เอลีซาแบ็ตแห่งวาลัว
| เอลีซาแบ็ตแห่งวาลัว | |
|---|---|
| สมเด็จพระราชินีแห่งสเปน | |
เอลิซาเบธแห่งวาลัว | |
| สมเด็จพระราชินีแห่งสเปน | |
| ดำรงพระยศ | 22 มิถุนายน ค.ศ.1559 – 3 ตุลาคม ค.ศ.1568 |
| พระราชสมภพ | 2 เมษายน ค.ศ.1545 พระราชวังฟงแตนโบล ฝรั่งเศส |
| สวรรคต | 3 ตุลาคม ค.ศ.1568 (พระชนมายุ 23 พรรษา) พระราชวังหลวงอารันฆูเอซ สเปน |
| ฝังพระศพ | วิหารหลวงเอลเอสโกเรียล สเปน |
| คู่อภิเษก | พระเจ้าเฟลีเปที่ 2 แห่งสเปน |
| พระราชบุตร | อิซาเบล กลารา เอวเฆเนียแห่งสเปน กาตาลินา มิกาเอลาแห่งสเปน |
| ราชวงศ์ | ราชวงศ์วาลัวส์ (พระราชสมภพ) ราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค (เสกสมรส) |
| พระราชบิดา | พระเจ้าอ็องรีที่ 2 แห่งฝรั่งเศส |
| พระราชมารดา | กาเตรีนา เด เมดีชี สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส |
| ศาสนา | โรมันคาทอลิก |
เอลีซาแบ็ตแห่งวาลัว (อังกฤษ: Elisabeth of Valois; ฝรั่งเศส: Élisabeth de France หรือ Élisabeth de Valois; สเปน: Isabel de Valois; พระราชสมภพ 2 เมษายน ค.ศ.1545 – สวรรคต 3 ตุลาคม ค.ศ.1568) ทรงเป็นเจ้าหญิงแห่งฝรั่งเศสจากราชวงศ์วาลัว เป็นสมเด็จพระราชินีแห่งสเปน ในฐานะพระมเหสีพระองค์ที่สามของพระเจ้าเฟลีเปที่ 2 แห่งสเปน(Philip II of Spain)
แม้จะมีพระชนมายุเพียง 23 พรรษาเมื่อสวรรคต แต่เอลีซาแบ็ตก็ทรงมีบทบาทสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์ฝรั่งเศสและสเปนในช่วงเวลาที่ยุโรปกำลังเผชิญกับความขัดแย้งทางศาสนาและอำนาจทางการเมือง พระองค์ทรงเป็นที่รักของพระสวามีและได้รับการยอมรับจากราชสำนักสเปน ในฐานะราชินีที่งดงาม เฉลียวฉลาด และเปี่ยมด้วยเสน่ห์
ชีวิตช่วงต้นและการศึกษา
[แก้]เอลีซาแบ็ตแห่งวาลัวเสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 2 เมษายน ค.ศ.1545 ณ พระราชวังฟงแตนโบล (Château de Fontainebleau) ราชอาณาจักรฝรั่งเศส พระองค์เป็นพระธิดาองค์โตของพระเจ้าอ็องรีที่ 2 แห่งฝรั่งเศส (Henry II of France) และกาเตรีนา เด เมดีชี (Catherine de' Medici) ผู้ทรงอิทธิพล เอลีซาแบ็ตทรงเป็นหนึ่งในพระโอรสธิดา 10 พระองค์ของทั้งสองพระองค์ ซึ่งในจำนวนนี้มีพระเชษฐา 3 พระองค์ ที่ได้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ฝรั่งเศส ทำให้พระองค์อยู่ในศูนย์กลางของราชสำนักวาลัว
เอลีซาแบ็ตทรงได้รับการเลี้ยงดูในราชสำนักฝรั่งเศส พร้อมกับพระพี่น้องและเจ้าหญิงองค์อื่นๆ รวมถึงแมรี สมเด็จพระราชินีแห่งสกอตแลนด์ (Mary, Queen of Scots) ซึ่งเป็นพระเชษฐภคินีในอนาคตของพระองค์ แม้แมรีจะมีพระอิสริยศักดิ์สูงกว่า แต่ทั้งสองก็ยังคงเป็นพระสหายสนิทกันตลอดพระชนม์ชีพ เอลีซาแบ็ต ทรงได้รับการศึกษาที่ดีเยี่ยม ทรงเชี่ยวชาญหลายภาษา และทรงแสดงความสนพระทัยในด้านศิลปะ โดยเฉพาะการวาดภาพ ซึ่งได้รับคำแนะนำจาก โซโฟนิสบา อังกิสโซลา (Sofonisba Anguissola) จิตรกรหญิงชื่อดังชาวอิตาลีที่มาเป็นนางสนองพระโอษฐ์ของพระองค์ พระสิริโฉมงดงาม พระราชบุคลิกที่ขี้อายแต่มีเสน่ห์ และพระอัจฉริยภาพของพระองค์ ทำให้พระองค์เป็นที่ต้องการ ในฐานะเจ้าสาวของราชวงศ์ต่างๆ ในยุโรป ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ โดยเคยมีการเจรจาเพื่ออภิเษกสมรสกับพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 6 แห่งอังกฤษ (Edward VI of England) ด้วย

การอภิเษกสมรสกับพระเจ้าเฟลีเปที่ 2
[แก้]การอภิเษกสมรสของเอลีซาแบ็ต เป็นผลมาจากสนธิสัญญาสำคัญทางการเมือง นั่นคือ สนธิสัญญากาโต-ก็องเบรซี (Peace of Cateau-Cambrésis) ในปี ค.ศ.1559 ซึ่งเป็นข้อตกลงเพื่อยุติสงครามระหว่างฝรั่งเศสและสเปน โดยมีข้อกำหนดให้เอลีซาแบ็ตทรงอภิเษกสมรสกับพระเจ้าเฟลีเปที่ 2 แห่งสเปน (Philip II of Spain) ซึ่งเป็นกษัตริย์สเปนผู้ทรงอำนาจและเป็นพระสวามีของสมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1 แห่งอังกฤษ (Mary I of England) ผู้ล่วงลับ
เดิมที เอลีซาแบ็ตทรงหมั้นหมายกับอินฟันเตการ์โลส (Don Carlos) พระราชโอรสของพระเจ้าเฟลีเปที่ 2 ซึ่งมีพระชนมายุใกล้เคียงกัน แต่ด้วยข้อตกลงสันติภาพ ทำให้พระองค์ต้องอภิเษกสมรสกับพระบิดาของอินฟันเตการ์โลสแทน พิธีอภิเษกสมรสด้วยการมอบฉันทะ (proxy marriage) จัดขึ้นในวันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ.1559 ณ มหาวิหารน็อทร์-ดาม (Notre Dame Cathedral) กรุงปารีส โดยมีดยุกแห่งอัลบา (Duke of Alba) เป็นผู้แทนพระองค์ของพระเจ้าเฟลีเปที่ 2
หลังจากนั้น เอลีซาแบ็ตในวัย 14 พรรษา ได้เสด็จฯไปยังสเปนและเข้าเฝ้าพระเจ้าเฟลีเปที่ 2 ซึ่งมีพระชนมายุ 32 พรรษาเป็นครั้งแรก พิธีอภิเษกสมรสจริงจัดขึ้น ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1560 ณ เมืองกัวดาลาฮารา (Guadalajara) สเปน แม้จะมีพระชนมายุห่างกันมาก แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเอลีซาแบ็ตกับพระเจ้าเฟลีเปที่ 2 กลับเป็นไปอย่างอบอุ่นและเปี่ยมด้วยความรัก พระเจ้าเฟลีเปที่ 2 ทรงรักและทะนุถนอมพระมเหสีองค์นี้อย่างมาก ทรงใช้เวลาอยู่ใกล้ชิดพระองค์ แม้ในยามที่พระองค์ประชวร และทรงดูแลความสุขสบายของพระองค์อย่างดี

ชีวิตในราชสำนักสเปนและพระโอรสธิดา
[แก้]ในฐานะสมเด็จพระราชินีแห่งสเปน เอลีซาแบ็ตทรงปรับตัวเข้ากับราชสำนักสเปนได้อย่างรวดเร็ว แม้จะทรงคิดถึงฝรั่งเศสและพระมารดาเป็นอย่างมาก พระองค์ทรงนำเอาวัฒนธรรมและแฟชั่นแบบฝรั่งเศสเข้ามาในราชสำนักสเปน และทรงเป็นผู้อุปถัมภ์ศิลปะและดนตรี ทรงเป็นที่เคารพรักของราชวงศ์และขุนนางสเปน
เอลีซาแบ็ตทรงตั้งครรภ์หลายครั้ง แต่ก็ตกพระโลหิตและมีพระประสูติการก่อนกำหนดหลายครั้งเช่นกัน อย่างไรก็ตาม พระองค์ก็ทรงมีพระประสูติการพระราชธิดาที่เจริญพระชันษาเติบใหญ่สองพระองค์ ซึ่งต่อมาได้เป็นบุคคลสำคัญในราชวงศ์ฮาพส์บวร์ก (House of Habsburg) และราชวงศ์อื่นๆ ในยุโรป:
- อินฟันตาอิซาเบล กลารา เอวเฆเนีย (ค.ศ.1566–1633) ต่อมาคือเจ้าหญิงผู้ปกครองแห่งเนเธอร์แลนด์ของสเปน
- อินฟันตากาตาลีนา มิเกลา (ค.ศ.1567–1597) ต่อมาคือดัชเชสแห่งซาวอย

พระพลานามัย การสวรรคต และพระราชมรดก
[แก้]เอลีซาแบ็ตทรงมีปัญหาพระพลานามัยที่ไม่แข็งแรงนัก โดยเฉพาะหลังจากพระประสูติการพระราชธิดา และทรงประสบกับการทรงครรภ์ที่ยากลำบากหลายครั้ง
เอลีซาแบ็ตเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ค.ศ.1568 ณ พระราชวังหลวงอารันฆูเอซ (Royal Palace of Aranjuez) ด้วยพระชนมายุเพียง 23 พรรษา สาเหตุการสวรรคต คือภาวะแทรกซ้อนจากพระประสูติการก่อนกำหนดของพระราชโอรสที่สิ้นพระชนม์แรกคลอดพร้อมกับพระองค์ พระบรมศพของพระองค์ ถูกฝังไว้ที่วิหารหลวงเอลเอสโกเรียล (El Escorial) ซึ่งเป็นสถานที่ฝังพระศพของราชวงศ์สเปน
แม้จะมีพระชนม์ชีพที่สั้น แต่เอลีซาแบ็ตแห่งวาลัวทรงได้รับการจดจำ ในฐานะสมเด็จพระราชินีผู้เป็นที่รักและผู้มีบทบาทในการรักษาเสถียรภาพทางการเมืองระหว่างสเปนและฝรั่งเศสผ่านการสมรส พระองค์ทรงเป็นสัญลักษณ์ของความหวังในการมีรัชทายาทชายสำหรับพระเจ้าเฟลีเปที่ 2 แม้จะไม่สำเร็จ แต่พระธิดาทั้งสองพระองค์ก็ทรงเป็นผู้สืบสายเลือดสำคัญของราชวงศ์ฮาพส์บวร์กต่อไป เรื่องราวของพระองค์ยังคงเป็นที่สนใจของนักประวัติศาสตร์ในฐานะหนึ่งในพระราชินีที่น่าสงสารและน่าชื่นชมในยุคเรอเนซองส์ของสเปน
