ข้ามไปเนื้อหา

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
Mahamakut Buddhist University
ชื่อเดิมสภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์
ชื่อย่อมมร. / MBU[1]
คติพจน์ระเบียบ สามัคคี บำเพ็ญประโยชน์
ประเภทสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ
สถาปนา1 ตุลาคม พ.ศ. 2436; 132 ปีก่อน (2436-10-01)
ผู้สถาปนาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5)
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส
สถาบันหลักกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม[a]
สังกัดวิชาการ
งบประมาณ
  • 816,171,400 บาท
  • (ปีงบประมาณ 2569)[b]
นายกสภาฯสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อัมพร อมฺพโร)
อธิการบดีรองศาสตราจารย์ พระธรรมวชิรจินดาภรณ์
อาจารย์607 รูป/คน (พ.ศ. 2566)
บุคลากรทั้งหมด1,953 รูป/คน (พ.ศ. 2566)
ผู้ศึกษา2,577 รูป/คน (พ.ศ. 2567)
ที่ตั้ง
เลขที่ 248 หมู่ที่ 1 ถนนศาลายา-นครชัยศรี ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170
วิทยาเขตวิทยาเขต
สัญลักษณ์ต้นโพธิ์
สี  สีแสด
เว็บไซต์เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย
แผนที่

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย เป็นสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ ในการกำกับดูแลของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สถาบันการศึกษาของคณะสงฆ์ ฝ่ายธรรมยุติกนิกายของประเทศไทย ที่จัดการศึกษาในรูปแบบมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนา เป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรกที่เริ่มประยุกต์หลักพระพุทธศาสนาให้เข้ากับศาสตร์วิชาการสังคมสมัยใหม่ โดยมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย เป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งแรกของประเทศไทยและเป็นหนึ่งในสองแห่งของประเทศไทย[2]

ประวัติ

[แก้]

สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ซึ่งเป็นพระน้องยาเธอในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้มีพระดำริจัดตั้ง "มหามกุฏราชวิทยาลัย" เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นภายใน วัดบวรนิเวศวิหาร โดยวิธีจัดการศึกษาแบบสมัยใหม่ มีลักษณะแตกต่างจากการเล่าเรียนภาษาบาลีตามประเพณีแบบเดิม ในขณะเดียวกัน ก็นำเอาวิธีวัดผลแบบข้อเขียนมาใช้เป็นแห่งแรกของประเทศไทยด้วย[3]

หลังจากที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ได้ทรงก่อตั้งสถาบันการศึกษานี้ขึ้นแล้ว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็มีพระราชดำรัสให้พระองค์ทรงช่วยปรับปรุงโรงเรียนสอนภาษาบาลี ชื่อ "มหาธาตุวิทยาลัย" ภายในวัดมหาธาตุ ขึ้นเป็น "มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย" เพื่อจัดการให้คณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกายได้มีสถาบันการศึกษาชั้นสูงในลักษณะเดียวกัน ควบคู่ไปกับมหามกุฏราชวิทยาลัย ซึ่งสมัยนั้นเป็นสถาบันการศึกษาชั้นสูง และส่วนมากยังจำกัดอยู่แต่คณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุต ต่อมาทั้งมหามกุฏราชวิทยาลัยและมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยได้ปิดตายลงเพราะประสบปัญหาหลายประการด้วยกัน นับเป็นเวลาหลายสิบปี

จนกระทั่ง อาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพ ได้พยายามรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ ก่อนที่ภายหลังจะมีสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ และคณะสงฆ์วัดบวรนิเวศราชวรวิหารให้การอุปถัมภ์ โดยได้ทำการประกาศรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่เมื่อ พ.ศ. 2488 ตามมาด้วยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งประกาศรื้อฟื้นในปี พ.ศ. 2490 อาจารย์สุชีพ ได้แถลงว่า สาเหตุที่ต้องมีมหาวิทยาลัยสงฆ์ก็เพราะคณะสงฆ์จำเป็นต้องผลิตบุคลากรที่รู้ทันวิชาการสมัยใหม่ มิฉะนั้น คณะสงฆ์จะไม่สามารถสั่งสอนแนะนำชาวบ้านได้ และการสื่อสารกันก็จะเกิดความไม่เข้าใจ เพราะชาวบ้านศึกษาด้านคดีโลก ส่วนพระสงฆ์ศึกษาด้านคดีธรรม ทำให้โครงการจัดตั้งมหามกุฏราชวิทยาลัย และมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้รับการรื้อฟื้นมาอีกครั้ง และได้รับการยกฐานะให้เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐในปี พ.ศ. 2540 หลังจากกระทรวงศึกษาธิการเสนอให้รัฐสภาตราพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย พ.ศ. 2540 ทำให้คนรุ่นหลังกล่าวยกย่อง "อาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพ" ว่าเป็นบิดาแห่งมหาวิทยาลัยสงฆ์ไทย

เพื่อรำลึกถึงคุณูปการของท่านและสืบสานเจตนารมณ์ของท่าน คณะศิษยานุศิษย์ได้ร่วมกันก่อตั้งมูลนิธิปุญญานุภาพ ขึ้นโดยความเห็นชอบของท่านเพื่อให้ทุนสนับสนุนนักศึกษาหรือครูอาจารย์ผู้ค้นคว้าวิจัยทางพระพุทธศาสนา ณ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย และดำเนินกิจการต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ได้ย้ายที่ตั้งของไปยังตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม

สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัย

[แก้]
  • ตรามหามกุฏราชวิทยาลัย[4]
ตราสัญลักษณ์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
ตราสัญลักษณ์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
  • พระมหามงกุฏ และอุณาโลม หมายถึง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระผู้ทรงเป็นที่มาแห่งนาม “มหามกุฏราชวิทยาลัย”
  • พระเกี้ยวประดิษฐานบนหมอนรอง หมายถึง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระผู้พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดตั้ง “มหามกุฏราชวิทยาลัย”
  • หนังสือ หมายถึง คัมภีร์และตำราทางพระพุทธศาสนา เพื่อการศึกษาค้นคว้า และเผยแผ่พระพุทธศาสนา
  • ปากกาปากไก่ ดินสอ และม้วนกระดาษ หมายถึง อุปกรณ์ในการศึกษาเล่าเรียน การพิมพ์เผยแพร่คัมภีร์และการผลิตตำราทางพระพุทธศาสนา เพราะมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยทำหน้าที่เป็นทั้งสถาบันศึกษา และแหล่งผลิตตำรับตำราทางพระพุทธศาสนา
  • ช่อดอกไม้แย้มกลีบ หมายถึง ความเบ่งบานแห่งสติปัญญา และวิทยาการในทางพระพุทธศาสนา และหมายถึง กิตติศัพท์กิตติคุณที่ฟุ้งขจรไป ดุจกลิ่นหอมแห่งดอกไม้
  • ธงชาติไทย หมายถึง อุดมการณ์ของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ที่มุ่งพิทักษ์สถาบันหลักทั้ง ๓ คือ ชาติไทย พระพุทธศาสนา และพระมหากษัตริย์
  • พานรองรับหนังสือหรือคัมภีร์ หมายความว่า มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยเป็นสถาบันเพื่อความมั่นคง และแพร่หลายของพระพุทธศาสนา
  • วงรัศมี หมายถึง แสงสว่างแห่งปัญญา วิสุทธิ สันติ และกรุณา ที่มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยมุ่งสาดส่องไปทั่วโลก
  • มหามกุฏราชวิทยาลัย หมายถึง มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย อันเป็นสถาบันการศึกษาทางพระพุทธศาสนาระดับอุดมศึกษา
  • สุภาษิตประจำมหาวิทยาลัย
  • "วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ" เทวมานุเส หมายถึง "ผู้สมบูรณ์ด้วยความรู้และความประพฤติที่ดีประเสริฐที่สุดในหมู่เทวดาและหมู่มนุษย์" หมายความว่าเป้าหมายในการสร้างคนจะต้องให้สมบูรณ์ครบทั้งความรู้และความประพฤติที่ดี (ความรู้คู่คุณธรรม) ในเวลาเดียวกัน
  • สีประจำมหาวิทยาลัย ได้แก่   สีแสด เป็นสีประจำพระองค์รัชกาลที่ ๔
  • ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย ได้แก่ ต้นโพธิ์ ซึ่งเป็นต้นไม้ที่พระพุทธเจ้าใช้ประทับอาศัยเป็นร่มเงาเมื่อตรัสรู้ ต้นโพธิ์จึงเป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้น้อมรำลึกถึงพระพุทธเจ้า

คณะ

[แก้]

ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยแบ่งออกเป็น 5 คณะ[5]

วิทยาเขต

[แก้]

จังหวัดกำแพงเพชร

จังหวัดพิจิตร

วิทยาลัย

[แก้]

พิธีประสาทปริญญาบัตร

[แก้]

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดถวายให้ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จพระดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษา บัณฑิต มหาบัณฑิต ดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ณ อาคารสุชีพ ปุญญานุภาพ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม

ทำเนียบอธิการบดี

[แก้]
ลำดับรูปรายชื่อ[6]เริ่มวาระสิ้นสุดวาระวัด
1พระศรีวิสุทธิญาณ (สุชีพ สุชีโว) พ.ศ. 2488พ.ศ. 2495วัดกันมาตุยาราม
2สมเด็จพระญาณวโรดม (ประยูร สนฺตงฺกุโร)พ.ศ. 2540พ.ศ. 2544วัดเทพศิรินทราวาส
3สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (ประจวบ กนฺตาจาโร)พ.ศ. 2544พ.ศ. 2550วัดมกุฏกษัตริยาราม
4
ไฟล์:Mahamakut Buddhist University logo.jpg
พระพรหมวชิรวิมล (แสวง ธมฺเมสโก)25 ตุลาคม พ.ศ. 255024 ตุลาคม พ.ศ. 2554วัดบวรนิเวศวิหาร
5
ไฟล์:Mahamakut Buddhist University logo.jpg
พระเทพบัณฑิต (ธรณิศ ชาคโร)22 กรกฎาคม พ.ศ. 255821 กรกฎาคม พ.ศ. 2562วัดเฉลิมกาญจนาภิเษก
6พระธรรมวชิรจินดาภรณ์ (สมคิด จินฺตามโย)22 กรกฎาคม พ.ศ. 2562ปัจจุบัน วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร

ทำเนียบนายกสภา

[แก้]
ลำดับรูปรายนาม/สมณศักดิ์เริ่มวาระสิ้นสุดวาระวัด
1สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร พ.ศ. 25319 กันยายน พ.ศ. 2554วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร
2สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อัมพร อมฺพโร)9 กันยายน พ.ศ. 2554ปัจจุบันวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร

ความร่วมมือกับนานาชาติ

[แก้]

ปัจจุบัน มหามกุฏราชวิทยาลัยเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยในประเทศไทยที่ตกลงในความร่วมมือเพื่อพัฒนา ศูนย์พุทธศาสน์ศึกษา มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ใน อังกฤษ เพื่อเผยแผ่หลักพุทธธรรมให้กว้างขวางไปสู่นานาประเทศ นอกจากนั้น ยังร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในประเทศอินโดนีเซียเพื่อพัฒนาการศึกษาพุทธศาสน์ศึกษาด้วย

เกียรติภูมิของชาวมหามกุฏราชวิทยาลัย

[แก้]

สิ่งที่ชาวมหามกุฏราชวิทยาลัยภาคภูมิใจที่สุดก็คือการเป็นมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาหรือมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งแรกของประเทศ หลังจากที่มีการเปิดการเรียนการสอนระดับมหาวิทยาลัย นักศึกษาและครูอาจารย์มหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งนี้มีเป้าประสงค์ยิ่งใหญ่ตามเจตนารมณ์ของอาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพ คือพยายามขยายการอบรมจริยธรรมหรือศีลธรรมทางพระพุทธศาสนาไปทั่วประเทศในรูปแบบต่าง ๆ กล่าวได้ว่าในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่ประเทศได้รับอิทธิพลวัตถุนิยมจากตะวันตก นักศึกษาและครูอาจารย์มหามกุฏราชวิทยาลัยได้มีบทบาทสำคัญในการชี้นำให้เห็นความสำคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะเป็นศาสนาประจำชาติที่เป็นรากฐานของสังคมไทยมาช้านาน พระสงฆ์สามเณรที่เป็นพระนักศึกษาหลายรูปได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับกิจกรรมเผยแผ่พระพุทธศาสนาเหล่านี้จนกระทั่งสำเร็จการศึกษา

กิจกรรมที่คณาจารย์และนักศึกษาได้กระทำกันมาเพื่อปลูกฝังศีลธรรมในประเทศไทยมีจำนวนมาก เช่น

  • บรรยายธรรมทางสถานีวิทยุหลายสถานี
  • ส่งพระนักศึกษาและครูอาจารย์ไปสอนนักโทษเรือนจำในที่ต่าง ๆ ของประเทศ
  • ส่งพระนักศึกษาและครูอาจารย์ไปสอนศีลธรรมตามโรงเรียนต่าง ๆ ที่ขาดแคลน
  • เปิดสอนศีลธรรมแก่ประชาชนและนิสิตนักศึกษาทั่วไปเป็นกรณีพิเศษในวันอาทิตย์
  • จัดอภิปราย บรรยายหรือเสวนาธรรมเป็นประจำเพื่อกระตุ้นหรือเร่งเร้าให้ประชาชนเห็นคุณค่าของธรรมะ
  • ส่งพระนักศึกษาไปอบรมกรรมฐานเป็นเวลา 1 เดือนในสำนักพระกัมมัฏฐานก่อนจะรับปริญญา
  • จัดส่งนักศึกษาที่เรียนครบตามหลักสูตรไปปฏิบัติหน้าที่สอนศีลธรรมในท้องถิ่นต่าง ๆ ของประเทศเป็นระยะเวลา 1 ปีก่อนจะมีพิธีประสาธน์ปริญญา
  • คณาจารย์ได้เข้าไปมีบทบาทในการแสดงความเห็นเพื่อแก้ปัญหาการขาดศีลธรรมของชนในชาติระดับต่าง ๆ
  • เป็นผู้นำในการตอบโต้ภัยคุกคามจากลัทธิศาสนาอื่นที่มีพฤติกรรมบ่อนทำลายพระพุทธศาสนา
  • ชี้นำสังคมให้พัฒนาบัณฑิตเพียบพร้อมด้วยคุณธรรม หรือมีความรู้คู่คุณธรรม

ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของมหาวิทยาลัยสงฆ์มหามกุฏราชวิทยาลัยหลัก ๆ ที่เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ประชาชนทั่วไปที่ติดตามผลงานของมหามกุฏราชวิทยาลัยมาโดยตลอดจึงอยู่ที่ความสามารถในการผลิตบุคลากรทางพระพุทธศาสนาเพื่อพิทักษ์รักษาพระพุทธศาสนาและเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้เข้าถึงประชาชนทุกระดับชั้น

บุคคลที่มีชื่อเสียง

[แก้]

คณาจารย์

[แก้]

ศิษย์เก่า

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "การกำหนดรหัสตัวพยัญชนะประจำกระทรวงและเลขที่หนังสือออก ของ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2019-05-04. สืบค้นเมื่อ 2019-05-04.
  2. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นสถาบันการศึกษาชั้นสูงของคณะสงฆ์มหานิกาย
  3. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-05-11. สืบค้นเมื่อ 2017-05-16.
  4. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-07-21. สืบค้นเมื่อ 2017-05-16.
  5. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-05-27. สืบค้นเมื่อ 2017-05-16.
  6. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-05-12. สืบค้นเมื่อ 2017-05-16.
  1. เป็นสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐอยู่ในกำกับดูแลของรัฐมนตรี
  2. เป็นงบประมาณทั้งหมดของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ตั้งแต่หมวด 3 และหมวด 5 รายละเอียดดูที่ พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]