พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญา
| พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญา | |
|---|---|
| พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น 4 พระองค์เจ้าชั้นเอก | |
| ประสูติ | 18 กันยายน พ.ศ. 2402 พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพพระมหานคร |
| สิ้นพระชนม์ | 4 เมษายน พ.ศ. 2449 (46 ปี) วังสวนดุสิต จังหวัดพระนคร |
| ราชวงศ์ | จักรี |
| พระบิดา | พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว |
| พระมารดา | เจ้าจอมมารดาบัว |
| ศาสนา | พุทธ |
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญา[1] หรือ อรไทยเทพกัลยา[2] (18 กันยายน พ.ศ. 2402 – 4 เมษายน พ.ศ. 2449) เป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาบัว
หลังพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญาสิ้นพระชนม์ลง ได้มีเสียงเล่าลือว่ามีเหตุการณ์แปลก ๆ เกิดขึ้นในพระบรมมหาราชวัง เป็นต้นว่า มีเสียงร้องโหยหวนหรือมีการพบเหตุวิญญาณแล้วโจษจันว่าเป็นพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญามาขอส่วนบุญส่วนกุศล ภายหลังพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวซึ่งเป็นพระเชษฐาต่างพระมารดาโปรดเกล้าให้มีการขุดสระน้ำขึ้นภายในพระบรมมหาราชวังเพื่ออุทิศพระราชกุศลพระราชทานแก่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญา ทรงพระราชทานนามว่า "สระพระองค์อรไทยฯ" เพื่อรักษาพระเกียรติยศของพระขนิษฐาและยังประโยชน์แก่ผู้คนทั้งหลาย[3][4] อย่างไรก็ตามสระดังกล่าวถูกขุดขึ้นก่อนการสิ้นพระชนม์ของพระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญา ดังนั้นเรื่องผีสางที่เล่าลือกันมารวมไปถึงเรื่องที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขุดสระเพื่ออุทิศพระราชกุศลจึงไม่เป็นความจริง[5]
พระประวัติ
[แก้]พระชนม์ชีพช่วงต้น
[แก้]พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญาเป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระชนนีคือเจ้าจอมมารดาบัว (สกุลเดิม ณ นคร) ธิดาของเจ้าพระยานครศรีธรรมราช (น้อย ณ นคร) กับท่านผู้หญิงอิน[6] พระองค์ได้รับพระราชทานพระนามจากพระชนกนาถ[2] มีพระเชษฐาและพระอนุชาร่วมพระชนกชนนีคือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมลักษณเลิศ[6] พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนศิริธัชสังกาศ[7] พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนมรุพงศ์ศิริพัฒน์[8] และพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดำรงฤทธิ์[9]
เมื่อพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญายังทรงพระเยาว์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเอาพระทัยใส่และสังเกตพลานามัยของพระราชธิดา ดังปรากฏในพระราชหัตถเลขาถึงพระเจ้าราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าปัทมราช ระบุความว่า "...ศรีสิทธิธงไชยแลอรไทยเทพกัญญาก็อยู่ดีอยู่ คนหลังนั้นอ้วนขาวโตมาก แขงแรงมาก..." [10] ครั้นเจริญพระชันษาก็ทรงรับราชการภายในพระบรมมหาราชวัง ทรงปฏิบัติหน้าที่เป็นพนักงานเช็ดกวาดห้องบนพระที่นั่ง ร่วมกันกับพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าแขไขดวง ซึ่งเป็นพระขนิษฐาต่างพระชนนี[11] โดยทั้งสองพระองค์จะแบ่งพื้นที่การดูแลออกเป็นสองส่วน และมีเจ้าพนักงานในบังคับบัญชาในพระองค์ เฉพาะพระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญาทรงดูแลเจ้าพนักงานทำความสะอาดพระที่นั่งมูลสถานบรมอาสน์ พระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติ (ห้องทอง) พระที่นั่งดำรงสวัสดิ์อนัญวงศ์ (ห้องผักกาด) และห้องเสวยโต๊ะกลม[12]
พระอาการประชวร
[แก้]พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญามีพระอาการประชวรกระเสาะกระแสะ พระพลานามัยไม่สู้สมบูรณ์มานาน ทรงพึ่งวิธีการรักษาทั้งแพทย์สมัยใหม่และไสยศาสตร์ แต่พระโรคหาคลายไม่[13] พระองค์ทรงหมั่นประกอบพระราชกุศลอยู่เสมอหวังให้หายจากพระอาการประชวร เช่น ทรงบริจาคเงินสำหรับสร้างกุฏิถวาย ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหารและวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร[14] ทรงทำพิธีสะเดาะเคราะห์ด้วยพิธีการบำเพ็ญทานสลากท่วมหลังช้างตามวิธีไสยศาสตร์อย่างโบราณ ดังปรากฏในพระราชหัตถเลขาของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวถึงพระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (หม่อมราชวงศ์ปุ้ม มาลากุล) เจ้ากรมราชพิธีกระทรวงวัง ความว่า "อรทัยขอยืมช้างใส่ฉลาก จะขอให้มายืนที่ประตูศรีสุดาวงศ์ ให้จัดมาให้ตามประสงค์ จะยืนแห่งใดเมื่อใดให้พูดกับกรมมรุพงษ์"[3]
นอกจากนี้ยังมีพระดำริในการขุดสระน้ำบำเพ็ญพระกุศลด้วยทรงหวังพระทัยให้หายจากพระอาการประชวร ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระบรมราชานุญาตตามที่ขอ สิ้นงบประมาณ 8,661 บาท 8 อัฐ เมื่อสระน้ำแล้วเสร็จได้ประกอบพิธีถวายเมื่อวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2448 ในพิธีถวายสระ มีพระสงฆ์ 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์ฉลองสระ มีการแสดงพระธรรมเทศนาหนึ่งกัณฑ์ ในงานได้จัดไทยธรรมถวายพระอย่างยิ่งใหญ่ รวมทั้งสร้างพัดรองไว้เป็นที่ระลึก ต่อมาสระน้ำดังกล่าวเป็นที่รู้จักในนาม สระพระองค์อรไทยฯ[5] ก่อนสิ้นพระชนม์ พระองค์นำความกราบบังคมทูลพระกรุณา ขอพระราชทานทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินส่วนพระองค์แด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเพื่อโปรดให้จัดการพระศพ[15]
- พระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญาทรงรับศีลจากสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส
- พระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญา (ซ้าย) ประทับอยู่ร่วมกับเจ้านายฝ่ายในพระองค์อื่น
- พระยาบำเรอภักดิ์ ปลัดทูลฉลองกระทรวงวังกำลังอ่านรายงานก่อสร้างสระต่อพระพักตร์พระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญา
- พระสงฆ์เสกน้ำพระพุทธมนต์ลงสระพระองค์อรไทยฯ
สิ้นพระชนม์
[แก้]พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญาสิ้นพระชนม์เมื่อเวลา 09.45 น. ของวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2449 ณ พระตำหนักภายในวังสวนดุสิต[13] ในการนี้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานน้ำสรงพระศพ ทรงสวมพระชฎาพระราชทาน พร้อมทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระโกศกุดั่นน้อยทรงพระศพ ประดิษฐานบนชั้นแว่นฟ้า 2 ชั้น แวดล้อมด้วยเครื่องสูงตามพระเกียรติยศ พระราชทานเพลิงพระศพ ณ พระเมรุ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหารเมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2449[16] พระอัฐิบรรจุไว้ในโกศทอง ประดิษฐาน ณ หอพระนาก[17]
คติชน
[แก้]มีการเล่าลือกันว่าการสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญาเกิดจากการอัตวินิบาตกรรมในเขตพระราชฐาน และยิ่งโจษขานมากขึ้นในหมู่ชาววัง ว่ามีผู้ได้ยินเสียงโหยหวนในยามวิกาล รวมทั้งมีผู้พบเห็นวิญญาณ โดยเฉพาะวันพระหรือวันถือศีล[4] จึงคาดกันไปว่าคงเป็นดวงพระวิญญาณของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญามาร้องขอส่วนบุญ[3] เหล่าพราหมณ์หลวงและโหรหลวงทั้งหลายต่างแนะนำกันว่าต้องกระทำการบางอย่างเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ดวงพระวิญญาณไปผุดไปเกิด[4]
เรื่องราวดังกล่าวได้เข้าไปถึงพระเนตรพระกรรณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพราะถือเป็นเรื่องเสื่อมเสียพระเกียรติยศและอัปมงคล สร้างความหวาดกลัวในหมู่ชาววัง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดให้มีการบำเพ็ญกุศลถวายสังฆทาน และขุดสระน้ำอุทิศส่วนกุศล พระราชทานนามว่า "สระพระองค์อรไทยฯ" ในการบำเพ็ญพระราชกุศลดังกล่าวได้จัดอย่างครึกครื้น มีเจ้านายฝ่ายในเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก มีการลอยสลากลงในสระเป็นกุศลทาน แล้วให้ข้าหลวงและเจ้าพนักงานมาตักสลากกันคนละลูก[3] หลังการสมโภชเสร็จสิ้น เรื่องผีที่เล่าลือกันของชาววังจึงยุติลง[4]
อย่างไรก็ตาม เรื่องเล่าลือที่ว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะสระพระองค์อรไทยฯ สร้างขึ้นตามพระประสงค์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญา และสระสร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2448 ก่อนพระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญาจะสิ้นพระชนม์ในปีถัดมา ดังนั้นเรื่องผีสางที่เล่าลือกันมารวมไปถึงเรื่องที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขุดสระเพื่ออุทิศพระราชกุศลจึงไม่เป็นความจริง[5]
พระเกียรติยศ
[แก้]| ธรรมเนียมพระยศของ พระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญา | |
|---|---|
ธงประจำพระอิสริยยศ | |
| การทูล | ใต้ฝ่าพระบาท[18] |
| การแทนตน | ข้าพระพุทธเจ้า[18] |
| การขานรับ | พ่ะย่ะค่ะ/เพคะ |
พระอิสริยยศ
[แก้]เครื่องราชอิสริยาภรณ์
[แก้]- พ.ศ. 2442 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 2 ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ (ท.จ.ว.) (ฝ่ายใน)[1] - พ.ศ. 2447 -
เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 4 ชั้นที่ 3 (ม.ป.ร.3)[2] - พ.ศ. 2436 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 2 ทุติยจุลจอมเกล้า (ท.จ.) (ฝ่ายใน)
พระอนุสรณ์
[แก้]- สระพระองค์อรไทยฯ – เป็นสระน้ำภายในพระบรมมหาราชวัง ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้ขุดตามพระดำริของพระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญา เพื่อบำเพ็ญพระกุศลและยังประโยชน์แก่ชาววัง[3][4][5]
- สะพานอรไทย – เป็นสะพานข้ามคลองเปรมประชากรบริเวณที่บรรจบกับคลองผดุงกรุงเกษม ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรป เพื่ออุทิศพระกุศลแก่พระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญา[21]
- ตำหนักพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญา ภายในพระบรมมหาราชวัง – เดิมเป็นที่ประทับส่วนพระองค์ ปัจจุบันใช้เป็นหอสมุดมหามงคล
- ตำหนักพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญา ภายในพระราชวังดุสิต – เดิมเป็นที่ประทับส่วนพระองค์ ปัจจุบันเป็นสถานที่จัดแสดงพระภูษาในรัชกาลที่ 5 และผ้าไหมจากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ[21]
พงศาวลี
[แก้]| พงศาวลีของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญา | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
อ้างอิง
[แก้]- 1 2 "การพระราชทานเครื่องราชอิศริยาภรณ์สำหรับตระกูลพระจุลจอมเกล้าแลถวายบังคมพระบรมรูป" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 16 (34): 498. 19 พฤศจิกายน 2442. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2018-12-07.
- 1 2 3 "พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ ฝ่ายใน" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 21 (32): 570. 6 พฤศจิกายน 2447. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2015-10-02. สืบค้นเมื่อ 2012-12-16.
- 1 2 3 4 5 ศันสนีย์ วีระศิลป์ชัย (31 มกราคม 2560). "พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญา (สระพระองค์อรทัย)". ศิลปวัฒนธรรม. สืบค้นเมื่อ 6 ธันวาคม 2561.
{{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=(help)[ลิงก์เสีย] - 1 2 3 4 5 รัตนะ ปาริฉัตร (17 พฤศจิกายน 2560). "สระน้ำพระองค์อรทัย ผันน้ำจากเจ้าพระยา ใช้สอยในวังหลวง". มติชนออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 6 ธันวาคม 2561.
{{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=(help) - 1 2 3 4 ปกรณ์ กิตฺติธโร, พระมหา (28 สิงหาคม 2565). ""สระอรทัยเทพกัญญา" ข่าวลือเสียหาย เสื่อมพระเกียรติยศเจ้านาย มิได้เป็นดังที่ว่าเลย". ศิลปวัฒนธรรม. สืบค้นเมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2568.
{{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=(help) - 1 2 กรมศิลปากร. สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ (2554). ราชสกุลวงศ์ (PDF). กรุงเทพฯ: สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร. p. 56. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2017-02-02. สืบค้นเมื่อ 2018-12-06.
- ↑ กรมศิลปากร. สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ (2554). ราชสกุลวงศ์ (PDF). กรุงเทพฯ: สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร. p. 61. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2017-02-02. สืบค้นเมื่อ 2018-12-06.
- ↑ กรมศิลปากร. สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ (2554). ราชสกุลวงศ์ (PDF). กรุงเทพฯ: สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร. p. 74. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2017-02-02. สืบค้นเมื่อ 2018-12-06.
- ↑ กรมศิลปากร. สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ (2554). ราชสกุลวงศ์ (PDF). กรุงเทพฯ: สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร. p. 76. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2017-02-02. สืบค้นเมื่อ 2018-12-06.
- ↑ จอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ (2473). พระราชหัตถเลขาในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามกุฎพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว. พระนคร: โสภณพิพรรฒธนากร. p. 18.
- ↑ จงจิตรถนอม ดิศกุล, หม่อมเจ้า. บันทึกความทรงจำของหม่อมเจ้าจงจิตรถนอม ดิศกุล. กรุงเทพฯ : วัชรินทร์การพิมพ์, 2522, หน้า 11
- ↑ จงจิตรถนอม ดิศกุล, หม่อมเจ้า. บันทึกความทรงจำของหม่อมเจ้าจงจิตรถนอม ดิศกุล. กรุงเทพฯ : วัชรินทร์การพิมพ์, 2522, หน้า 14
- 1 2 "ข่าวสิ้นพระชนม์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 23 (2): 41. 8 เมษายน 2449.
- ↑ "การพระราชกุศลสตมาหสมัยและศราชพรตในพระศพพระเจ้าน้องนางเธอ พระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญา" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 23 (17): 389. 22 กรกฎาคม 2449.
- ↑ "การพระเมรุวัดเทพศิรินทราวาศ งานที่ 2 พระศพพระเจ้าน้องนางเธอ พระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญา" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 23 (45): 1152. 3 กุมภาพันธ์ 2449.
- ↑ กรมศิลปากร. สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ (2554). ราชสกุลวงศ์ (PDF). กรุงเทพฯ: สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร. p. 65. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2017-02-02. สืบค้นเมื่อ 2018-12-06.
- ↑ "การพระราชกุศลสัตมวาร วันพระราชทานเพลิงพระศพพระเจ้าน้องนางเธอ พระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญา" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 23 (45): 1155. 3 กุมภาพันธ์ 2449.
- 1 2 คุณหญิงกุลทรัพย์ เกษแม่นกิจ และสายไหม จบกลศึก (บรรณาธิการ) (2555). ราชาศัพท์ (PDF). กรุงเทพฯ: สำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี. p. 22-23.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "พระบรมราชโองการ ประกาศคำนำพระนามพระบรมวงศานุวงษ์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 27 (ก): 1. 30 ตุลาคม 2453.
- ↑ "พระบรมราชโองการ ประกาศคำนำพระนามพระบรมวงศานุวงษ์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 28 (ก): 154. 30 กรกฎาคม 2454.
- 1 2 ปิ่นอนงค์ ปานชื่น (24 ธันวาคม 2556). "สะพานเก่า เล่าเรื่อง". กรุงเทพธุรกิจออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 5 พฤษภาคม 2563.
{{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=(help) - ↑ ประชุมนิทานพระราชนิพนธ์รัชกาลที่ 6 ภาค 2 (PDF). พระนคร: รุ่งเรืองธรรม. 2505. p. ไม่มีเลขหน้า.