ข้ามไปเนื้อหา

หลอดเลือดแดงอักเสบแบบไจแอนต์เซลล์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
หลอดเลือดแดงอักเสบแบบไจแอนต์ เซลล์
ชื่ออื่นTemporal arteritis, cranial arteritis,[1] Horton disease,[2] senile arteritis,[1] granulomatous arteritis[1]
ภาพพยาธิวิทยาฮิสโตโลจีในหลอดเลือดแดงซีรีบรัล ย้อมสีแบบ Elastica
สาขาวิชาวิทยารูมาตอยด์, เวชศาสตร์ฉุกเฉิน
อาการปวดศีรษะ, ปวดขมับ, อาการไข้, เห็นภาพซ้อน, เปิดปากลำบาก[3]
ภาวะแทรกซ้อนตาบอด, เส้นเลือดแดงใหญ่แบ่งชั้น, เส้นเลือดแดงใหญ่โป่งพอง, polymyalgia rheumatica[4]
การตั้งต้นอายุ > 50[4]
สาเหตุการอักเสบยองวาซาวอซอรัมในผนังของหลอดเลือดแดง[4]
วิธีวินิจฉัยตามอาการและผลเลือด, ตรวจเนื้อเยื่อ[4]
โรคอื่นที่คล้ายกันหลอดเลือดแดงอักเสบทาคายาซุ,[5] หลอดเลือดสมองแตก, อะมิลอยโดซิสปฐมภูมิ[6]
การรักษาสเตรอยด์, ไบสฟอสฟอเนต, ตัวยับยั้งโปรตอนปั๊มป์[4]
ความชุก~ 1 ใน 15,000 คน ต่อปี (อายุ > 50)[2]

หลอดเลือดแดงอักเสบแบบไจแอนต์ เซลล์ (อังกฤษ: Giant Cell Arteritis; GCA) หรือ หลอดเลือดแดงขมับอักเสบ (อังกฤษ: temporal arteritis) เป็นโรคภูมิต้านทานตนเองที่ก่อการอักเสบที่หลอดเลือดขนาดใหญ่[4][7] อาการอาจประกอบด้วยปวดศีรษะ, ปวดขมับ, อาการไข้, เห้นภาพซ้อน และเปิดปากลำบาก[3] อาการแทรกซ้อนอาจเกิดการอุดตันของเส้นเลือดแดงดวงตาส่งผลให้เกิดความพิการทางการมองเห็น, การขาดระหว่างชั้นของหลอดเลือดเดืองใหญ่ และ หลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง[4] GCA มักมีความเกี่ยวพันกับการเกิดปวดกล้ามเนื้อทั่วแบบรูมาตอยด์[4]

สาเหตุเกิดโรคยังคงไม่ทราบชัดเจน[2] กลไกเกิดโรคประกอบด้วยการอักเสบของวาซาวอซอรัมในผนังของหลอดเลือดแดงที่มีขนาดใหญ่[4] ส่วนใหญ่เกิดที่หลอดเลือดแดงบริเวณศีรษะและคอ และมีบ้างพบที่หน้าอก[4][8] การตรวจวินิจฉัยดูที่อาการแสดง, การตรวจเลือด และฉายภาพ ตรวจยืนยันโดยใช้การตรวจเนื้อเยื้อของหลอดเลือดแดงเทมโปรัล[4] อย่างไรก็ตาม ราว 10% of ไม่พบคามผิดปกติในหลอดเลือดแดงเทมโปรัล[4]

การรักษาโดยทั่วไปใช้ สเตรอยด์ในระดับสูง ส่วนใหญ่ใช้ prednisone หรือ prednisolone[4] หลังอาการหายจึงลดโดสลงเหลือราว 15% ต่อเดือน[4]

พบความชุกของโรคอยู่ที่ 1 ใน 15,000 คนที่อายุมากกว่า 50 ปี[2] โดยทั่วไปมักพบผู้ป่วยโรคนี้มีอายุมากกว่าf 50 ปี และพบมากที่สุดในวัยช่วง 70 ปี[4] โดยพบโรคในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย[4] และผู้มีเชื้อสายยุโรปเหนือมักพบป่วยมากกว่า[5] พบการอธิบายโรคนี้ครั้งแรกในปี 1890[1]

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1 2 3 4 Nussinovitch, Udi (2017). The Heart in Rheumatic, Autoimmune and Inflammatory Diseases: Pathophysiology, Clinical Aspects and Therapeutic Approaches. Academic Press. p. 367. ISBN 9780128032688. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-10-22.
  2. 1 2 3 4 "Orphanet: Giant cell arteritis". www.orpha.net. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 September 2017. สืบค้นเมื่อ 14 September 2017.
  3. 1 2 "Giant Cell Arteritis". National Institute of Arthritis and Musculoskeletal and Skin Diseases. 13 April 2017. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 October 2017. สืบค้นเมื่อ 21 October 2017.
  4. 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 Weyand CM, Goronzy JJ (July 2014). "Clinical practice. Giant-cell arteritis and polymyalgia rheumatica". The New England Journal of Medicine. 371 (1): 50–7. doi:10.1056/NEJMcp1214825. PMC 4277693. PMID 24988557.
  5. 1 2 Johnson RJ, Feehally J, Floege J (2014). Comprehensive Clinical Nephrology E-Book. Elsevier Health Sciences. p. 300. ISBN 9780323242875. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-10-22.
  6. Ferri, Fred F. (2010). Ferri's Differential Diagnosis E-Book: A Practical Guide to the Differential Diagnosis of Symptoms, Signs, and Clinical Disorders. Elsevier Health Sciences. p. 195. ISBN 978-0323081634. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-10-22.
  7. Jennette JC, Falk RJ, Bacon PA, Basu N, Cid MC, Ferrario F, และคณะ (January 2013). "2012 revised International Chapel Hill Consensus Conference Nomenclature of Vasculitides". Arthritis and Rheumatism. 65 (1): 1–11. doi:10.1002/art.37715. PMID 23045170. S2CID 20891451.
  8. "Giant Cell Arteritis". National Institute of Arthritis and Musculoskeletal and Skin Diseases. 13 April 2017. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 October 2017. สืบค้นเมื่อ 21 October 2017.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]
การจำแนกโรค
ทรัพยากรภายนอก

แม่แบบ:Systemic vasculitis