ข้ามไปเนื้อหา

สมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลที่ 1 แห่งกัสติยา

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อิซาเบลที่ 1
สมเด็จพระราชินีนาถคาทอลิกแห่งสเปน
ผู้รับใช้พระเป็นเจ้า
พระบรมสาทิสลักษณ์ เมื่อ ค.ศ.1490
สมเด็จพระราชินีนาถแห่งกัสติยาและเลออน
ครองราชย์11 ธันวาคม 1474 – 26 พฤศจิกายน 1504
(29 ปี 11 เดือน 15 วัน)
ราชาภิเษก13 ธันวาคม 1474 [1]
ก่อนหน้าเอนริเกที่ 4
ถัดไปฆัวนา และ เฟลิเปที่ 1
ผู้ร่วมในราชสมบัติเฟร์นันโดที่ 2 แห่งอารากอน
สมเด็จพระราชินีแห่งอารากอน
บาเลนเซีย ซาร์ดิเนียและมาฆอร์กา
เคาน์เตสแห่งบาร์เซโลนา
ระหว่าง20 มกราคม 1479 – 26 พฤศจิกายน 1504
สมเด็จพระราชินีแห่งซิซิลี
ระหว่าง19 ตุลาคม 1469 - 26 พฤศจิกายน 1504
สมเด็จพระราชินีแห่งนาโปลี
ระหว่าง31 มีนาคม 1504 – 26 พฤศจิกายน 1504
พระราชสมภพ22 เมษายน ค.ศ. 1451
มาดริกัลเดลัสอัลตัสตอร์เรส สเปน
สวรรคต26 พฤศจิกายน ค.ศ. 1504 (53 พรรษา)
เมดินาเดลกัมโป สเปน
คู่อภิเษกพระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 แห่งอารากอน
พระราชบุตรอิซาเบลแห่งอารากอน สมเด็จพระราชินีแห่งโปรตุเกส
เจ้าชายฆวนแห่งอัสตูเรียส
สมเด็จพระราชินีนาถฆัวนาแห่งกัสติยา
มาริอาแห่งอารากอน สมเด็จพระราชินีแห่งโปรตุเกส
กาตาลินาแห่งอารากอน พระราชินีแห่งอังกฤษ
ราชวงศ์ราชวงศ์ตรัสตามารา
พระราชบิดาพระเจ้าฆวนที่ 2 แห่งกัสติยา
พระราชมารดาสมเด็จพระราชินีอิซาเบล
ลายพระอภิไธย

สมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลที่ 1 แห่งกัสติยา (Isabella I of Castile) (ค.ศ. 1451-1504) พระองค์เป็นหนึ่งในบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์ยุโรป และ ได้รับการจดจำในฐานะ "ผู้สร้างชาติสเปน" พระองค์เป็นสมเด็จพระราชินีนาถแห่งกัสติยาและเลออน ตั้งแต่ปี ค.ศ.1474 ตลอดรัชสมัยของพระองค์ พระองค์และพระสวามี พระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 แห่งอารากอน ในการปฏิรูปอาณาจักรอย่างขนานใหญ่ เพื่อรวมอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลางราชบัลลังก์ และ เสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเมืองและศาสนาให้กับสเปน

การตัดสินใจ และ นโยบายของสมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลที่ 1 นำไปสู่เหตุการณ์สำคัญหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงเส้นทางประวัติศาสตร์ ทั้งการสิ้นสุด เรกองกิสตา ด้วยการ พิชิตกรานาดา ในปี ค.ศ.1492 การสนับสนุน คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ในการเดินทางสู่โลกใหม่ ซึ่งนำไปสู่การก่อตั้ง จักรวรรดิสเปน อันยิ่งใหญ่ และ การดำเนินนโยบายทางศาสนาที่เข้มงวด เช่น การจัดตั้ง ศาลไต่สวนศาสนาสเปน และ การออก พระราชกฤษฎีกาอาลัมบรา เพื่อขับไล่ชาวยิวออกจากสเปน แม้ว่า บางนโยบายจะยังคงเป็นที่ถกเถียงในปัจจุบัน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งที่เธอทำนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการทำให้สเปนเป็นประเทศอย่างที่เราเห็นในวันนี้ และ เปลี่ยนประวัติศาสตร์ของโลกตะวันตกไปอย่างมาก

พระชนมชีพช่วงต้นและปัญหาการสืบราชบัลลังก์

[แก้]

สมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลที่ 1 แห่งกัสติยา ประสูติ เมื่อวันที่ 22 เมษายน ค.ศ.1451 ที่เมือง มาดริกัล เด ลาส อัลตัส ตอร์เรส (Madrigal de las Altas Torres) อาณาจักร กัสติยา พระองค์เป็นพระธิดาของ พระเจ้าฆวนที่ 2 แห่งกัสติยา และ พระราชินีอิซาเบลแห่งโปรตุเกส วัยเด็กของอิซาเบลค่อนข้างแตกต่างจากราชวงศ์ทั่วไป พระองค์เติบโตในเมือง อเรวาโล อย่างเงียบๆ ห่างไกลจากความวุ่นวายในราชสำนัก ซึ่งเป็นผลมาจากข้อพิพาทภายในราชวงศ์ และ อำนาจของขุนนางที่เพิ่มขึ้นในรัชสมัยของพระบิดา

เมื่อพระบิดาเสด็จสวรรคตในปี ค.ศ. 1454 พระเจ้าเอนริเกที่ 4 แห่งกัสติยา ซึ่งเป็นพระเชษฐาต่างมารดาของอิซาเบล ได้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์แห่งกัสติยา ปัญหาการสืบราชสันตติวงศ์ กลายเป็นประเด็นร้อนแรง เนื่องจาก พระเจ้าเอนริเกไม่มีพระโอรส พระองค์ทรงมีพระธิดา คือ เจ้าหญิงฆัวนา แต่มีข่าวลือแพร่สะพัดว่าพระเจ้าเฮนรีไม่ใช่พระบิดาที่แท้จริงของเจ้าหญิงฆัวนา ทำให้กลุ่มขุนนางจำนวนมากไม่ยอมรับการสืบราชบัลลังก์ของเจ้าหญิง

สถานการณ์นี้บานปลายไปสู่ความขัดแย้งทางการเมือง และ สงครามกลางเมือง ในที่สุด ภายใต้ สนธิสัญญาของทอโรส เด กินันโด (Treaty of Toros de Guisando) ในปี ค.ศ.1468 อิซาเบลได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการให้เป็นรัชทายาทในราชบัลลังก์กัสติยา โดยมีเงื่อนไขว่าพระองค์จะต้องไม่อภิเษกสมรสโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากพระเจ้าเอนริเกที่ 4 ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่อิซาเบลไม่ได้ปฏิบัติตาม

การอภิเษกสมรสกับเฟร์นันโดและการรวมอาณาจักร

[แก้]

แม้จะมีข้อจำกัดจากสนธิสัญญา อิซาเบลทรงตัดสินใจเดินตามทางของพระองค์เอง ในปี ค.ศ.1469 พระนางอิซาเบลทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าชายเฟร์นันโดแห่งอารากอน ซึ่งเป็นพระญาติชั้นที่สอง และ เป็นรัชทายาทในราชบัลลังก์อารากอน การอภิเษกสมรสครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างลับๆ ในเมืองบายาโดลิด (Valladolid) โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพระเจ้าเอนริเกที่ 4 ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพระเชษฐาและพระขนิษฐาเลวร้ายลง

การอภิเษกสมรสระหว่างพระนางอิซาเบล และ เจ้าชายเฟร์นันโด ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์สเปนอย่างสิ้นเชิง เพราะเมื่อพระเจ้าเอนริเกที่ 4 แห่งกัสติยา เสด็จสวรรคตในเดือนธันวาคม ค.ศ.1474 พระนางอิซาเบลได้รับการประกาศเป็น สมเด็จพระราชินีนาถแห่งกัสติยาอย่างเป็นทางการ ที่เซโกเบีย การขึ้นครองราชย์ของพระองค์นำไปสู่ สงครามสืบราชบัลลังก์กัสติยา (War of the Castilian Succession) กับเจ้าหญิงฆัวนา และ พระสวามีของพระองค์ คือ พระเจ้าอาฟองโซที่ 5 แห่งโปรตุเกส การสู้รบดำเนินไปนาน 5 ปี และ จบลงด้วยชัยชนะของพระนางอิซาเบล ในปี ค.ศ.1479 เมื่อมีการลงนามในสนธิสัญญาอาลกาโซวัส (Treaty of Alcáçovas)

ในปีเดียวกันนั้นเอง (ค.ศ.1479) เจ้าชายเฟร์นันโด ได้ขึ้นครองราชย์เป็น พระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 แห่งอารากอน การที่ทั้งสองพระองค์เป็นกษัตริย์ และ ราชินีของอาณาจักรที่สำคัญที่สุดสองแห่งในคาบสมุทรไอบีเรีย ทำให้ กัสติยา และ อารากอนได้รวมกันเป็น "สหภาพส่วนพระองค์" (Personal Union) ภายใต้การปกครองของทั้งสองพระองค์ แม้ว่าอาณาจักรทั้งสองจะยังคงเอกราชทางกฎหมาย การบริหาร และ สถาบันของตนเอง แต่การรวมอำนาจนี้เป็นรากฐานที่มั่นคงสำหรับการก่อตั้งประเทศสเปนในอนาคต

ด้วยบทบาทสำคัญในการปกป้อง และ เสริมสร้างอำนาจของคริสตจักรคาทอลิก ในคาบสมุทรไอบีเรีย สมเด็จพระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ที่ 6 จึงพระราชทานสมัญญานามแก่ทั้งสองพระองค์ว่า "กษัตริย์คาทอลิก" (Catholic Monarchs) ในปี ค.ศ.1494

เหตุการณ์ในปี ค.ศ.1492

[แก้]
พระนางอิซาเบล พระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 และเจ้าหญิงฆัวนา พระราชธิดา ในปี พ.ศ. 2025
พระนางอิซาเบลกับพระเจ้าเฟร์นันโดกำลังออกขุนนาง

ปี ค.ศ.1492 ถือเป็นปีแห่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญอย่างยิ่ง ในรัชสมัยของสมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลที่ 1 และพระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 แห่งสเปน มีเหตุการณ์ใหญ่ๆ ที่เกิดขึ้น 3 เหตุการณ์หลัก คือ

การพิชิตกรานาดา(Conquest of Granada)

[แก้]
  • เหตุการณ์นี้ถือเป็นการสิ้นสุดยุคสมัยแห่ง "เรกองกิสตา" (Reconquista) หรือ การยึดคืนดินแดนจากชาวมุสลิมที่ดำเนินมานานกว่า 700 ปี และเป็นสัญลักษณ์ของการรวมสเปนภายใต้การปกครองของคริสเตียนอย่างสมบูรณ์

การสนับสนุนการเดินทางของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (Columbus's First Voyage)

[แก้]
ภาพแกะสลักพระนางอิซาเบลในตอนสวดแก่พระบิดาและพระมารดาที่ถูกฝังในคาร์ทูจา เดอ มิราฟอร์ที่เมืองเบอร์โก
  • หลังจากความพยายามหลายครั้งและถูกปฏิเสธมาหลายปี ในที่สุด สมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลทรงตัดสินใจให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักสำรวจชาวเจนัว ในการเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเพื่อค้นหาเส้นทางการค้าใหม่สู่เอเชียทางทิศตะวันตก
  • ในวันที่ 3 สิงหาคม ค.ศ.1492 คริสโตเฟอร์ โคลัมบัสได้ออกเดินทางจากท่าเรือปาลอส เด ลา ฟรอนเตรา (Palos de la Frontera) และ ในวันที่ 12 ตุลาคม ค.ศ.1492 เขาได้ขึ้นฝั่งที่เกาะแห่งหนึ่งในบาฮามาส ซึ่งเป็นการค้นพบทวีปอเมริกา (โลกใหม่) โดยชาวยุโรป
  • เหตุการณ์นี้เป็นจุดเริ่มต้นของการขยายจักรวรรดิสเปนอันกว้างใหญ่ นำไปสู่ยุคแห่งการสำรวจและการล่าอาณานิคมของยุโรป

พระราชกฤษฎีกาอาลัมบรา (Alhambra Decree) หรือการขับไล่ชาวยิว

[แก้]
  • ในเดือนมีนาคม ค.ศ.1492 (หลังจากการพิชิตกรานาดาไม่นาน) สมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบล และ พระเจ้าเฟร์นันโดทรงออกพระราชกฤษฎีกา ที่เรียกว่า "พระราชกฤษฎีกาอาลัมบรา" หรือ "พระราชกฤษฎีกาขับไล่"
  • พระราชกฤษฎีกานี้บังคับให้ชาวยิวทุกคนในกัสติยาและอารากอน (ซึ่งรวมถึงดินแดนที่เพิ่งยึดคืนมาอย่างกรานาดาด้วย) ต้องเลือกระหว่างการเปลี่ยนศาสนาเป็นคริสต์ หรือ ถูกขับไล่ออกจากสเปนภายในสี่เดือน (ก่อนวันที่ 31 กรกฎาคม ค.ศ.1492)
  • นโยบายนี้ส่งผลให้ชาวยิวจำนวนมากต้องอพยพออกจากประเทศ และ สร้างผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจอย่างใหญ่หลวงต่อสเปน

พระชนมชีพส่วนพระองค์

[แก้]
เอกสารในเมืองกรานาดาที่มีลายพระหัตถ์ของพระนางอิซาเบล
ภาพพระนางอิซาเบลในช่วงบั้นปลาย

สมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลที่ 1 และพระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 มีพระบุตรด้วยกัน 5 พระองค์ได้แก่

สมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลที่ 1 เสด็จสวรรคตในวันที่ 26 พฤศจิกายน ค.ศ.1504 ที่พระราชวังในเมือง เมดินา เดล กัมโป (Medina del Campo) ด้วยโรคที่เชื่อกันว่าเป็นมะเร็ง หลังจากที่พระราชโอรส เจ้าชายฆวน สิ้นพระชนม์ไปก่อนหน้า ทำให้การสืบราชสมบัติเป็นไปอย่างซับซ้อน อินฟันตาฆัวนาได้ขึ้นครองราชย์เป็น สมเด็จพระราชินีนาถแห่งกัสติยา แต่เนื่องจากพระอาการประชวร ทำให้พระราชสวามีของพระองค์ ทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแทน พระบรมศพของพระองค์ ถูกฝังไว้ที่โบสถ์หลวงกรานาดา (Capilla Real de Granada)

บทบาทในสมัยใหม่

[แก้]
ภาพ Madonna of the Catholic Monarchs โดยเฟร์นันโด กาเยโก

ชาวคาทอลิกบางคนจากต่างประเทศได้ประกาศให้พระนางอิซาเบลเป็นนักบุญ ด้วยเหตุผลที่ว่าพระนางอิซาเบลได้ทำการปกป้องศาสนาคริสต์ให้คงอยู่ คริสตจักรโรมันคาทอลิกได้ยกย่องพระนางเป็น ผู้รับใช้พระเป็นเจ้า (Servant of God)

พระนางอิซาเบลได้มีการปรากฏชื่อครั้งแรกบนเหรียญของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเหรียญแห่งการระลึกถึงการครบรอบ 400 ปีการเดินทางของโคลัมบัสครั้งแรก และในปีเดียวกันพระนางได้เป็นสตรีคนแรกที่ได้ขึ้นบนแสตมป์ของอเมริกาซึ่งอยู่ในชุด Columbian Issue ที่จัดทำขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองแด่โคลัมบัสเช่นกัน ภาพพระนางได้ปรากฏในสเปนที่ 15-cent Columbian บนมูลค่า 1 $ และในภาพเต็มซึ่งด้านข้างคือโคลัมบัสและบนมูลค่าอื่น ๆ อีกมากมาย

ในวัฒนธรรมสมัยนิยม

[แก้]
  • เรื่อง Queen's Cross แต่งในศตวรรษที่ 20 โดยนักเขียนชาวอเมริกัน ลอร์เลนซ์ สคูโนเวอร์เป็นเรื่องเกี่ยวกับพระราชประวัติของพระราชินีนาถอิซาเบลและพระเจ้าเฟร์นันโดในช่วงกระทำการรีคอนเควสตาและช่วงทายาทสืบราชวงศ์
  • เรื่อง Fuente Ovejuna ของโลป เดอ เวกา เกี่ยวกับพระนางอิซาเบลและพระเจ้าเฟร์นันโดในการการต่อต้านระบบฟิวดัลของกลุ่มขุนนาง
  • เรื่อง Royal Diaries เป็นเรื่องที่รวบรวมประวัติของสตรีสูงศักดิ์และมีชื่อเสียงทั่วโลกซึ่งรวมทั้ง Isabel, Jewel of Castilla, Spain, 1466 โดยคาโลลีน เมเยอร์ประวัติของพระราชินีนาถอิซาเบล
  • เรื่อง Crown of Aloes เกี่ยวกับการชวนให้ระลึกถึงประวัติศาสตร์ในอดีต
  • เรื่อง Pastwatch: The Redemption of Christopher Columbus โดย ออสัน สกอต การ์ดเกี่ยวกับคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส พระนางอิซาเบลและพระเจ้าเฟอร๋ดินานด์
  • เรื่องสั้น Christopher Columbus and Queen Isabella of Spain Consummate Their Relationship โดย ซัลแมน รัชดี
  • ในภาพยนตร์ ลอลา ฟลอเรสแสดงเป็นพระนางอิซาเบลในเรื่อง Juana la Loca, de vez en cuando แสดงโดย ซิกจวนนีย์ เวฟเวอร์ในเรื่องConquest of Paradise ของ ริดลีย์ สก็อตต์ แสดงโดยราเชล วาร์ดในเรื่อง Christopher Columbus: The Discovery แสดงโดย ราเชล เวล์สในเรื่อง The Fountain
  • ในมินิซีรีส์ โดย เฟย์ ดูนาเวย์แสดงเป็นพระนางอิซาเบลในมินิซีรีส์เรื่อง Christopher Columbus
  • ในเกมส์คอมพิวเตอร์ ปรากฏในเกมส์ Civilization IVโดยเป็นผู้นำของจักรวรรดิสเปน
  • ในเกมส์ Age of Empires IIIโดยเป็นผู้นำของจักรวรรดิสเปน
  • ในเกมส์เชิงกลยุทธ์อิงประวัติศาสตร์ Europa Universalis IV พระนางเป็นผู้ปกครองราชบัลลังก์กัสติยา ตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม ค.ศ. 1474 เป็นสมเด็จพระราชินีแห่งราชบัลลังก์อารากอน ในวันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 1479 และเป็นผู้ปกครองร่วมของรัฐร่วมประมุข ระหว่างคาสติลและอารากอน ในวันที่ 4 กันยายน ค.ศ. 1479

พระราชบรรพบุรุษ

[แก้]

พระนางอิซาเบลเป็นพระนัดดาของพระเจ้าเอนริเกที่ 2 แห่งกัสติยา พระโอรสในพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 11 แห่งกัสติยา กับ พระนางเอเลนอร์แห่งกัสแมน (พระสนม) สมเด็จพระราชินีแคทเทอรีนแห่งแลงคัสเตอร์ พระอัยยิกาฝ่ายพระบิดาของพระนางเป็นพระนัดดาของ พระเจ้าปีเตอร์แห่งกัสติยากับพระสนม นางมาเรีย เดอ พาดิลลา พระอัยยิกาฝ่ายพระมารดาของพระนางอิซาเบล คือ สมเด็จพระราชินีอิซาเบลแห่งบรากังซา เป็นพระธิดาใน ดยุคอัลฟอนโซแห่งบรากังซา มีพระมารดา คือ นางอินเนส เปเรส เอสเทเวส เป็นพระสนมในพระเจ้าจอห์นที่ 1 แห่งโปรตุเกส

พระราชตระกูลในสามรุ่นของสมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบล
อิซาเบลที่ 1 แห่งกัสติยา พระราชบิดา:
จอห์นที่ 2 แห่งกัสติยา
พระอัยกาฝ่ายพระราชบิดา:
เอนริเกที่ 3 แห่งกัสติยา
พระปัยกาฝ่ายพระราชบิดา:
จอห์นที่ 1 แห่งกัสติยา
พระปัยยิกาฝ่ายพระราชบิดา:
เอเลนอร์แห่งอารากอน
พระอัยยิกาฝ่ายพระราชบิดา:
แคทรินแห่งแลงคัสเตอร์
พระปัยกาฝ่ายพระราชบิดา:
ดุ๊กจอห์นแห่งแลงคัสเตอร์
พระปัยยิกาฝ่ายพระบิดา:
ดัสเซสคอนสแตนต์แห่งแลงคาสเตอร์
พระราชมารดา:
อีซาเบลแห่งโปรตุเกส
พระอัยกาฝ่ายพระราชมารดา:
ลอร์ดฌูเอาแห่งรือเก็งกุช
พระปัยกาฝ่ายพระราชมารดา:
ฌูเอาที่ 1 แห่งโปรตุเกส
พระปัยยิกาฝ่ายพระราชมารดา:
ฟิลิปปาแห่งแลงคัสเตอร์
พระอัยยิกาฝ่ายพระราชมารดา:
อีซาเบลแห่งบรากังซา
พระปัยกาฝ่ายพระราชมารดา:
ดุ๊กอาฟงซูแห่งบรากังซา
พระปัยยิกาฝ่ายพระราชมารดา:
เบอาตริช ปือไรรา อัลวิง

ภาพ

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
ก่อนหน้า สมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลที่ 1 แห่งกัสติยา ถัดไป
พระเจ้าเอนริเกที่ 4 แห่งกัสติยา
พระมหากษัตริย์กัสติยาและเลออน
(ราชวงศ์ตรัสตามารา)
ร่วมราชบัลลังก์กับพระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2

(พ.ศ. 2017พ.ศ. 2047)
สมเด็จพระราชินีนาถฆัวนาร่วมกับเจ้าชายเฟลิเปรูปงาม
สมเด็จพระราชินีฆัวนา เอนริเกซ
สมเด็จพระราชินีแห่งซิชิลี
(พ.ศ. 2012พ.ศ. 2047)
สมเด็จพระราชินีเจอร์แมนแห่งฟออิกซ์
ว่าง
สมเด็จพระราชินีแห่งอารากอน, มาจอร์กา และบาเลนเซีย และเคาน์เตสแห่งบาร์เซโลนา
(พ.ศ. 2022พ.ศ. 2047)
ว่าง
สมเด็จพระราชินีแอนน์แห่งบริตานี
สมเด็จพระราชินีแห่งเนเปิลส์
(พ.ศ. 2047)
ว่าง
เจ้าชายอัลฟอนโซแห่งกัสติยา
เจ้าหญิงแห่งอัสตูเรียส
(พ.ศ. 2011พ.ศ. 2017)
อิซาเบล เจ้าหญิงแห่งอัสตูเรียส


  1. Gristwood, Sarah (2016). Game of Queens: The Women Who Made Sixteenth-Century Europe. Basic Books. p. 30. ISBN 9780465096794.