ข้ามไปเนื้อหา

สมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1 แห่งสกอตแลนด์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1
สมเด็จพระราชินีนาถแห่งชาวสกอต
ครองราชย์14 ธันวาคม 1542– 24 กรกฎาคม 1567
(24 ปี 7 เดือน 10 วัน)
ราชาภิเษก9 กันยายน 1543
ก่อนหน้าพระเจ้าเจมส์ที่ 5
ถัดไปพระเจ้าเจมส์ที่ 6
สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส
ดำรงพระยศ10 กรกฎาคม 1559 – 5 ธันวาคม 1560
พระราชสมภพ8 ธันวาคม ค.ศ. 1542[1]
พระราชวังลินลิธโก, สกอตแลนด์
สวรรคต8 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1587(1587-02-08) (44 ปี)[2]
ปราสาทฟอธริงเฮย์, นอร์แทมป์ตันเชอร์, อังกฤษ
ฝังพระศพเวสต์มินสเตอร์แอบบีย์
คู่อภิเษก
พระราชบุตรพระเจ้าเจมส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ
ราชวงศ์สทิวเวิร์ต
พระราชบิดาพระเจ้าเจมส์ที่ 5 แห่งสกอตแลนด์
พระราชมารดามารีแห่งกีซ
ศาสนาโรมันคาทอลิก
ลายพระอภิไธย

สมเด็จพระราชินีนาถแมรี่ที่ 1 แห่งสก็อตแลนด์ (อังกฤษ: Mary I of Scotland; ประสูติ 8 ธันวาคม ค.ศ. 1542 – สิ้นพระชนม์ 8 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1587) หรือ ที่รู้จักกันในนาม แมรี่ สจวร์ต (Mary Stuart) หรือ แมรี่ ราชินีแห่งสก็อต (Mary, Queen of Scots) เป็นราชินีแห่งสกอตแลนด์ตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1542 จนกระทั่งถูกบังคับให้สละราชสมบัติในปี ค.ศ. 1567

สมเด็จพระราชินีนาถแมรีเป็นพระราชบุตรที่ถูกต้องตามกฎหมายเพียงพระองค์เดียวที่ยังมีพระชนม์อยู่ของพระเจ้าเจมส์ที่ 5 แห่งสกอตแลนด์ โดยมีพระชนมายุได้เพียง 6 วันเมื่อพระราชบิดาเสด็จสวรรคต และพระองค์ได้สืบทอดราชบัลลังก์

ชีวิตช่วงต้น

[แก้]

แมรี่ สจวร์ต ประสูติ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ.1542 ณ พระราชวังลินลิธโกว์ (Linlithgow Palace) ในสกอตแลนด์ พระองค์เป็นพระธิดาของพระเจ้าเจมส์ที่ 5 แห่งสกอตแลนด์ กับ มารีแห่งกีส (Mary of Guise) พระมารดาของพระองค์เป็นสตรีชาวฝรั่งเศสจากตระกูลกีส (Guise) ผู้ทรงอิทธิพล น่าเศร้าที่พระเจ้าเจมส์ที่ 5 สวรรคตเพียงหกวัน หลังจากแมรี่ประสูติ ทำให้แมรี่ซึ่งเป็นทารกน้อยวัยเพียงหกวันต้องขึ้นครองราชย์เป็น สมเด็จพระราชินีนาถแห่งสก็อตแลนด์ ในวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ.1542

แม้จะเป็นทารก แต่การที่ทรงเป็นราชินี ทำให้พระองค์กลายเป็นเป้าหมายสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ทางการเมืองทันที พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 แห่งอังกฤษ พยายามที่จะหมั้นหมายแมรี่ กับ เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด (พระโอรสของพระองค์เอง ซึ่งต่อมาคือ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 6) โดยมีเจตนาที่จะรวมราชบัลลังก์อังกฤษ และ สก็อตแลนด์ เป็นหนึ่งเดียว แต่ข้อเสนอที่รู้จักกันในชื่อ "สนธิสัญญากรีนิช" (Treaty of Greenwich) ถูกปฏิเสธโดยฝ่ายสก็อตแลนด์ เนื่องจาก ความไม่ไว้วางใจอังกฤษ สิ่งนี้นำไปสู่ช่วงเวลาที่เรียกว่า "การเกี้ยวพาราสีที่ดุเดือด" (Rough Wooing) ซึ่งเป็นการรุกรานสกอต็แลนด์โดยอังกฤษอย่างต่อเนื่อง เพื่อบังคับให้มีการสมรส

เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับตัวโดยอังกฤษ และ เพื่อเสริมสร้างพันธมิตรเก่าแก่ ระหว่างสก็อตแลนด์ และ ฝรั่งเศส (Auld Alliance) มารีแห่งกีส พระมารดาของแมรี่ ได้จัดให้มีการหมั้นหมายระหว่าง แมรี่ กับ ฟร็องซัว (François) โดแฟงแห่งฝรั่งเศส (รัชทายาทในบัลลังก์ฝรั่งเศส) ในปี ค.ศ.1548 เมื่อแมรี่ มีพระชนมายุเพียง 5 พรรษา พระองค์จึงถูกส่งตัวไปยังฝรั่งเศส เพื่อรับการเลี้ยงดู และ การศึกษาในราชสำนักฝรั่งเศส

แมรี่ใช้ชีวิตในฝรั่งเศสเป็นเวลา 13 ปี ในราชสำนักที่โอ่อ่า ของ พระเจ้าอ็องรีที่ 2 แห่งฝรั่งเศส และ พระนางแคเธอรีน เดอ เมดิชี พระองค์ได้รับการศึกษาอย่างดีเยี่ยม ทรงเรียนภาษาละติน กรีก สเปน อิตาลี และ ฝรั่งเศส (ซึ่งเป็นภาษาที่พระองค์ถนัดที่สุด) ทรงมีความสามารถโดดเด่นด้านการเขียนบทกวี การเล่นเครื่องดนตรี การเต้นรำ และ การล่าสัตว์ พระองค์เป็นที่รักของราชสำนักฝรั่งเศสและ เติบโตมาเป็นสตรีที่มีความงาม สง่างาม และ มีไหวพริบ ความใกล้ชิดกับราชวงศ์ฝรั่งเศส และความเชื่อมั่นในนิกายโรมันคาทอลิกจะหล่อหลอมทัศนคติของพระองค์ในอนาคต

สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส

[แก้]

ในวันที่ 24 เมษายน ค.ศ.1558 เมื่อพระชนมายุ 15 พรรษา แมรี่ทรงอภิเษกสมรส กับ พระเจ้าฟร็องซัว พระชนมายุ 14 พรรษา ณ มหาวิหารนอเทรอดาม กรุงปารีส ซึ่งเป็นพิธีที่ยิ่งใหญ่ และ หรูหราอย่างยิ่ง ก่อนพิธีอภิเษกสมรส แมรี่ได้ลงนามในเอกสารลับหลายฉบับ ซึ่งจะยกราชบัลลังก์สกอตแลนด์ให้แก่ฝรั่งเศส หากพระองค์สวรรคตโดยไม่มีทายาท ซึ่งต่อมาสร้างปัญหาทางการเมือง

ในปี ค.ศ.1558 เมื่อสมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1 แห่งอังกฤษ (แมรี่ ทิวดอร์) สวรรคต และ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 ขึ้นครองราชย์ ฝ่ายคาทอลิกในยุโรปหลายคนไม่ยอมรับความชอบธรรมในการขึ้นครองราชย์ของเอลิซาเบธ (เนื่องจากมองว่าการสมรสของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 กับแอนน์ โบลีนไม่ถูกต้อง) ทำให้พวกเขาถือว่าแมรี่ สจวร์ต เป็นผู้มีสิทธิ์อันชอบธรรมในราชบัลลังก์อังกฤษ สิ่งนี้ได้รับการสนับสนุนจากพระเจ้าอ็องรีที่ 2 และ ตระกูลกีส ซึ่งทำให้แมรี่เริ่มใช้ตราอาร์มของอังกฤษควบคู่กับของสก็อตแลนด์ และ ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งยาวนานกับเอลิซาเบธที่ 1

ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ.1559 พระเจ้าอ็องรีที่ 2 แห่งฝรั่งเศส สวรรคตโดยอุบัติเหตุจากการประลองทวน ทำให้ฟร็องซัวขึ้นครองราชย์เป็น พระเจ้าฟร็องซัวที่ 2 แห่งฝรั่งเศส และ แมรี่จึงได้เป็น สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส

รัชสมัยของแมรี่ในฐานะพระราชินีแห่งฝรั่งเศสสั้นนัก พระเจ้าฟร็องซัวที่ 2 มีพระพลานามัยไม่แข็งแรงมาตั้งแต่เด็ก และ สวรรคตเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ.1560 เพียง 17 เดือน หลังจากขึ้นครองราชย์ ด้วยพระชนมายุเพียง 16 พรรษา ทำให้แมรี่เป็นม่ายเมื่อพระชนมายุเพียง 18 พรรษา

พระเจ้าฟร็องซัวที่ 2 แห่งฝรั่งเศส พระสวามีพระองค์แรกของแมรี่ สจวร์ต

การกลับสู่สก็อตแลนด์

[แก้]

หลังจากการสิ้นพระชนม์ของพระสวามี และ พระมารดา (มารีแห่งกีส ซึ่งเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในส็กอตแลนด์) แมรี่ตัดสินใจกลับสก็อตแลนด์ในเดือนสิงหาคม ค.ศ.1561 หลังจากใช้ชีวิตในฝรั่งเศสมาเกือบทั้งชีวิต การกลับมาของพระองค์เป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาก เนื่องจากสก็อตแลนด์ในช่วงเวลานั้นได้ผ่านการปฏิรูปศาสนา และ ส่วนใหญ่ได้เปลี่ยนมานับถือนิกายโปรเตสแตนต์ โดยมี จอห์น นอกซ์ (John Knox) เป็นผู้นำการปฏิรูปที่แข็งกร้าว ซึ่งเป็นผู้ต่อต้านนิกายคาทอลิกอย่างรุนแรง และ วิพากษ์วิจารณ์แมรี่อย่างเปิดเผย

แมรี่ซึ่งเป็นคาทอลิก ทรงพยายามประนีประนอมกับสถานการณ์ใหม่ พระองค์ทรงอนุญาตให้มีการประกอบพิธีมิสซาส่วนพระองค์ได้ แต่ก็ไม่พยายามที่จะฟื้นฟูอำนาจของคริสตจักรคาทอลิกในสก็อตแลนด์อย่างรุนแรง ทรงแต่งตั้งที่ปรึกษาที่เป็นโปรเตสแตนต์หลายคน และ ทรงใช้การปกครองที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพในช่วงแรก แต่การกระทำของพระองค์มักถูกมองด้วยความสงสัยจากผู้นำโปรเตสแตนต์

ในปี ค.ศ.1565 แมรี่ทรงตัดสินใจอภิเษกสมรสกับเฮนรี สจวร์ต ลอร์ดดาร์นลีย์ (Henry Stuart, Lord Darnley) ซึ่งเป็นญาติสนิทของพระองค์ (ทั้งคู่เป็นพระนัดดาของเจ้าหญิงมาร์กาเร็ต ทิวดอร์) การสมรสนี้ยิ่งตอกย้ำสิทธิ์ของแมรี่ในราชบัลลังก์อังกฤษ และ ทำให้เอลิซาเบธที่ 1 ไม่พอใจอย่างมาก ดาร์นลีย์เป็นชายหนุ่มรูปงาม แต่มีบุคลิกอ่อนแอ ไม่มีความรับผิดชอบ และ ทะเยอทะยาน ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองตึงเครียดขึ้นอย่างรวดเร็ว

ความสัมพันธ์ที่เลวร้ายลงนำไปสู่เหตุการณ์ฆาตกรรมอันน่าสลดใจ ในวันที่ 9 มีนาคม ค.ศ.1566 ดาร์นลีย์พร้อมด้วยขุนนางโปรเตสแตนต์ที่ต้องการบ่อนทำลายอำนาจของแมรี่ ได้บุกเข้าไปในห้องอาหารของแมรี่ที่พระราชวังโฮลีรูด (Holyrood Palace) และ สังหารเดวิด ริซซิโอ (David Rizzio) เลขาส่วนพระองค์และที่ปรึกษาคนสนิทของแมรีอย่างโหดเหี้ยมต่อหน้าพระองค์ ผู้ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ การกระทำนี้เป็นการท้าทายอำนาจของพระราชินีอย่างเปิดเผย

เฮนรี่ สจวร์ต ลอร์ดดาร์นลีย์ พระสวามีองค์ที่สองของแมรี่ สจวร์ต และพระบิดาของพระเจ้าเจมส์ที่ 6

ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1567 เกิดเหตุการณ์ระเบิดขึ้นที่บ้านพักของลอร์ดดาร์นลีย์ที่เคิร์กโอฟิลด์ (Kirk o' Field) ใกล้ เอดินบะระ ร่างของดาร์นลีย์ และ คนรับใช้ของเขาถูกพบเสียชีวิตอยู่ใกล้กับบ้านที่ระเบิด แม้ว่าตัวบ้านจะถูกระเบิด แต่ร่างของดาร์นลีย์ไม่ได้รับบาดเจ็บจากการระเบิด ซึ่งชี้ให้เห็นว่าเขาถูกรัดคอเสียชีวิตก่อนจะนำร่างออกมาวางไว้ข้างนอก เหตุการณ์นี้สร้างความตกตะลึงอย่างยิ่ง และ สงสัยว่าใครอยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมนี้

ความตกต่ำและการถูกจองจำในอังกฤษ

[แก้]

เพียงสามเดือนหลังการสิ้นพระชนม์ของดาร์นลีย์ ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ.1567 แมรี่ทรงอภิเษกสมรสกับเจมส์ เฮปเบิร์น เอิร์ลแห่งบอธเวลล์ (James Hepburn, Earl of Bothwell) ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกสงสัยว่าเป็นผู้บงการการฆาตกรรมดาร์นลีย์อย่างกว้างขวาง การกระทำนี้สร้างความไม่พอใจอย่างรุนแรงในหมู่ขุนนางโปรเตสแตนต์ และ ประชาชนชาวสกอตแลนด์ แมรี่ถูกมองว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม และ การสมรสกับผู้ต้องสงสัยทำให้พระองค์เสียความชอบธรรมอย่างหนัก ขุนนางกบฏจับกุมแมรี่ และ บังคับให้พระองค์ สละราชสมบัติ ในวันที่ 24 กรกฎาคม ค.ศ.1567 ให้แก่พระโอรส พระชนมายุเพียง 13 เดือนของพระองค์ ซึ่งต่อมาคือพระเจ้าเจมส์ที่ 6 แห่งสกอตแลนด์

แมรี่ถูกคุมขังอยู่ที่ปราสาทลอคเลเวน (Lochleven Castle) แต่สามารถหลบหนีออกมาได้ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1568 ทรงพยายามรวบรวมกำลังทัพเพื่อกู้บัลลังก์คืน แต่ก็พ่ายแพ้ต่อกองทัพของขุนนางฝ่ายกบฏในยุทธการแลงไซด์ (Battle of Langside)

หลังความพ่ายแพ้ แมรี่ตัดสินใจลี้ภัยไปยังอังกฤษ โดยทรงหวังว่าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 พระญาติผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน (ทั้งคู่เป็นพระนัดดาของ มาร์กาเรต ทิวเดอร์) จะให้ความช่วยเหลือ และ สนับสนุนให้พระองค์ได้กลับคืนสู่บัลลังก์ อย่างไรก็ตาม เอลิซาเบธที่ 1 ซึ่งมองแมรี่เป็นภัยคุกคามต่อบัลลังก์ของพระองค์ (เนื่องจากแมรี่มีสิทธิ์ในราชบัลลังก์อังกฤษที่แข็งแกร่งกว่าในสายตาของชาวคาทอลิก) ได้สั่งให้ คุมขังแมรี แทน พระองค์ทรงใช้ชีวิตส่วนใหญ่ที่เหลือในอังกฤษในฐานะนักโทษภายใต้การดูแลของขุนนางต่างๆ เป็นเวลานานถึง 19 ปี โดยถูกย้ายจากปราสาทแห่งหนึ่งไปอีกแห่งหนึ่ง

การพิจารณาคดีและการประหารชีวิต

[แก้]

ตลอดระยะเวลาที่ถูกจองจำ แมรี่กลายเป็นศูนย์รวมความหวังของชาวคาทอลิกอังกฤษ ที่ต้องการโค่นล้มเอลิซาเบธที่ 1 และ ฟื้นฟูศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกในอังกฤษ พระองค์ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการสมคบคิดหลายครั้งเพื่อปลงพระชนม์เอลิซาเบธ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แผนการบาบิงตัน (Babington Plot) ในปี ค.ศ.1586 ซึ่งมีการติดต่อสื่อสารกันผ่านรหัสลับ แม้ว่าแมรี่จะยืนยันว่าพระองค์ไม่ทราบเรื่องแผนการลอบปลงพระชนม์ แต่หลักฐานที่ฝ่ายเอลิซาเบธรวบรวมมาได้ (ซึ่งนักประวัติศาสตร์บางคนยังคงถกเถียงเรื่องความน่าเชื่อถือ) ชี้ให้เห็นว่าพระองค์ทรงเห็นชอบในการกระทำดังกล่าว

ในเดือนตุลาคม ค.ศ.1586 แมรี่ถูกนำตัวขึ้นพิจารณาคดีในข้อหากบฏ ณ ปราสาทฟอเธอริงเฮย์ โดยคณะผู้พิพากษา 36 คน แม้พระองค์จะไม่มีทนายความ และ ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงหลักฐานเต็มที่ แมรี่ก็ทรงปกป้องตนเองอย่างกล้าหาญ และ สง่างาม แต่สุดท้ายก็ถูกตัดสินว่า มีความผิด ในวันที่ 25 ตุลาคม ค.ศ.1586

เอลิซาเบธที่ 1 ลังเลอย่างมากที่จะลงพระปรมาภิไธยในพระราชโองการประหารชีวิตพระญาติของพระองค์เอง เนื่องจากเป็นเรื่องที่ไม่มีกษัตริย์องค์ใดเคยทำมาก่อนในยุโรป คือ การประหารชีวิตกษัตริย์ที่ยังทรงพระชนม์ (แม้จะสละราชสมบัติแล้ว) แต่ด้วยแรงกดดันจากรัฐสภา และ ที่ปรึกษาที่เห็นว่าแมรี่เป็นภัยคุกคามที่ไม่สามารถปล่อยไว้ได้ เอลิซาเบธจึงทรงลงพระปรมาภิไธยในที่สุด

ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1587 สมเด็จพระราชินีนาถแมรี่ที่ 1 แห่งสกอตแลนด์ ถูกประหารชีวิตด้วยการตัดพระเศียร ณ ท้องพระโรงใหญ่ของปราสาทฟอเธอริงเฮย์ ด้วยความสงบ และ กล้าหาญ ก่อนสิ้นพระชนม์ พระองค์ทรงประกาศว่าทรงเป็น "พระราชินีและมรณสักขี (ผู้พลีชีพ) เพื่อคริสตจักร" การประหารชีวิตของพระองค์สร้างความตกตะลึงไปทั่วยุโรป

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ ผู้ตัดสินใจประหารชีวิตสมเด็จพระราชินีนาถแมรี่ที่ 1 แห่งสก็อตแลนด์

มรดกและบทบาททางประวัติศาสตร์

[แก้]

แมรี่ สจวร์ต ทรงเป็นสัญลักษณ์ของโศกนาฏกรรมและความขัดแย้งระหว่างราชวงศ์ ศาสนา และ การเมืองในศตวรรษที่ 16 ชีวิตของพระองค์ยังคงเป็นหัวข้อที่นักประวัติศาสตร์และนักเขียนให้ความสนใจอย่างไม่เสื่อมคลาย โดยมีทั้งผู้ที่เห็นใจและผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์การกระทำของพระองค์

แม้ว่าแมรี่จะไม่เคยขึ้นครองราชย์อังกฤษ แต่พระโอรสของพระองค์ พระเจ้าเจมส์ที่ 6 แห่งสกอตแลนด์ ได้ขึ้นครองราชย์เป็น พระเจ้าเจมส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1603 หลังการสวรรคตของเอลิซาเบธที่ 1 ทำให้ราชบัลลังก์อังกฤษ และ สกอตแลนด์ถูกรวมเข้าเป็นหนึ่งภายใต้กษัตริย์องค์เดียว ซึ่งเป็นการสานต่อสิทธิ์ในราชบัลลังก์อังกฤษของแมรี่โดยทางอ้อม

พระศพของแมรี่ถูกฝังครั้งแรกที่อาสนวิหารปีเตอร์โบโร แต่ต่อมาในปี ค.ศ. 1612 พระเจ้าเจมส์ที่ 1 ทรงมีพระราชดำริให้ย้ายพระศพของพระมารดาไปฝังไว้ที่เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ กรุงลอนดอน ในสุสานที่สวยงามตรงข้ามกับสุสานของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 ซึ่งเป็นสถานที่รำลึกถึงราชินีผู้โดดเด่นสองพระองค์

สุสานของสมเด็จพระราชินีนาถแมรี่ที่ 1 แห่งสกอตแลนด์ ภายในเวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ กรุงลอนดอน





ตราอาร์มพระจำพระองค์

[แก้]

วงศ์วาน

[แก้]
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
เจมส์ที่ 2
แห่งสกอตแลนด์
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
เจมส์ที่ 3 แห่งสกอตแลนด์
 
แมรี สจวต
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
เจมส์ ฮามิลตัน เอิร์ลที่ 1 แห่งอาร์แรน
 
เอลิซาเบธ ฮามิลตัน
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
เจมส์ ฮามิลตัน เอิร์ลที่ 2 แห่งอาร์แรน
 
จอห์น สจวต เอิร์ลแห่งเลนน็อก
 
เฮนรีที่ 7
แห่งอังกฤษ
 
เอลิซาเบธแห่งยอร์ก
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
กลูด
ดยุกแห่งกีซ
 
อ็องตัวแน็ตเดอบูร์บง
 
เจมส์ที่ 4
แห่งสกอตแลนด์
 
 
 
 
 
 
มาร์กาเร็ต
ทิวดอร์
 
อาร์ชิบัลด์ ดักลาส เอิร์ลที่ 6 แห่งแองกัส
 
เฮนรีที่ 8
แห่งอังกฤษ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ฟร็องซัว
ดยุกแห่งกีซ
 
ชาร์ล พระคาร์ดินัลแห่งลอแรน
 
มารีแห่งกีซ
 
เจมส์ที่ 5
แห่งสกอตแลนด์
 
แมทธิว สจวต เอิร์ลที่ 4 แห่งเลนน็อก
 
มากาเร็ต ดักลาส
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
เจมส์ สจวต เอิร์ลที่ 1 แห่งมอเรย์
 
แมรีที่ 1 แห่งสกอตแลนด์
 
 
 
 
 
เฮนรี สจวต ลอร์ดดาร์นลีย์
 
เอ็ดเวิร์ดที่ 6
แห่งอังกฤษ
 
แมรีที่ 1
แห่งอังกฤษ
 
เอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
เจมส์ที่ 6 แห่งสกอตแลนด์
เจมส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ
 

พระอิสริยยศ

[แก้]
  • 8 ธันวาคม ค.ศ. 1542 – 14 ธันวาคม ค.ศ. 1542: เจ้าหญิงแห่งสกอตแลนด์ (Her Royal Highness The Princess of Scotland)
  • 14 ธันวาคม ค.ศ. 1542 – 24 กรกฎาคม ค.ศ. 1567: สมเด็จพระราชินีนาถแห่งสกอตแลนด์ (Her Majesty The Queen of Scotland)

อ้างอิง

[แก้]
  1. Bishop John Lesley said Mary was born on the 7th, but Mary and John Knox claimed the 8th, which was the feast day of the Immaculate Conception of the Virgin Mary (Fraser 1994, p. 13; Wormald 1988, p. 11).
  2. While Catholic Europe switched to the New Style Gregorian calendar in the 1580s, England and Scotland retained the Old Style Julian calendar until 1752. In this article, dates before 1752 are Old Style, with the exception that years are assumed to start on 1 January rather than 25 March.
ก่อนหน้า สมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1 แห่งสกอตแลนด์ ถัดไป
พระเจ้าเจมส์ที่ 5
กษัตริย์แห่งสกอตแลนด์
(ราชวงศ์สจวต)

(พ.ศ. 2085-2110)
พระเจ้าเจมส์ที่ 6
แคทเธอรีน เดอ เมดิชิ
พระราชินีแห่งฝรั่งเศส
ใน พระเจ้าฟรองซัวส์ที่ 2
(ราชวงศ์วาลัวส์)

อลิซาเบธแห่งออสเตรีย