสนับสนุนจังหวัดสุพรรณบุรีในการดำเนินการย้ายพิพิธภัณฑ์ไปตั้งอยู่ภายในศูนย์ราชการจังหวัดสุพรรณบุรีแห่งใหม่ โดยตั้งอยู่บริเวณด้านทิศใต้ของศาลากลางจังหวัดหลังใหม่ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางเพียงพอต่อการจัดสภาพภูมิทัศน์ให้สวยงาม บริเวณดังกล่าวอยู่ห่างจากสถานที่ตั้งเดิมประมาณ 4.5 กิโลเมตร กรมศิลปากรร่วมด้วยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและจังหวัดสุพรรณบุรีเป็นผู้ออกแบบอาคารและการจัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์โดยอาศัยรูปแบบอาคารเดิมเป็นฐาน ได้เป็นอาคารทรงไทยประยุกต์ 2 ชั้นมีพื้นที่ทั้งหมด 1,890 ตารางเมตร[2]
การก่อสร้างพิพิธภัณฑ์แล้วเสร็จเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2551 การจัดแสดงภายในอาคารดำเนินการโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี แล้วเสร็จในเดือนกันยายน พ.ศ. 2552 และดำเนินการย้ายการปฏิบัติงานมาที่อาคารพิพิธภัณฑ์หลังใหม่เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2552
ส่วนจัดแสดง
[แก้]อาคารจัดแสดงของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชาวนาไทยเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก มีลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นอาคารทรงไทยประยุกต์ 2 ชั้น ประดับผนังด้วยดินเผาลวดลายรวงข้าวและประเพณีในการทำนา 12 เดือน มุงหลังคาด้วยกระเบื้องซีเมนต์ มีใต้ถุนด้านล่าง ภายในมีพื้นที่ประมาณ 1,890 ตารางเมตร[6][2]
ภายในพิพิธภัณฑ์แบ่งส่วนจัดแสดงเป็น 2 ส่วน[7]:
- การจัดแสดงชั้นล่าง แบ่งออกเป็น 7 เรื่อง
- ร่องรอยของข้าวจากอดีต: จัดแสดงโบราณวัตถุ ได้แก่ ร่องรอยของเมล็ดข้าว เครื่องมือในการปลูกข้าว แบบจำลองภาพเขียนสีบนผนังถ้ำรูปทุ่งนาในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ และเศษภาชนะดินเผาที่อาจเป็นหลักฐานของพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญในสมัยอยุธยา
- การทำนาในประเทศไทย: จัดแสดงภาพถ่ายและหุ่นจำลองแสดงลำดับขั้นตอนการทำนา
- ลมมรสุมกับฤดูกาลปลูกข้าว: จัดแสดงแผนที่ภูมิอากาศของประเทศไทย โดยแสดงทิศทางของลมมรสุมที่พัดผ่านประเทศไทยซึ่งนำฝนมาในฤดูทำนา
- จากคันไถสู่ควายเหล็ก: จัดแสดงวีดิทัศน์เกี่ยวกับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของการทำนา จัดแสดงเครื่องมือในการทำนาแบบดั้งเดิม และจัดแสดงภาพการทำนาในยุคปัจจุบันที่อาศัยเทคโนโลยีทันสมัย
- พันธุ์ข้าวในประเทศไทย: จัดแสดงพันธุ์ข้าวที่นิยมปลูกในประเทศไทย
- พัฒนาการเครื่องมือเครื่องใช้การทำนา: จัดแสดงเครื่องมือในการทำนาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
- พาหนะที่ใช้ขนส่งข้าว: จัดแสดงยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่งข้าวตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ทั้งยานพาหนะที่ใช้ขนส่งทางบกและยานพาหนะที่ใช้ขนส่งทางน้ำ
- การจัดแสดงชั้นบน แบ่งออกเป็น 4 เรื่อง
- ประเพณีและพิธีกรรมข้าว: จัดแสดงปฏิทินที่นำเสนอวิถีชีวิต ประเพณี พิธีกรรม และความเชื่อของชาวนาไทยในรอบหนึ่งปี จัดแสดงสิ่งของจำลองและวีดิทัศน์ว่าด้วยประเพณีและเพลงพื้นบ้านที่เกี่ยวกับการทำนาและการละเล่นของชาวนาในสุพรรณบุรี
- พระมหากษัตริย์กับชาวนาไทย: จัดแสดงเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ไทยที่เกี่ยวข้องกับการปลูกข้าวตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
- จัดแสดงโครงการพระราชดำริ: จัดแสดงเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรที่เกี่ยวข้องกับการทำนา
- พระเสด็จมาโปรดฯ ชาวนาไทย: จัดแสดงวีดิทัศน์เหตุการณ์ และจัดแสดงอุปกรณ์และสิ่งของต่าง ๆ ที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งทรงดำรงพระราชอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารทรงใช้ในการทำนาที่จังหวัดสุพรรณบุรี เช่น เคียวเกี่ยวข้าวด้ามทองคำ รวงข้าว 9 รวงแรกที่ทรงเกี่ยวเป็นปฐมฤกษ์ เครื่องสีข้าว เป็นต้น
อ้างอิง
[แก้]- 1 2 "พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติชาวนาไทย". ฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร. สืบค้นเมื่อ 2025-11-03.
- 1 2 3 4 "ประวัติความเป็นมา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชาวนาไทย". พิพิธภัณฑ์เสมือนจริง กรมศิลปากร. สืบค้นเมื่อ 2025-11-03.
- ↑ "ชวนมารู้จักชาวนาไทย ตอนที่ ๒ "พระมหากรุณาธิคุณต่อเกษตรกรชาวไทย"". พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชาวนาไทย สุพรรณบุรี. สืบค้นเมื่อ 2025-11-03.
- 1 2 3 4 "ชวนมารู้จักชาวนาไทย ตอนที่ ๓ จากพระมหากรุณาธิคุณต่อชาวนาสุพรรณบุรีสู่การก่อตั้งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชาวนาไทย สุพรรณบุรี แห่งแรก". พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชาวนาไทย สุพรรณบุรี. สืบค้นเมื่อ 2025-11-03.
- ↑ "ประวัติความเป็นมาของศาลากลางจังหวัด". จังหวัดสุพรรณบุรี. สืบค้นเมื่อ 2025-11-03.
- ↑ "ชวนมารู้จักชาวนาไทย ตอนที่ ๑ "พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชาวนาไทย สุพรรณบุรี ตัวแทนของชาวนาไทย"". พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชาวนาไทย สุพรรณบุรี. สืบค้นเมื่อ 2025-11-03.
- ↑ [hhttp://www.virtualmuseum.finearts.go.th/thaifarmersnational/index.php/th/event.html "นิทรรศการ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชาวนาไทย"]. พิพิธภัณฑ์เสมือนจริง กรมศิลปากร. สืบค้นเมื่อ 2025-11-03.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- เว็บไซต์ทางการ
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชาวนาไทย ที่เฟซบุ๊ก
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชาวนาไทย ที่เว็บไซต์พิพิธภัณฑ์เสมือนจริง กรมศิลปากร
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติชาวนาไทย ที่เว็บไซต์ฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชาวนาไทย ที่เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
